21 พ.ค. 2022 เวลา 10:38 • ไลฟ์สไตล์
・เมื่อเราทุกคนเกิดมาพร้อมกับคำว่า "แตกต่าง" เรื่องราวของผู้คนจึงสับสนวุ่นวาย คิดเห็นต่างกัน คิดเห็นตรงกันก็แล้วแต่เหตุการณ์ มันก็เป็นแบบนี้เรื่อยมา
1
ดูเอาง่ายๆ แค่นิ้วสิบนิ้วของเรายังไม่เหมือนกัน นับภาษาอะไรกับความคิดหรือการกระทำของคนที่ย่อมแตกต่างกันเป็นธรรมดา เป็นเรื่องที่เราต้องเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความ(สงบ)สุข
3
มุมที่คุณเคยคิดว่าไม่มีอะไร มาตอนนี้มันอาจไม่ใช่ มารยาทในสังคมมันมีมากขึ้นตามการเปลี่ยนไปของวิถีชีวิตของเรา
อย่างเมื่อก่อนเราเจอใครก็อาจถามแก้เก้อไปว่าวันนี้กินข้าวกับอะไร แต่เดี๋ยวนี้ลองถามออกไปสิ เขาคงมองคุณแปลกๆ จะมาถามทำไม จะมาอยากรู้ทำไมเรื่องคนอื่น แบบนี้เป็นต้น
2
เอาว่า สิ่งไหนที่เราต้องปรับตัวรับรู้ รับทราบว่าไม่ควรพูดมันออกไป เพราะจะทำให้อีกฝ่ายอึดอัด ไม่สยายใจ เรื่องไหนต้องระวังไว้บ้างน่าจะดี มาคะ จะเล่าให้ฟังค่ะ
1
1. เคารพความเห็นต่าง และระวังในการให้ความเห็นออกไป
2
ยุคนี้ใครๆ ก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ ถ้ามันไม่ผิดกฏหมาย คอมเม้นท์กันได้ทุกแพลตฟอร์ม ทุกโพสต์ ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง ใครอยากจะพูดอะไร จะเขียนอะไรก็ได้ตามใจ
2
แต่ข้อหนึ่งให้พึงระลึกไว้ด้วย ทุกสิ่งที่คุณตัดสินใจทำมันลงไป อย่างคอมเม้นท์หรือโพสต์ลงสื่อโซเชียลทั้งหลาย หรือจะคลิปหลุดอะไรก็ตามแต่ มันจะอยู่แบบนั้นตราบนานเท่านาน ขนาดลบแล้วบางครั้งยังกู้คืนมาได้ มันอาจตามมาหลอกหลอนครอบครัวคุณ หน้าที่การงานของคุณได้ในภายหลัง
3
และที่มากกว่านั้น มันอธิบายตัวตนของคุณได้เป็นอย่างดีว่าคุณเป็นคนแบบไหน มีไลฟ์สไตล์แบบไหน เลือกคบคนแบบไหน พูดจายังไง มีความคิดแบบไหน
เดี๋ยวนี้หลายที่ตัดสินเลือกคนเข้าทำงานโดยดูจากเฟสบุ๊ค ไอจี ทวิตเตอร์ของผู้สมัคร เพราะเขาจะได้เห็นภาพรวมทั้งหมดเพียงเวลาสั้นๆ ว่าคนๆ นี้ เป็นคนยังไง ใจร้อนแค่ไหน เป็นต้น
1
ดังนั้น ก่อนจะโพสต์อะไร คอมเม้นท์อะไรให้นึกถึงความแตกต่างทางความคิดของแต่ละคนเอาไว้ด้วย พื้นที่ของเขาๆ ก็อยากจะโพสต์สิ่งที่เขาคิด
2
ถ้าเราเห็นต่าง ไม่ชอบก็อันเฟรนด์ไป ปัดผ่านไป ไม่จำเป็นต้องไปคอมเม้นท์ต่อว่าต่อขานใครก็ได้นะ เราทุกคนควรเคารพในมุมมองของแต่ละบุคคลจะดีกว่า และยังเป็นการเซฟความรู้สึกเราเองอีกทางหนึ่งด้วย
2
2. ถ้าใครโชว์รูปในโทรศัพท์ให้ดู อย่าปัดหน้าจอมือถือ
1
อันนี้เหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆ ที่คนมองข้าม แต่จริงๆ ก็เป็นเรื่องใหญ่เหมือนกันในการคบหากัน หลายครั้งที่ใครซักคนอยากจะแชร์รูปหรือคลิปอะไรสนุกๆ กับคุณ อาจยื่นมือถือให้คุณดูเอง
เมื่อดูเสร็จแล้ว อย่าได้เผลอตัวปัดหน้าจอมือถือเพื่อดูรูปอื่นหรือคลิปอื่นโดยที่เจ้าของไม่อนุญาติโดยเด็ดขาด มันเป็นการเสียมารยาทอย่างมาก ต่อให้สนิทสนมกันแค่ไหนก็ตามเถอะ
เพราะว่าเราไม่รู้ว่ามีรูปอะไรอยู่ในนั้นบ้าง บางอย่างอาจเป็นความลับ บางเรื่องเราไม่ควรสอดรู้น่าจะดีกว่า แต่ดันไปเห็นไปรู้เข้า เดี๋ยวเรื่องวุ่นวายมากมายก็อาจตามมาก็เป็นได้ เขาให้ดูแค่ไหนก็ดูแค่นั้นพอนะ นี่ละถึงจะถูกต้องนะ
1
3. ถ้าไม่เจอใครมานานหลายปี มาเจอกันอีกที อย่าถามเรื่องอายุและเงินเดือน
1
เพื่อนๆ หลายคนแยกย้ายกันไปสร้างอนาคต สร้างครอบครัวของตัวเอง นานๆ ทีจะรวมกลุ่มเจอกันที เจอกันแต่ละครั้งแต่ละคนก็เปลี่ยนไป อ้วนขึ้น ผอมลง ดูดีขึ้นมีฐานะขึ้น ก็แตกต่างกันไปแล้วแต่อาชีพและฐานะทางบ้านละนะ
แต่อย่างหนึ่งที่อยากแนะนำเอาไว้ คือ อย่าถามเรื่องเงินเดือนของคนอื่น หรือบางครั้งเรื่องอาชีพของเขาเองก็ตามแต่ เพราะถ้าเขาอยากเล่าเขาจะเล่าให้ฟังเอง ในเมื่อเราแต่ละคนเจออะไรในชีวิตแตกต่างกันไป บางคนเจออาชีพที่ดี เหมาะสมลงตัวทุกอย่าง ก็สามารถร่ำรวยเงินทองได้มากมาย
1
ส่วนบางคนอาจไม่เจออาชีพในฝัน ชีวิตผกผันตกงาน หรืออาจต้องอยู่บ้านเลี้ยงพ่อแม่ที่เจ็บป่วยอะไรก็ตามแต่ คนเรามีเรื่องในชีวิตที่เจอมาต่างกันเสมอ ดังนั้นอย่าไปถามเรื่องเงินเดือน เรื่องเงินทองของเขาจะดีกว่า
1
หรือบางครั้งเราไปเจอคนอื่นๆ ที่ไม่เจอกันนานแล้ว ก็ชวนกันคุยเรื่องสัพเพเหระกันไป เว้นเรื่องอาชีพ เงินเดือนและอายุไว้หน่อยละกัน อายุนี่ เป็นเรื่องอ่อนไหว พออายุเลยเลข 3 แล้ว ก็ไม่มีใครชอบให้ใครถามหรอกนะ เชื่อสิ😁
4. ถ้าเพื่อนร่วมงานบอกว่า วันนี้หมอนัด อย่าถามว่าเป็นอะไรต้องไปตรวจ แค่บอกว่า ขอให้สบายดีก็พอ
1
เคยไหม พอมีนัดหมอฟันเอย หมอตรวจความดันหรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้าลาปุ๊บ มันจะมีเสียงลอยมาตามอากาศว่า "ไปหาหมอเป็นอะไรอะ" แล้วพอหันไปตามเสียงจะเห็นคนมองตาแป๋วอยากรู้อยากเห็นเรื่องคนอื่น
2
จะบอกว่า แบบนี้ไม่เอา ไม่น่ารัก รู้ว่าคุณอาจเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนและแอบสอดรู้สอดเห็นแถมเข้าไปอีกนิดในการถามออกไปนั่นหน่ะ แต่ว่าทางที่ดีอย่าถามดีกว่านะ ถ้าอยากเป็นเพื่อนที่น่ารัก ที่จริงใจและหวังดีจริงๆ
อย่ากดดันให้เขาต้องบอกว่าเจ็บป่วยเป็นอะไร ถ้าเขาอยากให้คุณรู้ เขาจะบอกเองโดยไม่ต้องถาม และเขาจะพูดก็ต่อเมื่อเขาพร้อมที่จะเล่า ลองทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีดูนะ แค่บอกว่าขอให้สบายดีนะ ขอให้ไม่มีอะไรต้องห่วงนะ พูดแค่นี้คิดว่าก็น่าจะพอแล้วละ
3
5. อย่าพูดถึงความรวยของใครต่อหน้าคนที่ขาดแคลน
2
การพูดของคนเรานี่น่ะ มีสองอย่างที่จะเกิดขึ้น ข้อแรก คือแบบพูดแล้วได้ผลดี สื่อสารดี ทำให้การติดต่องานการเจรจาค้าขายเจริญรุ่งเรือง สนทนาพาทีราบรื่น คนคุยด้วยแล้วสบายใจ
1
ส่วนอีกข้อ คือ คนที่พูดแบบไม่คิดอะไรเลย ไม่มองว่าอยู่ที่ไหน กำลังคุยกับใคร พูดอะไรออกมาทีคนฟังถึงกับสะดุ้ง ทำหน้าไม่ถูกกันเลย
ลองเลือกดูแบบไหนถึงจะดีกับคุณ พูดแล้วมันควรจะสร้างเรื่องดีๆ คืนมาถึงจะถูกไม่ใช่หรือ ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่าอวดร่ำอวดรวยกับคนยากไร้ไม่มีจะกิน มันเหมือนเป็นการไปข่มเหงเขา ไปดูถูกเขาแบบนั้นมันไม่ดี หรืออย่าพูดถึงลูกๆ ของคุณต่อหน้าคนที่มีลูกไม่ได้ อย่างนี้เป็นต้น
จงเลือกพูดเรื่องราวให้ถูกที่ ถูกเวลาและถูกกับจริตคนฟัง เพื่อประโยชน์สูงสุดของการสื่อสารแต่ละครั้งนั่นเอง
2
และนี่ละ เรื่องราว 5 ข้อที่ดีต่อใจคนรู้ และสามารถนำไปปรับใช้ให้เกิดผลดียิ่งขึ้นกับตัวเอง เชื่อหรือไม่ว่า คนมีเสน่ห์ คนน่ารัก น่าคบหาด้วย ไม่ใช่แค่เป็นคนที่แต่งตัวดี บ้านรวย หน้าตาน่ารักอะไรหรอกนะ
1
แต่เป็นคนที่รู้กาละเทศะ รู้ว่าควรพูดอะไรตอนไหน และไม่ควรพูดอะไรตอนไหนเช่นกัน หากอยากกลายเป็นมีเสน่ห์น่าคบหา ลองนำเรื่องเหล่านี้ไปปรับใช้ดูค่ะ แล้วคุณจะน่ารักขึ้นมาอีกเยอะ ที่สำคัญประตูแห่งโอกาสก็มักเปิดให้กับคนน่ารักเสียด้วยสินะ ไม่เชื่อลองดูค่ะ🤭
2
🦙 ชอบก็กดไลค์ ใช่ก็กดแชร์
ถ้าจะให้รู้ว่าแคร์ ก็คอมเม้นท์มานะคะ
🔴 ฟังแบบเสียงอ่านบทความนี้
1
• ติดตามผ่านแอปTiktok
@strongstep.tiktok
• Youtube (เสียงอ่านบทความ) https://youtube.com/channel/UCBddu-n2Z6GQg3N66F2FnSg
• Youtube (เสียงธรรมชาติฟังผ่อนคลาย)
• ติดตามและรับฟังผ่านแอป blockdit
แหล่งอ้างอิงข้อมูล
Social Rules
โฆษณา