26 ก.ค. 2022 เวลา 07:07 • การตลาด
แม็คโคร ทำอย่างไร
เมื่อมีคู่แข่งมาแย่งฐานลูกค้าโชห่วยมากขึ้น
แม้โมเดิร์นเทรด รวมถึงช่องทางขายใหม่ๆ อย่างออนไลน์ จะทวีบทบาทมากขึ้น แต่ร้านโชห่วย ช่องทางจัดจำหน่ายดั้งเดิมของสินค้า FMCG ก็ยังคงเป็นช่องทางที่ทรงพลังในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าระดับรากหญ้าที่เชนโมเดิร์นเทรดยังไม่สามารถเจาะเข้าไปถึง
โดยตัวเลขร้านโชห่วยทั่วประเทศจะมีประมาณกว่า 450,000 ร้านค้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่อยู่ในระดับนี้มานาน เนื่องจาก แม้จะมีร้านโชห่วยที่ปิดตัวลง แต่ก็มีร้านโชห่วยใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
3
สมาคมผู้ค้าปลีกไทย จัดให้ร้านโชห่วย เป็นค้าปลีกแถวที่ 3 ของบรรดาผู้ประกอบการค้าปลีกในบ้านเรา โดยแถวแรกจะเป็นเชนขนาดใหญ่ทั้งบิ๊กซี โลตัส เซ็นทรัล เดอะมอลล์ ฯลฯ ที่มีสัดส่วนประมาณ 32% ของมูลค่าการบริโภคค้าปลีกค้าส่ง
1
แถวสอง ก็จะเป็นค้าปลีกค้าส่งภูธร Provincial Modernized Chain Store ที่กำลังพัฒนาในต่างจังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้นำค้าปลีกค้าส่งในจังหวัดตัวเองเป็นหลักประมาณมีสัดส่วนอยู่ราว 20% ของมูลค่าการบริโภคค้าปลีกค้าส่ง
ส่วนโชห่วยถูกจัดให้อยู่ในแถวที่ 3 มีสัดส่วนราว 53-55% ของมูลค่าการบริโภคค้าปลีกค้าส่ง ส่วนใหญ่เป็นร้านค้าอิสระขนาดเล็ก หรือถ้าจะมีสาขาก็ไม่เกิน 2-3 สาขา ที่เรียกกันว่า ร้านขายของชำ หรือร้านโชวห่วย
2
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รายงานว่า มีมูลค่าทางเศรษฐกิจของตลาดร้านค้าโชห่วยไทย 1.03 ล้านล้านบาท ถือเป็นอีกฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก และกำลังเป็นทางเลือกการซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค และของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน
1
เทรนด์ที่น่าสนใจของตลาดค้าปลีกบ้านเรากำลังไหลมาที่โชห่วย เนื่องจากทั้งซัพลายเออร์อย่างคาราบาวกรุ๊ป ในนามบริษัท ทีดี ตะวันแดงเข้ามาทำเครือข่ายร้าน “ถูกดี มีมาตรฐาน” เพื่อสร้างเครือข่ายค้าปลีกรากหญ้าให้เป็น “Point of Every thing” ที่ไม่ใช่แค่ร้านค้าปลีก แต่ยังเป็นเครือข่ายทางการตลาด บริการ รวมถึงการเป็นเครือข่ายในเรื่องดาต้าของผู้บริโภคที่สามารถนำมาต่อยอดได้มากมาย โดยตัวเลขเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สามารถเปิดร้าน “ถูกดี มีมาตรฐาน” ไปแล้วกว่า 4,000 แห่งทั่วประเทศ
2
นอกจากนี้ยังมีเชนโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่อย่างบิ๊กซี ที่มีร้าน“ร้านโดนใจ” ที่ถูกสร้างเป็นโมเดลธุรกิจในการรุกตลาดไม่ใช่แค่บ้านเรา แต่ยังรวมถึงประเทศในกลุ่ม CLMV ทั้งลาว เวียดนาม เมียนมาร์ และกัมพูชา โดยมีตัวเลขร้านโดนใจเกิน 500 สาขาไปแล้ว
เช่นเดียวกับโลตัส ที่เครือข่ายร้าน “ร้านนี้ ขายดี” ขึ้นมา โดยโลตัส เน้นย้ำว่า เป็นการสร้างเครือข่ายขึ้นมาเพื่อช่วยสนับสนุนการทำธุรกิจของร้านค้าปลีกขนาดเล็ก โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการร้าน และเจ้าของร้านจะเป็นเจ้าของธุรกิจ และดูแลธุรกิจด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องแบ่งกำไรให้กับใคร ซึ่งแน่นอนว่า ทั้ง 2 แบรนด์ เป็นคู่แข่งขันโดยตรงกับร้านถูกดี มีมาตรฐาน โดยเฉพาะในมุมของการดึงผู้ประกอบการร้านโชห่วย เข้ามาเป็นเครือข่ายของตัวเอง
2
แน่นอนว่า ย่อมส่งผลโดยตรงต่อการเข้ามาแชร์ฐานลูกค้าของแม็คโคร ซึ่งเป็นค้าส่งโมเดิร์นเทรดที่มีลูกค้าเกือบครึ่งเป็นร้านโชห่วย จึงต้องขยับตัวทำโครงการพัฒนาร้านค้าโชห่วยมาตลอด และในปีที่แล้วก็มีแผนยกระดับร้านโชวห่วยกว่า 500,000 ราย เพื่อยกระดับให้เป็น “สมาร์ทโชห่วย” ที่สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
1
ตามแผนนี้ มีการทำเครือข่ายร้านมิตรแท้ชุมชนขึ้นมา ซึ่งเป็นการเข้าไปให้คำแนะนำรูปแบบการทำร้านโชห่วยแนวใหม่ที่ไม่เพียงแค่การปรับการนำเสนอสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในชุมชนเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของการเพิ่มบริการใหม่ๆ เข้าไป
ด้วยแนวคิดของการเป็นสมาร์ทโชห่วยเพิ่มรายได้ที่แม็คโคร สนับสนุนและส่งเสริมให้โชห่วยสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากแนวทางใหม่ อาทิ การเพิ่มตู้ครัวชุมชน เพิ่มกำไร จากตู้อาหารแช่แข็ง อาหารพร้อมปรุง ตู้แช่ผักผลไม้ ชั้นวางเครื่องปรุง
เพื่อตอบกระแสการซื้ออาหารบริโภคจากร้านใกล้บ้านในชุมชน การทำคาเฟ่ชุมชน ที่นำตู้กดกาแฟสดมาสร้างรายได้ เรียกคืนกลุ่มสภากาแฟในชุมชน การทำโชห่วยสะดวกซัก จากเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าปัจจุบัน และการเพิ่มจุดบริการออนไลน์ เพื่ออำนวยความสะดวก เช่น รับประกันภัย ต่อ พ.ร.บ. ส่งพัสดุ ฯลฯ เป็นต้น
ไม่เพียงเท่านั้น แม็คโครยังเน้นย้ำนโยบายช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยอย่างต่อเนื่อง ผ่านแคมเปญด้านราคา การตลาด การจัดกิจกรรมเพื่อโชห่วยตลอดทั้งปี เพื่อให้ร้านค้าเล็ก ๆ ในชุมชนเข้าถึงสินค้าราคาขายส่ง สินค้าราคาดีทำกำไรได้ ผ่านแม็คโครทุกสาขาและแม็คโครคลิก
นอกจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญจาก “ศูนย์มิตรแท้โชห่วย” ช่วยเหลือให้คำปรึกษา เติมเต็มองค์ความรู้ด้านต่างๆ ผ่านการนำเทคโนโลยีมาใช้ในระบบการบริหารจัดการร้านค้า สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์โชห่วย แนะนำการให้บริการดิลิเวอรี่ และการปรับปรุงร้านให้มีความทันสมัย
แม็คโคร ทำโครงการมิตรแท้โชห่วยมา 16 ปี ทำให้มีฐานลูกค้าในส่วนนี้อย่างแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันก็ได้เรียนรู้และเข้าใจความต้องการของผู้ประกอบการร้านค้าปลีกรายย่อยหรือ โชห่วยอย่างลึกซึ้ง รวมถึงสามารถสร้าง Engagement กับโชห่วยได้อย่างเหนียวแน่นผ่านการพัฒนาโชวห่วยให้สามารถทำธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
2
การให้ความรู้นั้น มีการยกระดับมาอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่นำเสนอเคล็ดลับ 8 ความรู้พื้นฐานและหัวใจความสำเร็จที่เจ้าของกิจการต้องรู้ ไม่ว่าจะเป็น ทำเลที่ตั้ง-ความแตกต่าง-สต๊อกสินค้า-การเลือกสินค้า-ส่งเสริมการขาย-ราคาและกำไร-ผังร้านและจัดเรียง-การแต่งร้าน
1
มาสู่ปัจจุบันที่แม็คโคร พัฒนาองค์ความรู้ที่ได้จากความสำเร็จของสมาชิกมิตรแท้โชห่วย ผสานกับการนำเทคโนโลยีมาวิเคราะห์เป็นสูตรสำเร็จเพื่อให้ร้านค้านำไปปรับใช้ได้ง่ายขึ้น โดยจะยึด 3 แนวทางของการพัฒนาขีดความสามารถ ที่จะยึดแกนสำคัญคือ ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ให้กับร้านโชห่วย
ทั้งหมดนั้นเป็นกลไกสำคัญที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาฐานลูกค้าโชห่วยของแม็คโคร.....
#BrandAgeOnline #แม็คโคร #Makro
โฆษณา