"การสมสู่ระหว่างพี่น้องหรือเครือญาติ" ในยุคโบราณ
หากได้ลองดูประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของมนุษยชาติ บรรพบุรุษของมนุษย์นั้นขยายเผ่าพันธ์ด้วยการสมสู่กันเองในหมู่ญาติพี่น้อง
จากการศึกษา พบว่าอารยธรรมโบราณหลายๆ แห่ง ได้มีวัฒนธรรมการแต่งงานและสืบพันธุ์ผ่านทางเครือญาติเท่านั้น และวัฒนธรรมนี้ก็ยังคงดำเนินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งบางแห่ง ก็ยังคงมีค่านิยมการแต่งงานในหมู่เครือญาติ ซึ่งหลายคนก็มีความกังวลเรื่องโรคทางพันธุกรรมซึ่งอาจส่งต่อถึงลูกหลาน
ในปีค.ศ.2021 (พ.ศ.2564) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ได้ตีพิมพ์งานวิจัย โดยเป็นการทดลองวิเคราะห์ข้อมูลจีโนมิกส์ของมนุษย์โบราณเมื่อ 45,000 ปีก่อน จำนวน 1,785 ราย
นักประวัติศาสตร์คาดว่า มนุษย์เมื่อ 45,000 ปีก่อนจำนวนมากล้วนแต่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ และเนื่องจากความขาดแคลนหลายๆ อย่าง ทำให้มนุษย์ในยุคนั้นยังไม่มีการย้ายถิ่นฐานออกจากชุมชน ทำให้การหาคู่เพื่อที่จะสืบพันธุ์นั้นทำได้ยาก มีแค่สมาชิกในครอบครัว แต่จากการศึกษา อาจจะต้องตั้งสมมติฐานใหม่
จากการศึกษา พบว่าในบรรดามนุษย์โบราณจำนวน 1,785 ราย มีเพียง 53 รายเท่านั้นที่มีการสมสู่กับบุคคลในครอบครัว โดยมีการตรวจดีเอ็นเอของมนุษย์แต่ละรายว่ามีความคล้ายคลึงหรือเกี่ยวพันกันทางสายเลือดหรือไม่
อิงจากผลการศึกษาและการคาดเดาของนักประวัติศาสตร์ ก็ยังมีข้อสงสัยหลายอย่าง และก็เกิดทฤษฎีทางประวัติศาสตร์ขึ้นมา
นักประวัติศาสตร์หลายคนคาดเดาว่าในช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อราว 45,000-50,000 ปีก่อน บรรพบุรุษของมนุษย์อาจจะอยู่ไม่ติดที่ มนุษย์โบราณอาจจะมีการย้ายถิ่นฐานบ่อยๆ ไม่ใช่อยู่ติดที่เหมือนที่คาดเดาในทีแรก
ซึ่งสาเหตุที่มนุษย์โบราณมีการย้ายถิ่นฐานบ่อยๆ ก็เนื่องมาจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ทำให้อาหารเริ่มร่อยหรอ
อีกทั้งความเจริญก้าวหน้าที่เพิ่มมากขึ้น การเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นสังคมเมือง ทำให้มนุษย์เริ่มจะสืบพันธุ์ผ่านบุคคลนอกครอบครัวมากขึ้น แทนที่จะเป็นคนในครอบครัว
ในปัจจุบัน การแต่งงานหรือสมสู่กันในหมู่เครือญาติก็ลดน้อยลงอันเนื่องมาจากความก้าวหน้าและความเจริญที่เพิ่มขึ้น หากแต่ก็ยังมีหลงเหลืออยู่บ้างในบางวัฒนธรรม
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
