3 ต.ค. 2022 เวลา 10:56 • ประวัติศาสตร์
เจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ ผู้ได้รับฉายา “King who never was”
และทฤษฎีสมคบคิดที่ว่าพระองค์เป็น “Jack The Ripper”
เครดิตภาพปก: Prince Albert Victor (บน) - W. and D. Downey/Getty Images, Jack the Ripper (ล่าง) – channel5.com
เจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ เป็นพระราชนัดดา (หลานชาย) ในควีนวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร และเป็นรัชทายาทลำดับที่ 2 เมื่อครั้งประสูติเมื่อปี พ.ศ. 2407 ต่อจากพระบิดาซึ่งเป็นอันดับที่ 1 คือ เจ้าฟ้าชายอัลเบิร์ต เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์ (ภายหลังขึ้นครองราชย์ต่อเป็น พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ซึ่งเป็นพระปัยกาหรือปู่ทวดของควีนเอลิซาเบธที่ 2)
1
  • เจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ มีศักดิ์เป็นพระเชษฐา (พี่ชาย) ของ พระเจ้าจอร์จที่ 5 ต้นสายของราชวงศ์วินด์เซอร์ของอังกฤษในปัจจุบัน
2
เจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์เป็นโอรสองค์โตของ เจ้าฟ้าชายอัลเบิร์ต เอ็ดเวิร์ด มกุฎราชกุมารแห่งเวลส์ กับ อเล็กซานดรา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ซึ่งมีเชื้อสายมาจากเดนมาร์ก หลังจากเจ้าชายได้รับการศึกษาจากครูสอนพิเศษส่วนตัวและที่วิทยาลัยทรินิตี แห่งเมืองเคมบริดจ์แล้ว เจ้าชายอัลเบิร์ตได้เข้ารับใช้ในกองทัพอังกฤษเมื่ออายุยังน้อยอยู่
เจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ ดยุกแห่งคลาเรนซ์และเอวอนเดล เครดิตภาพ: Wikimedia Commons
เจ้าชายไม่เคยแต่งงาน แต่ก็มีข้อเสนอให้แต่งงานกับ เจ้าหญิงอลิกซ์แห่งเฮสส์ ลูกพี่ลูกน้องอันดับแรกของเจ้าชาย แต่ก็ถูกปฏิเสธไป ซึ่งต่อมาเจ้าหญิงองค์นี้ก็ได้อภิเษกสมรสกับพระเจ้าซาร์องค์สุดท้ายของรัสเซียคือ “พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2”
2
จากนั้นเจ้าชายก็ทรงมีพระหฤทัยกับ เจ้าหญิงเฮลีน ผู้นับถือคริสต์นิกายโรมันคาธอลิก ซึ่งบิดาเป็นเชลยชาวฝรั่งเศสที่ถูกเนรเทศ แต่ทว่าแน่นอนราชวงศ์อังกฤษไม่อนุญาตให้เจ้าชายแต่งงานกับชาวคาทอลิก เจ้าชายจึงอุทธรณ์ต่อควีนวิกตอเรียและสมเด็จพระสันตะปาปาด้วย แต่ไม่เป็นผล
1
เจ้าชายจึงคิดจะสละสิทธิ์ในการขึ้นครองบัลลังก์เพื่อสานสัมพันธ์กับเจ้าหญิงเฮลีน แต่ทั้งคู่กลับยุติความสัมพันธ์กันไป
ในที่สุดเจ้าชายก็หมั้นกับเจ้าหญิงแมรีแห่งเท็ค อย่างไรก็ตามก่อนที่งานแต่งงานจะเกิดขึ้น เจ้าชายล้มป่วยและสิ้นพระชนม์ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2435 ต่อมาเจ้าหญิงแมรีแห่งเท็คก็ได้เสกสมรสกับพระอนุชาของเจ้าชายแทน คือ พระเจ้าจอร์จที่ 5 ในเวลาต่อมา
1
ภาพถ่ายตอนพิธีหมั้นของเจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ กับ เจ้าหญิงแมรีแห่งเท็ค เครดิตภาพ: European Royal History wordpress
เจ้าชายมีชื่อเล่นว่า “เอ็ดดี้” (Eddy) สิ้นพระชนม์เมื่ออายุ 28 ปี ก่อนหน้าพระบิดา (พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7) และพระอัยยิกาหรือย่า (ควีนวิกตอเรีย) ดังนั้นพระองค์จึงไม่เคยเป็นกษัตริย์แห่งอังกฤษ ถึงแม้จะอยู่ในลำดับการขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อจากพระบิดาก็ตาม และได้ฉายาว่า “King who never was”
1
นับตั้งแต่เจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ สิ้นพระชนม์ไป มีการกล่าวอ้างด้วยทฤษฎีสมคบคิดอย่างไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า เจ้าชายคือ ”แจ็คเดอะริปเปอร์” (Jack the Ripper) ฆาตกรต่อเนื่องลึกลับที่สังหารผู้หญิงอย่างน้อยห้าคนในลอนดอนในปี พ.ศ. 2431 อย่างไร้ความปรานี
Jack the Ripper ฆาตกรต่อเนื่องชื่อดังในประวัติศาสตร์ของโลกและอังกฤษ เครดิตภาพ: Mary Evans/National Geographic UK
ก่อนที่ชื่อของเจ้าชายจะถูกเชื่อมโยงกับ Jack the Ripper มีการคาดเดาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเจ้าชายกับเรื่องอื้อฉาวแห่งคลีฟแลนด์สตรีท (Cleveland Street scandal) ซึ่งถูกตีแผ่สู่สาธารณะในปี พ.ศ. 2432
โดยมีความเกี่ยวข้องกับซ่องโสเภณีชายในลอนดอนที่ได้รับการอุปถัมภ์โดยชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียง (น่าจะรู้ว่าโยงถึงใคร) มีข่าวลือว่าเจ้าชายเสด็จไปซ่องนี้ แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานภาพของเจ้าชายปรากฏอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ในอังกฤษ โดยเรื่องราวดังกล่าวได้รับการรายงานในสื่อสิ่งพิมพ์ในต่างประเทศเท่านั้น
3
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ข้อกล่าวหาเริ่มแพร่กระจายว่า เจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ คือ “แจ็คเดอะริปเปอร์” และได้สังหารเหยื่อของเขาเนื่องจากความวิกลจริตที่เกิดจากโรคซิฟิลิส ทฤษฎีนี้ถูกหักล้างเป็นส่วนใหญ่ และเจ้าชายเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ถูกเชื่อมโยงไปยังคดีการสังหารที่ยังไม่คลี่คลายจนถึงปัจจุบัน
1
ภาพใบหน้าผู้ต้องสงสัยว่าเป็น Jack the Ripper มีเจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์ เป็นหนึ่งในนั้นด้วย เครดิตภาพ: Mirror UK
อย่างไรก็ตามมีผู้ที่ติดตามสืบค้นเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นจาก Jack the Ripper โดยใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ ตรวจหาหลักฐานผ่าน DNA ที่อยู่บนหลักฐานที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุ
ข้อมูลดังกล่าวเปิดเผยบน Mirror UK ในปี พ.ศ. 2557 ว่าจากการตรวจสอบ DNA บนผ้าที่วัตถุพยานจากเหตุฆาตกรรมรายที่ 4 พบว่าตรงกับบุคคลที่มีเชื้อสายยิวจากรัสเซีย และมีผมสีดำ ซึ่งไม่ใช่เจ้าชายอัลเบิร์ต วิกเตอร์
4
เรียบเรียงโดย Right SaRa
3rd Oct 2022
  • แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
โฆษณา