6 ธ.ค. 2022 เวลา 02:50 • ธุรกิจ
แอปเปิล ลูกที่ 3 ที่เข้ามาเปลี่ยนประวัติศาสตร์โลก
โลกของเรามี “แอปเปิล” ที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์โลก ด้วยกันทั้งหมด 3 ลูก
แอปเปิลลูกที่ 1 ทำให้มนุษย์รู้จัก ศาสนาคริสต์
แอปเปิลลูกที่ 2 ทำให้โลกของเรารู้จัก แรงโน้มถ่วง
แอปเปิลลูกที่ 3..
คือ บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกในวันนี้ แน่นอนว่าบริษัทนั้นมีชื่อว่า “Apple”
บริษัท Apple ถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1976
โดย สตีฟ จอบส์ ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน
ด้วยความที่ สตีฟ จอบส์ เป็นทั้ง “นักคิดและนักสร้าง”
จากตอนแรกที่เป็นเพียงธุรกิจผลิตแผงวงจร และคอมพิวเตอร์
Apple ก็ได้แตกไลน์ สินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง
แน่นอนว่า หนึ่งในนวัตกรรมเปลี่ยนโลก ที่ปฏิเสธไม่ได้เลย ก็คือ “iPhone”
เรื่องราวของ Apple ดำเนินมาถึงยุคของ ทิม คุก ผู้รับไม้ต่อมาจาก สตีฟ จอบส์
แม้ในยุคของเขา หลายคนอาจบอกว่า ไม่ค่อยได้เห็นนวัตกรรมที่ทำให้ รู้สึก “ว้าว” สักเท่าไร
อย่างไรก็ตาม Apple ก็ได้ออกสินค้าใหม่ ๆ ที่เข้ามาสร้างความแข็งแกร่งให้กับ Ecosystem ของตัวเอง
บวกกับความสามารถชั้นยอด ในการบริหารจัดการต้นทุนของ ทิม คุก
4
Apple ก็ได้เติบโตจนกลายเป็น Trillion Dollars Company บริษัทแรกของโลก
จนถึงวันนี้ Apple ก็ยังคง ครองตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
เราลองมาดูกันว่า ในวันนี้ บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดของโลก กำลังทำธุรกิจอะไรอยู่บ้าง
หากแบ่งธุรกิจ ตามสัดส่วนรายได้ของปี 2022 ที่ผ่านมา
(รอบงบการเงินปี 2022 ของ Apple Inc. เริ่มวันที่ 25/09/2021 ถึง 24/09/2022)
เราจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนด้วยกัน
1. รายได้จากการขายสินค้า โดยแบ่งได้เป็น
- iPhone รายได้ 7.3 ล้านล้านบาท
- Mac รายได้ 1.4 ล้านล้านบาท
- iPad รายได้ 1.0 ล้านล้านบาท
- อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เช่น AirPods, Apple Watch รายได้ 1.5 ล้านล้านบาท
รวมรายได้จากการขายสินค้าทั้งหมด 11.2 ล้านล้านบาท คิดเป็นประมาณ 80% ของรายได้รวม
2. รายได้จากบริการ เช่น iCloud, Apple Music รวมถึงธุรกิจเสือนอนกินอย่าง App Store
2
รายได้ 2.8 ล้านล้านบาท คิดเป็นประมาณ 20% ของรายได้รวม
ทั้งหมดนี้ รวมเป็นรายได้ทั้งหมด 14 ล้านล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 7.8% จากปีก่อน
กำไร 3.5 ล้านล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 5.4% จากปีก่อน
ทีนี้ ถ้าถามว่าอะไรคือจุดเด่น และจุดแข็ง ของ Apple
1. ฮาร์ดแวร์
เป็นที่รู้กันว่า สินค้าของ Apple แต่ละชิ้น ขึ้นชื่อเรื่อง “ความเรียบหรู” ที่มาพร้อมกับ “ความเรียบง่าย” ในการใช้งาน
นอกจากนี้แล้ว สินค้าแต่ละชิ้น ยังมาพร้อมกับคุณภาพ ซึ่งเกิดจากมาตรฐานการผลิตที่ค่อนข้างสูง
2. ซอฟต์แวร์
แม้วันนี้จะมีบริษัทที่เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นฝั่งคอมพิวเตอร์อย่าง Dell, Acer, HP หรือฝั่งสมาร์ตโฟนอย่าง Samsung
แม้แบรนด์เหล่านี้ จะมีตัวสินค้า ที่ในบางครั้งเราอาจปฏิเสธไม่ได้ว่า คุณภาพใกล้เคียงกับ Apple
อย่างไรก็ตาม หนึ่งเรื่องที่ทำให้ Apple แตกต่าง คือ Apple มีซอฟต์แวร์เป็นของตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็น iOS สำหรับสมาร์ตโฟน หรือ macOS สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ตระกูล Mac ในประเภทต่าง ๆ
เมื่อมีทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ เป็นของตัวเอง ทำให้อุปกรณ์ของ Apple มีความเสถียรที่มากกว่า
รวมถึงยังช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์
ในเครือของ Apple มีความต่อเนื่องมากกว่า
จากสินค้าที่หลากหลาย บวกกับระบบปฏิบัติการ ที่เข้ามาช่วยเสริมประสบการณ์ในการใช้งาน
ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Ecosystem ของ Apple ขึ้นมา
ซึ่งก็ยิ่งเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งทางธุรกิจของ Apple ยิ่งขึ้นไปอีก
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
นอกจาก Apple จะเป็นบริษัท ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกแล้ว
แบรนด์ของ Apple เอง ก็ถูกประเมินว่าเป็น “แบรนด์ที่มีมูลค่าที่สุดในโลก” เช่นเดียวกัน
โดยล่าสุดจากการประเมินของ Interbrand
แบรนด์ Apple ถูกประเมินมูลค่าไว้มากถึง 17 ล้านล้านบาท เลยทีเดียว..
Apple เป็นหนึ่งในธุรกิจ ที่กองทุน MEGA10 จะเข้าไปลงทุน โดยกองทุนนี้จะเข้าไปลงทุนใน 10 บริษัท ทรงอิทธิพล ที่สุดในโลก ซึ่งกำลังจะ IPO ในวันที่ 8 ถึง 20 ธันวาคม ที่จะถึงนี้
สามารถจองซื้อได้ที่ https://finno.me/mega-lt22
คำเตือน: กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.talisam.co.th
1
โฆษณา