ถ้าพระเจ้ามีจริง แล้วจุดเริ่มต้นของพระเจ้ามาจากอะไร ใครเป็นผู้สร้างพระเจ้า ผู้สร้างของผู้สร้างอีกที หรือพระเจ้าเกิดจากความว่างเปล่า อยู่ๆก็เกิดขึ้นมาเอง อย่างนั้นเหรอ ? จุดเริ่มต้นสูงสุดอยู่ตรงไหน
คำถามนี้ถูกลบ
"พระพุทธเจ้าพบพระเป็นเจ้า"
เป็นหนึ่งในตอนของหนังสือเรื่อง "พุทธปรัชญาจากพระไตรปิฎก"
เป็นเรื่องที่ผมอยากจะแชร์ให้ทุกคนได้ลองอ่านกัน เพราะเนื้อหาที่ทำให้ผมได้เห็นมุมมองที่เกี่ยวกับตัวตนของพระเจ้ามากขึ้น
ทั้งนี้ให้ใช้วิจารญาณในการอ่านนะครับ สำหรับผมอ่านเพื่อความบันเทิงมากกว่าที่จะไปยึดติดกับข้อความครับ
นี้เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือ ที่กล่าวเกี่ยวกับพระเจ้า ที่พระพุทธเจ้าตรัสกับสาวก ไว้ดังนี้ครับ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย มีสมัยบางครั้งบางคราว โดยระยะกาลยืดยาวช้านานที่โลกนี้พินาศ เมื่อโลกกำลังพินาศอยู่ โดยมากเหล่าสัตว์ย่อมเกิดในชั้นอาภัสสรพรหม สัตว์เหล่านั้นได้สำเร็จทางใจ มีปีติเป็นอาหาร มีรัศมีซ่านออกจากกายตนเอง สัญจรไปได้ในอากาศ อยู่ในวิมานอันงาม สถิตอยู่ในภพนั้นสิ้นกาลยืดยาวช้านาน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย มีสมัยบางครั้งบางคราว โดยระยะกาลยืดยาวช้านานที่โลกกลับเจริญ เมื่อโลกกำลังเจริญอยู่ วิมานของพรหมปรากฏว่าว่างเปล่า ครั้งนั้นสัตว์ผู้ใดผู้หนึ่งจุติจากชั้นอาภัสสรพรหมเพราะสิ้นอายุหรือสิ้นบุญ ย่อมเข้าถึงวิมานที่ว่างเปล่า แม้สัตว์ผู้นั้นก็ได้สำเร็จทางใจ มีปีติเป็นอาหาร มีรัศมีซ่านออกจากกายตนเอง สัญจรไปได้ในอากาศ อยู่ในวิมานอันงาม สถิตอยู่ในภพนั้นสิ้นกาลยืดยาวช้านาน
เพราะสัตว์ผู้นั้นอยู่ในวิมานนั้นแต่เพียงผู้เดียวเป็นเวลานานจึงเกิดความกระสันความดิ้นรนขึ้นว่า โอหนอ แม้สัตว์เหล่าอื่นก็พึงมาเป็นอย่างนี้บ้าง ต่อมาสัตว์เหล่าอื่นก็จุติจากชั้นอาภัสสรพรหมเพราะสิ้นอายุหรือสิ้นบุญ ย่อมเข้าถึงวิมานพรหมเป็นสหายของสัตว์ผู้นั้น แม้สัตว์พวกนั้นก็ได้สำเร็จทางใจ มีปีติเป็นอาหาร มีรัศมีซ่านออกจากกายตนเอง สัญจรไปได้ในอากาศ อยู่ในวิมานอันงาม สถิตอยู่ในภพนั้นสิ้นกาลยืดยาวช้านาน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาสัตว์พวกนั้น ผู้ใดเกิดก่อน ผู้นั้นย่อมมีความคิดเห็นอย่างนี้ว่า เราเป็นพรหม เราเป็นมหาพรหม เป็นใหญ่ไม่มีใครข่มได้ เห็นถ่องแท้ เป็นผู้กุมอำนาจ เป็นอีศวร เป็นผู้สร้าง เป็นผู้นิรมิต เป็นผู้ประเสริฐ เป็นผู้บงการ เป็นผู้ทรงอำนาจ เป็นบิดาของหมู่สัตว์ผู้เป็นแล้วและกำลังเป็น สัตว์เหล่านี้เรานิรมิตขึ้น ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเหตุว่าเราได้มีความคิดอย่างนี้ก่อนว่า โอหนอ แม้สัตว์เหล่าอื่นก็พึงมาเป็นอย่างนี้บ้าง ความตั้งใจของเราเป็นเช่นนี้ และสัตว์เหล่านี้ก็ได้มาเป็นอย่างนี้แล้ว
แม้พวกสัตว์ที่เกิดภายหลังก็มีความเห็นอย่างนี้ว่า ท่านผู้เจริญนี้แล เป็นพรหม เราเป็นมหาพรหม เป็นใหญ่ไม่มีใครข่มได้ เห็นถ่องแท้ เป็นผู้กุมอำนาจ เป็นอีศวร เป็นผู้สร้าง เป็นผู้นิรมิต เป็นผู้ประเสริฐ เป็นผู้บงการ เป็นผู้ทรงอำนาจ เป็นบิดาของหมู่สัตว์ผู้เป็นแล้วและกำลังเป็น พวกเราอันพระพรหมผู้เจริญนี้นิรมิตขึ้นแล้ว ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเหตุว่าพวกเราได้เห็นพระพรหมผู้เจริญนี้เกิดในที่นี้ก่อน ส่วนพวกเราเกิดภายหลัง
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาสัตว์จำพวกนั้น ผู้ใดเกิดก่อนผู้นั้นมีอายุยืนกว่า มีผิวพรรณดีกว่า มีศักดิ์มากกว่า ส่วนผู้ที่เกิดภายหลังมีอายุน้อยกว่า มีผิวพรรณทรามกว่า มีศักดิ์น้อยกว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เป็นฐานะที่จะมีได้แล ที่สัตว์ผู้ใดผู้หนึ่งจุติจากชั้นนั้นแล้วมาเป็นอย่างนี้ (เกิดเป็นมนุษย์) เมื่อมาเป็นอย่างนี้แล้วก็ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต เมื่อบวชแล้วอาศัยความเพียรเป็นเครื่องเผากิเลส อาศัยความเพียรที่ตั้งมั่น อาศัยความประกอบเนือง ๆ อาศัยความไม่ประมาท อาศัยมนสิการโดยชอบ แล้วบรรจุเจโตสมาธิอันเป็นเครื่องตั้งมั่นแห่งจิต ย้อนระลึกถึงขันธ์ที่เคยอาศัยอยู่ในกาลก่อนนั้นได้ แต่หลังจากนั้นไประลึกไม่ได้
เขาจึงได้กล่าวอย่างนี้ว่า ท่านผู้ใดแลเป็นพรหม เราเป็นมหาพรหม เป็นใหญ่ไม่มีใครข่มได้ เห็นถ่องแท้ เป็นผู้กุมอำนาจ เป็นอีศวร เป็นผู้สร้าง เป็นผู้นิรมิต เป็นผู้ประเสริฐ เป็นผู้บงการ เป็นผู้ทรงอำนาจ เป็นบิดาของหมู่สัตว์ผู้เป็นแล้วและกำลังเป็น พระพรหมผู้เจริญใดที่นิรมิตพวกเรา พระพรหมผู้เจริญนั้นเป็นผู้เที่ยง ยั่งยืน คงที่ มีอันไม่ผันแปรเป็นธรรมดา จักตั้งอยู่เที่ยงเสมอไปเช่นนั้นทีเดียว ส่วนพวกเราที่พระพรหมผู้เจริญนั้นนิรมิตแล้วนั้น เป็นผู้ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน มีอายุน้อย ยังจติมาเป็นอย่างนี้
นี้เป็นข้อความที่ตัดตอนมาจากพรหมชาลสูตรแห่งทีฆนิกาย อ่านแล้วมีความคิดเห็นอย่างไรก็เรื่องนี้บ้างครับ ในหนังสือจะมีกล่าวถึงมากกว่านี้ ที่พระพุทธเจ้า (พระตถาคต) ได้พบและสนทนากับพระเจ้า ใครสนใจเนื้อหาลองไปหาอ่านดูนะครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
