14 ก.ค. 2023 เวลา 10:30 • ประวัติศาสตร์

Louis-Benoit Zamor ชาวอินเดียหนึ่งเดียวในคณะปฏิวัติฝรั่งเศส

ในประเทศฝรั่งเศสนับว่าเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมาอย่างเนิ่นนาน เช่นในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศสก็มีคนต่างชาติต่างสีผิวจำนวนไม่น้อยที่มีชื่อเสียง อาทิ ฌอง อมิลกา ลูกเลี้ยงชาวเซเนกัลของพระนางมารี อองตัวแนตต์ หรือนายพลชาวเฮติแห่งกองทัพปฏิวัติ อย่าง โธมัส อเล็กซานเดอร์ ดูมาส์ เป็นต้น
เราอาจจะมีภาพจำว่า คนต่างสีผิวในฝรั่งเศสยุคนั้นมีแต่ชาวผู้ที่มาจากแอฟริกาหรือแคริบเบียน แต่จริง ๆ แล้วในฝรั่งเศสยุคปฏิวัติก็มีชาวเอเชียอยู่ด้วย ซึ่งเขาคนนั้นก็คือ Zamor ชายผู้นำมาซึ่งความตายแก่มาดามดูบาร์รี่
📌เด็กชายผู้ถูกลักพาตัวจากเบงกาลี
ประวัติช่วงต้นของ Zamor ที่มีบันทึกไว้มีน้อยมาก โดยเบื้องต้นเรารู้ว่าเขาเกิดในปี 1762 ที่เมืองจิตตะกอง ในแคว้นเบงกอลภายใต้จักรวรรดิโมกุล แห่งอินเดีย ซึ่งในปัจจุบันพื้นที่นี้ตั้งอยู่ในประเทศบังคลาเทศ โดยเมื่อ Zamor อายุได้ 11 ปีก็ถูกลักพาตัวโดยพ่อค้าทาสชาวอังกฤษ และถูกส่งตัวไปยังมาดากัสการ์ ที่ซึ่งเขาจะถูกขายต่อไปยังประเทศฝรั่งเศส โดยผู้ที่ซื้อเขาไปก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากประมุขแห่งฝรั่งเศสในขณะนั้นอย่าง “พระเจ้าหลุยส์ที่ 15”
พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ซื้อ Zamor มาในฐานะ “ทาส”แต่ก็ไม่ได้เลี้ยงเอาไว้รับใช้ตนเอง กลับกันพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ได้ยก Zamor ให้เป็นของขวัญแก่ชู้รักคนสุดท้ายของพระองค์ อย่าง มาดามดูบาร์รี่ ซึ่ง Zamor ก็ได้รับศีลจุ่มและเปลี่ยนเป็นศาสนาคริสต์พร้อมกับได้รับชื่อ Louis-Benoit โดยมีมาดามดูบาร์รี่ และพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 เป็นพ่อและแม่อุปถัมป์ของเขา
📌เด็กรับใช้ของมาดามดูบาร์รี่
ภาพเหมือนของมาดามดูบาร์รี่กับ Zamor วาดโดย Auguste de Creuse, 1771
Zamor ใช้ชีวิตอยู่กับมาดามดูบาร์รี่ในฐานะเด็กรับใช้ ซึ่งมีหน้าที่ชงช็อคโกแลตให้เธอดื่มในยามเช้า และให้แต่งตัวอย่างหรูหราเพื่อนำไปอวดเพื่อน ๆ ของเธอ มาดามดูบาร์รี่เข้าใจผิดว่าเขามาจากแอฟริกาตลอดชีวิตของเธอ โดยในสมัยหลังมีการสันนิษฐานว่า Zamor น่าจะเป็นชาว Siddi ซึ่งเป็นกลุ่มชนเผ่าแอฟริกันที่มาตั้งถิ่นฐานในอินเดียช่วงสมัยการค้าทาสกับอาหรับ
ตามบันทึกกล่าวเอาไว้ว่า Zamor เป็นเด็กที่มีอุปนิสัยและมารยาทที่จัดอยู่ในขั้นที่แย่ โดยมาดามดูบาร์รี่ได้เขียนบันทึกถึงพฤติกรรมของเขาว่า “Zamor เด็กชายแอฟริกัน เขาเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดแต่ซุกซนเกเร เป็นคนที่เรียบง่าย และรักอิสระ แต่ก็เป็นเด็กที่ป่าเถื่อนเหมือนกับที่ที่เขาจากมา”
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ดูเหมือนว่ามาดามดูบาร์รี่จะค่อนข้างรักและเอ็นดู Zamor อยู่ไม่น้อยถึงแม้ว่า Zamor จะเป็นพวกเด็กดื้อก็ตาม ดังที่ปรากฏในบันทึกส่วนตัวของเธอว่า “ในคราวแรก ฉันมองเขาในฐานะตุ๊กตาหรือของเล่นอย่างหนึ่ง แต่นานวันเข้าฉันก็รู้สึกรักและเอ็นดูเด็กรับใช้ตัวน้อยนี้ด้วยความหลงใหล”
เนื้อหาทางประวัติศาสตร์ในส่วนนี้ค่อนข้างคลุมเครือเพราะถูกแบ่งแยกออกเป็นสองสาย บางส่วนก็กล่าวว่ามาดามดูบาร์รี่รักและเอ็นดู Zamor ไม่ต่างจากลูกชายคนหนึ่ง ในขณะที่บางส่วนก็มองว่าความรักและเอ็นดูของมาดามดูบาร์รี่เป็นเหมือนกับความรักของเจ้านายที่มีต่อสัตว์เลี้ยงก็เท่านั้น
Caroline Weber นักประวัติศาสตร์แฟชั่นที่เขียนหนังสือเกี่ยวกับมารี อองตัวแน็ตต์ระบุว่ามาดามดูบาร์รี่เลี้ยงดูปูเสื่อ Zamor อย่างดิบดีจนถึงขั้นที่ให้การศึกษาแก่เขาทั้งการอ่านการเขียน รวมไปจนถึงศิลปะต่าง ๆ แต่ขณะเดียวกันข้อมูลบางแหล่งก็กล่าวว่า Zamor เป็นฝ่ายขวนขวายหาความรู้ด้วยตนเอง แต่ไม่ว่า Zamor จะได้รับการศึกษามาอย่างไหน แต่ในท้ายที่สุดการศึกษาของ Zamor ก็นำมาซึ่งจุดจบของมาดามดูบาร์รี่
📌ชาวอินเดียหนึ่งเดียวในคณะปฏิวัติ
 
Zamor ที่ได้รับการศึกษาจนอ่านออกเขียนได้ก็เริ่มพัฒนาความสนใจของเขาในด้านวรรณกรรมและปรัชญา ซึ่งแน่นอนว่าการอ่านก็ช่วยเปิดโลกของเขาอยู่ไม่น้อย โดยหนึ่งในหนังสือที่เขาอ่านนั้นมีหนังสือของบิดาแห่งการปฏิวัติฝรั่งเศสอย่าง “ฌอง ฌาร์ค รุสโซ” อยู่ด้วย รุสโซได้เข้ามามีอิทธิพลทางความคิดต่อ Zamor เป็นอย่างมาก
ครั้นเมื่อไฟแห่งการปฏิวัติฝรั่งเศสลุกโหมขึ้นมาหลังจากการทลายคุกบาสตีย์ ในวันที่ 14 กรกฎาคม ปี 1789 Zamor ซึ่งได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ได้ไปรวมกลุ่มกับพรรคปฏิวัติที่เพิ่งก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาหลังการทลายคุกบาสตีย์อย่าง สโมสรฌากอแบ็ง พร้อม ๆ กันกับเพื่อนคนอื่น ๆ ของเขาที่เป็นเด็กรับใช้ของมาดามดูบาร์รี่ ซึ่ง Zamor ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโฆษกของคณะกรรมการความปลอดภัยสาธารณะแห่งชาติในช่วงราวปี 1792
📌มรณกรรมของมาดามดูบาร์รี่
Zamor เริ่มต่อต้านมาดามดูบาร์รี่และโพนทะนาไปทั่วว่า ถึงแม้มาดามดูบาร์รี่จะเลี้ยงดูเขามาดีแค่ไหน แต่นางก็ปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นทาส เป็นของเล่น ไม่ได้ปฏิบัติต่อเขาเฉกเช่นมนุษย์ อีกทั้งยังป่าวประกาศถึงการใช้ชีวิตที่หรูหราฟุ่มเฟือยของมาดามดูบาร์รี่ ในขณะที่ประชาชนต้องอดอยากรวมไปถึงการท้วงติงเรื่องที่มาดามดูบาร์รี่มักจะเดินทางไปอังกฤษบ่อย ๆ
แต่ถึงอย่างนั้น นักวิชาการบางส่วนก็กล่าวว่า Zamor เองเคยพยายามที่จะปกป้องมาดามดูบาร์รี่โดยพยายามห้ามไม่ให้เธอไปคบค้าสมาคมกับชนชั้นสูงอื่น ๆ อีก เพราะถึงอย่างไรก็ตามมาดามดูบาร์รี่ก็เป็นสามัญชนมาตั้งแต่แรกเริ่ม ทว่ามาดามดูบาร์รี่กลับไม่เชื่อฟัง ซึ่งถ้าหากว่าเป็นจริง เรื่องนี้ก็อาจจะไขคำตอบได้บ้างว่าความสัมพันธ์ของ Zamor กับมาดามดูบาร์รี่นั้นเป็นอย่างไร
ทว่าในปี 1792 Zamor ก็ได้แจ้งจับมาดามดูบาร์รี่ซึ่งส่งผลให้เธอต้องโทษจำคุกไปไม่นานก็พ้นโทษออกมาได้ พอมาดามดูบาร์รี่รู้ว่าคนที่แจ้งตำรวจให้มาจับเธอคือ Zamor เธอก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟและสั่งให้ Zamor รีบเก็บข้าวของออกจากคฤหาสน์ของเธอภายใน 3 วัน ซึ่งแน่นอนว่า Zamor ก็ออกไปตั้งแต่วันแรกเลย
เวลาผ่านไปไม่นาน Zamor ก็แจ้งเบาะแสให้ไปจับมาดามดูบาร์รี่อีกครั้งหนึ่ง ซึี่งคราวนี้จับด้วยข้อหาว่าเธอไปอังกฤษเพื่อให้เงินแก่พวกขุนนางฝรั่งเศสที่หนีไป ซึ่งในระหว่างการพิจารณาคดี ได้มีการให้ผู้ฟ้องคือ Zamor ระบุประวัติของตนเอง ซึ่ง Zamor ก็ไม่ได้ระบุว่าตนเป็นคนของมาดามดูบาร์รี่หากแต่เป็นชาวอินเดียจากเมืองจิตตะกอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Zamor กับมาดามดูบาร์รี่ได้ตัดขาดกันอย่างสิ้นเชิง และเป็นหลักฐานว่า Zamor หลุดพ้นจากสถานะทาสแล้ว
ในเดือนธันวาคมปี 1793 ซึ่งเป็นยุคสมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัวในฝรั่งเศสที่มีผู้คนต้องสังเวยชีวิตให้กับปีศาจเลือดอย่างกีโยตินซึ่งตั้งตระหง่านอยู่กลางเมืองบนจัตุรัสแห่งการปฏิวัติ “ปลาซ เดอ ลา เรโวลูซียง” มาดามดูบาร์รี่ก็ถูกประหารชีวิตที่นั่นเช่นเดียวกันกับคนดังคนอื่น ๆ อย่างมารี อองตัวแนตต์ และพระเจ้าหลุยส์ที่ 16
📌กรรมสนองทุกข์ให้เป็นใหญ่หลวง
ไม่นานหลังจากการประหารชีวิตมาดามดูบาร์รี่ Zamor ก็ถูกจับโดยฝ่ายจีรงแด็ง โดยต้องสงสัยว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับมาดามดูแบร์รี่ และฝ่ายลามองตาญ แต่อย่างไรก็ตาม ได้มีการตรวจสอบพบว่าเขาไม่มีความผิดจึงได้รับการปล่อยตัว เขาจึงรีบหนีออกจากฝรั่งเศสโดยแทบจะทันที ท่ามกลางสถานการณ์การปฏิวัติที่กำลังจะถึงจุดจบ
เราไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าชีวิตเขาเป็นอย่างไรหลังจากที่หนีออกจากฝรั่งเศส เรารู้เพียงแค่ว่าเขากลับมาอีกครั้งในปี 1815 และทำอาชีพครูสอนเขียนหนังสือและเล่นไวโอลินตามงานเลี้ยง ซึ่งก็ไม่ได้ประสบผลสำเร็จมากนัก ในท้ายที่สุดเขาก็เสียชีวิตในห้องพักด้วยวัย 58 ปี โดยมีบันทึกว่าเขาเป็นที่รังเกียจของเพื่อนบ้าน และเสียชีวิตอย่างไร้การเหลียวแล
โฆษณา