ที่สำคัญ RIM ยังมีข้อได้เปรียบที่ Nokia และผู้ผลิตโทรศัพท์รายอื่นขาดไป นั่นก็คือเครือข่ายข้อมูลของตนเอง ข้อความของ Blackberry เดินทางผ่านเครือข่ายภายในองค์กรของ RIM ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับผู้ให้บริการ การเชื่อมต่อที่ไม่เหมือนใครทำให้ RIM เปรียบดั่งมีประตูหลัง (back door) ในการแอบเข้าไปในผู้ให้บริการเครือข่ายที่ไม่ได้รับอนุญาต
ความนิยมของ Blackberry นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสื่อสารสมัยใหม่ โลกธุรกิจเป็นพรมแดนแรกที่ยอมจำนน : Andy Grove ประธาน Intel กล่าวกับ USA Today ในเดือนพฤษภาคม 2001 ว่า “Blackberry ควรรายงานต่อ DEA ว่ามันเสพติดมาก”
2
ในขณะที่ Marc Beniooff CEO ของ Saleforce.com เรียก Blackberry ว่า “เฮโรอีนของคอมพิวเตอร์พกพา”
Marc Beniooff CEO ของ Saleforce.com เปรียบ Blackberry เหมือนดั่งเฮโรอีน (CR:Business Insider)
ในเดือนกันยายน ปี 2006 RIM ได้เชิญนักข่าวและบล็อกเกอร์หลายสิบคนไปที่โรงละครในไทม์สแควร์ของนิวยอร์กเพื่อชมการนำเสนอวีดีโอของผลิตภัณฑ์
Mike Lazaridis ผู้ร่วมก่อตั้ง RIM ในเสื้อสเวตเตอร์คอวีสีดำ ได้ออกมาบรรยายถึง Blackberry Pearl รุ่นใหม่ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งพิเศษด้วยวิธีที่แตกต่างของ Blackberry ในการเล่นเพลงและวีดีโอ มันเป็นวิธีการสื่อสารใหม่ซึ่งแต่เดิมนั้น RIM มักใช้นักการตลาดจากภายนอกเพื่อช่วยทำการตลาดผลิตภัณฑ์ของตนให้กับลูกค้า
3
Mike Lazaridis ผู้ร่วมก่อตั้ง RIM กับการเปิดตัว Blackberry Pearl (CR:Maxmanroe.com)
แต่ RIM กำลังเริ่มแคมเปญการสร้างแบรนด์ของตนเอง โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้บริโภคเป็นครั้ังแรก มีการทาบทามนักแสดงชื่อดังอย่าง Mariska Hargitay และ Martin Eberhard CEO ของ Tesla Motors (ในตอนนั้น) ให้มาปรากฎตัวในโฆษณาที่พูดถึงวิธีที่ Pearl เปลี่ยนชีวิตของพวกเขา
Mike Elgan คอลัมนิสต์ของ Computerworld ประกาศว่าโทรศัพท์ใหม่ที่บางเฉียบนี้ ด้วยแทร็กบอลที่ลื่นไหล การนำทางบนอินเทอร์เน็ตจึงเป็นเรื่องง่ายจน Elgan เขียนบทความในคอลัมน์ทั้งหมดของเขาจาก Pearl