12 ต.ค. 2023 เวลา 04:09 • ธุรกิจ

ความล้มเหลวของ Apple Maps กับบทพิสูจน์ความเป็นผู้นำสูงสุดครั้งแรกของ Tim Cook

Jony Ive ได้เข้ามาที่ Infinite Loop สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของ Apple ด้วยพลังที่เต็มเปี่ยม มันเป็นเดือนมกราคม 2012 มันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ Steve Jobs เสียชีวิตที่เขารู้สึกถึงจุดมุ่งหมายใหม่ของ Apple
3
มันเป็นเวลาหลายเดือนที่เขาต้องต่อสู้กับการค้นหาวิธีเอาใจเจ้านายใหม่อย่าง Tim Cook ที่เป็นทั้งหุ้นส่วนและเพื่อนของเขา ขณะเดียวกันก็ต้องการพิสูจน์ให้โลกได้เห็นว่า Apple จะสามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่มีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์อย่าง Jobs
2
Ive ต้องการพัฒนาสิ่งที่เขาเรียกว่าแพลตฟอร์มใหม่ (new platform) ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของ Apple ในอีกหลายปีข้างหน้า โดยสามารถเพิ่มคุณสมบัติใหม่ ๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนได้เช่นเดียวกับ iPhone
1
มันเป็นช่วงเวลาหลายปีที่เหล่าวิศวกรและนักออกแบบของ Applee ต่างหาคำตอบว่า อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป พวกเขากำลังค้นคว้าความเป็นไปได้ต่าง ๆ มากมาย และสิ่งหนึ่งที่กลายเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจก็คือเรื่องของสุขภาพ
2
ในปี 2010 Jobs รู้สึกเหนื่อยล้ากับการที่ต้องตรวจเลือดมาหนึ่งปี ซึ่งทำให้เขาได้เข้าซื้อกิจการสตาร์ทอัพชื่อ Rare Light ซึ่งอ้างว่าสามารถใช้เลเซอร์ในการตรวจจับระดับกลูโคสในเลือดได้ ซึ่งอาจะเปลี่ยนแปลงชีวิตได้โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน แม้เทคโนโลยีจะยังไม่พร้อม แต่มันได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการสนทนาเกี่ยวกับวิธีการสร้างอุปกรณ์ด้านสุขภาพของ Apple
ในตอนนั้น Jobs เริ่มคิดจริงจังเกี่ยวกับการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีสวมใส่ได้ ซึ่งได้กลายเป็นแนวคิดที่แพร่กระจายไปทั่ว Silicon Valley และด้วยกระแสจากอุปกรณ์อย่าง FitBit ทำให้มันได้รับความนิยมมากขึ้น
4
กระแสจากอุปกรณ์อย่าง FitBit ทำให้เทรนด์อุปกรณ์ด้านสุขภาพเริ่มได้รับความนิยม (CR:Time)
Ive ได้รวบรวมทีมออกแบบบางส่วนภายในสตูดิโอของเขาเพื่อระดมความคิด เหล่าทีมงานถือสมุดสเก็ตช์ภาพและเตรียมแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในอนาคต ซึ่ง Jobs เองได้เริ่มเขึยนชุดตัวอักษรหนึ่งบนไวท์บอร์ด จากนั้นหันหลังกลับมาเพื่อเผชิญหน้ากับเหล่านักออกแบบ บนไวท์บอร์ดด้านหลัง Jobs เขียนไว้เพียงคำเดียว “smartwatch”
1
ในช่วงหลายเดือนหลังจาก Jobs เสียชีวิต นักลงทุนและแฟนพันธุ์แท้ของ Apple ต่างร้อนรนที่ต้องการจะทราบว่าจะมีผลิตภัณฑ์ใดของ Apple ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
การที่ Jobs แทบจะเป็นผู้กุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จในการเสกผลิตภัณฑ์อย่าง iPod , iPhone และ iPad ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า Apple จะประสบความสำเร็จได้อย่างไรหากไม่มีเขา
1
Scott Forstall หัวหน้าฝ่ายซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคนโปรดของ Jobs ก็รู้สึกกังวลว่าการนำคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กไปไว้บนข้อมือของผู้คนจะทำให้พวกเขาเสียสมาธิจากชีวิตประจำวัน
1
และความกังวลของ Forstall นี่เองที่ทำให้ Ive รู้สึกหงุดหงิด เพราะเขาและ Jobs มีความเชื่อร่วมกันว่าแนวคิดต่าง ๆ ควรได้รับการผลักดัน ไม่ใช่ถูกบดขยี้ ซึ่งกลายเป็นว่าหนึ่งในความคิดสำคัญของ Ive ในรอบหลายเดือนกำลังถูกโจมตีด้วยความวิตกกังวลของเพื่อนร่วมงาน
1
Ive รู้สึกหงุดหงิดกับความกังวลของเพื่อนร่วมงาน (CR:GitHub Pages)
แทนที่จะสนับสนุนแนวคิดของ smartwatch ของ Ive กลายเป็นว่า Forstall กลับสนับสนุนโครงการที่ Jobs ชื่นชอบอีกหนึ่งโครงการนั่นก็คือ การสร้างสรรค์ทีวีขึ้นมาใหม่
1
หลังจากที่ Jobs เสียชีวิต ทีมผู้บริหารของ Apple ได้ขอให้วิศวกรชั้นนำบางคนนำเสนอเกี่ยวกับสิ่งที่บริษัทสามารถทำได้ในทีวี ซึ่งพวกเขาได้เสนอแนวคิดที่หลากหลาย รวมถึงการปรับปรุงอุปกรณ์วีดีโอสตรีมมิ่ของบริษัทอย่าง Apple TV ด้วยรีโมทคอนโทรล หน้าจอหลัก และระบบค้นหาใหม่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการคาดเดาวิสัยทัศน์ที่แท้จริงของ Jobs
1
ด้วยแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น Tim Cook ซีอีโอคนใหม่ของ Apple จึงต้องมาตัดสินใจเรื่องนี้ว่าจะเดินหน้าโครงการ smartwatch ของ Ive หรือทีวีรูปแบบใหม่ของ Forstall
มันเป็นการแข่งขันที่ไม่ได้เกิดขึ้นมานานมากแล้วในองค์กรอย่าง Apple ทั้งสองต่างเป็นลูกรักคนโปรดของ Jobs ไม่ว่าจะเป็น Ive อัจฉริยะด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ และ Forstall ก็เป็นอัจฉริยะด้านการออกแบบซอฟต์แวร์
2
Apple Maps ผลิตภัณฑ์แห่งความล้มเหลว
แต่ก่อนที่การแข่งขันระหว่าง Ive และ Forstall จะเกิดขึ้น มีโครงการที่เร่งด่วนที่สุดคือการพัฒนาระบบแผนที่ระบบแรกของบริษัท ซึ่งความเป็นผู้นำของ Apple ในตลาดสมาร์ทโฟนขึ้นอยู่กับสิ่งนี้
1
นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2007 iPhone ได้อาศัยแผนที่และบริการค้นหาของ Google เป็นหลัก แต่เมื่อ Google เปิดตัวระบบปฏิบัติการ Android ของตัวเอง พวกเขาก็ได้เปลี่ยนจากการเป็นพันธมิตรกลายเป็นคู่แข่ง
เพื่อช่วยให้ Android ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น Google ได้คิดแผนร้ายโดยการเพิ่มคุณสมบัติที่ซับซ้อนเช่น การนำทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยวให้กับ Android ก่อน iPhone มันกลายเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญของ Android ที่จะมาเขย่าบัลลังก์ผลิตภัณฑ์ที่แสนรักแสนหวงของ Apple อย่าง iPhone
2
ทีมซอฟต์แวร์ของ Forstall เสนอให้ตอบโต้ Google ด้วยแผนง่าย ๆ ที่เรียกว่า “Maps 2012” แม้ชื่อจะดูบ้าน ๆ แต่มันเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน และจะเป็นบทพิสูจน์ความไว้วางใจครั้งสำคัญกับ Tim Cook
2
Forstall หวังให้มันเป็นผลงานเด็ด โดยจินตนาการแผนที่รูปแบบใหม่ สร้างระบบแผนที่ที่เป็นสากลและไดนามิก เพื่อให้ผู้ใช้สามารถซูมภาพแบบเรียลไทม์และรับเส้นทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยวไปยังจุดหมายปลายทางได้
1
แต่จินตนาการของ Forstall ทำให้วิศวกรบางคนตกใจ เพราะมันจำเป็นต้องได้รับฐานข้อมูลทั้งหมดของโลก ทุกถนน ทุกที่อยู่ ทุกธุรกิจ นอกจากนี้ยังหมายความว่าภาพของทุกสถานที่บนโลกจะต้องแสดงด้วยความละเอียดสูงบนโทรศัพท์ของทุกคน ซึ่งไม่เพียงแค่เอาชนะสิ่งที่ Google ใช้เวลากว่าทศวรรษในการสร้างมาเท่านั้น แต่มันจะเหนือกว่าอีกด้วย
3
Apple ทุ่มสุดตัวเพื่อพัฒนาแผนที่เวอร์ชั่นของตัวเอง ทีมงานของ Forstall ได้รับการอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินครั้งละ 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไม่ต้องขออนุมัติจากฝ่ายการเงิน
2
เงินก้อนใหญ่ทำให้ทีมงานของ Forstall ใช้จ่ายอย่างเมามัน โดยได้เข้าซื้อบริษัทเล็ก ๆ หลายแห่งที่มีประสบการณ์ในการทำแผนที่และสร้างฟีเจอร์ที่ Google ไม่มี ซึ่งรวมถึงมุมมองสะพานลอยที่จะแสดงตึกระฟ้าเป็นวงกลมสามมิติจากเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก
1
เพื่อรวบรวมภาพเหล่านี้ ทีมงานได้จ้างเครื่องบิน Cessna พร้อมกล้องถ่ายรูปเพื่อสำรวจเมืองต่าง ๆ เช่น ซินซินแนติ โดยทำแบบทีละเส้นเหมือนกับเครื่องตัดหญ้า แต่บริษัทก็มีความเข้มงวดในการเจรจาเรื่องข้อมูลแผนที่ดิจิทัล
1
ทีมการตลาดของ Apple ที่นำโดย Phil Schiller เป็นคนนำเจรจากับผู้ให้บริการชั้นนำด้านข้อมูลแผนที่ในตลาด ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติดัตช์ชื่อ TomTom ซึ่งให้บริการระบบ GPS สำหรับรถยนต์ส่วนใหญ่ และโดยทั่วไปจะเก็บค่าธรรมเนียมประมาณ 5 ดอลลาร์สำหรับรถยนต์ทุกคันที่อาศัยข้อมูลพวกเขา
5
แต่ค่าธรรมเนียมเหล่านี้มันสูงไป Schiller รับไม่ได้และต้องการเงื่อนไขที่แตกต่างและกดดันให้ผู้บริหารของ TomTom ลดค่าธรรมเนียมลง สุดท้ายทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงให้ Apple จ่ายเงินน้อยลงสำหรับชุดข้อมูลขนาดเล็กที่ไม่รวมข้อมูล เช่น ข้อมูลทางด่วนบางส่วนซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ทำให้สมาชิกในทีมซอฟต์แวร์บางคนผิดหวัง
2
Phil Schiller เป็นคนนำเจรจากับผู้ให้บริการชั้นนำด้านข้อมูลแผนที่ในตลาด (CR:MacRumors)
ข้อมูลที่ TomTom มอบให้นั้นเป็นข้อมูลพื้นฐาน และไม่ได้ตามที่ Forstall คาดหวังไว้ ในการสร้างแผนที่คุณภาพสูง ซึ่งเขาใช้เวลาหลายชั่วโมงในการพบปะกับนักออกแบบซอฟต์แวร์ที่คลั่งไคล้แบบอักษร สี และรูปภาพ
Forstall ได้นำศิลปินชาวญี่ปุ่นเข้ามาเพื่อวาดภาพว่าทางด่วนจะมีลักษณะอย่างไร และอุทิศเวลาทั้งหมดถกเถียงกันว่าสีฟ้าควรเป็นสีอะไรในมหาสมุทร และแบบอักษรใดที่พวกเขาควรใช้กับป้ายถนน
2
พวกเขาจินตนาการถึงทางด่วนที่มีเส้นโค้งสมจริง แต่ข้อมูลแผนที่จาก TomTom ไม่ได้รวมรายละเอียดเกี่ยวกับความกว้างของถนน มันเป็นข้อมูลที่ไม่ตรงปก และทีมซอฟต์แวร์ของ Forstall ส่วนใหญ่เห้นพ้องต้องกันว่าข้อมูลเหล่านี้มันไม่เพียงพอ
2
ทีมงานของ Forstall ได้แจ้งว่าโครงการคงไม่พร้อมที่จะส่งมอบตามเวลาที่กำหนด เวลามีจำกัด และเป้าหมายที่สูงเกินจริง และทีมกำลังดิ้นรนกับข้อมูล ทุกคนต่างกังวลว่าหากลูกค้าพบปัญหากับแผนที่ของ Apple เพียงข้อเดียว จะทำให้ความภักดีต่อ iPhone ของลูกค้าลดลง
1
หลังจากปั่นงานกันอย่างเร่งด่วนด้วยความไม่พร้อมในหลายๆ ด้าน แต่ Forstall ต้องการเปิดตัวให้ทันงาน WWDC ในปีนั้น
Forstall ได้ใช้ Apple Maps ในการขับรถไปรอบ ๆ Bay Area และพบว่ามันทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ สมาชิกคนอื่น ๆ ในทีมทำการทดสอบทั่วแคลิฟอร์เนีย ส่วนที่เหลือของโลกอีก 81 ประเทศ ได้รับการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ฝ่าย QC ประมาณ 8 คน และทุกคนก็บอกว่ามันพร้อมส่งมอบแล้ว
1
ในเดือนมิถุนายน Forsall ก้าวขึ้นมาบนเวทีงาน WWDC ของ Apple ที่ moscone center ในตัวเมืองซานฟรานซิสโก กระตือรือร้นที่จะอวดผลงานของทีมตนเอง
เหล่าฝูงชนที่ส่วนใหญ่เป็นโปรแกรมเมอร์กว่า 5 พันคนส่งเสียงโห่ร้องและเชียร์ขณะที่ Forstall เดินไปยังหน้าจอสีดำขนาดมหึมา
“Next” เขากล่าว “is Maps”
หน้าจอด้านหลังเขาแสดงภาพทะลสาบทาโฮ โดยมีโครงร่างเป็นรูปเท้าแสดงเป็นสีฟ้าและล้อมรอบด้วยเทือกเขาสีเขียวมรกต Forstall คลิกเพื่อแสดงให้เห็นว่ารายชื่อธุรกิจปรากฎอย่างไร และสาธิตวิธีการสร้างอาคารในรูปแบบสามมิติ จากนั้นเขาก็แตะปุ่มที่มีป้ายกำกับว่า “สะพานลอย” ที่ทำให้แผนที่แพนออกมาและเผยให้เห็นภาพวีดีโอของพีระมิดทรานส์อเมริกาในซานฟรานซิสโก ซึ่งหมุนได้ราวกับมองเห็นผ่านหน้าต่างเฮลิคอปเตอร์
3
“สวย” เขากล่าว “สวยงาม”
เขามั่นใจว่า Apple ได้แซงหน้า Google ในเรื่องของแผนที่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
2
Forsall ที่เปิดตัว Apple Maps ด้วยความมั่นใจเป็นอย่างมาก (CR:Business Insider)
แต่กลายเป็นว่าหลังจากเปิดตัว Apple Maps ประสบปัญหาแทบจะทันที ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการเปิดตัว ลูกค้าของ Apple ก็รายงานแผนที่ของพวกเขาที่แสดงให้เห็นว่าลอนดอนตกลงไปในมหาสมุทรแอตแลนติกและสถานีแพดดิงตันก็หายไป
ในดับลิน ผู้ใช้ค้นพบสนามบินที่ไม่มีอยู่จริง ทำให้สมาคมนักบินในพื้นที่ออกคำเตือนไม่ให้พยายามลงจอดฉุกเฉินที่นั่น แม้แต่ฟีเจอร์เด็ดอย่างสะพานลอยก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า ในนิวยอร์กสะพานบรูคลินละลายหายไปจากหน้าจอราวกับว่าแผ่นดินไหวได้ทำลายล้างมันไป
1
เรียกได้ว่าความล้มเหลวครั้งนี้ได้กลายเป็นวิกฤติใหญ่ครั้งแรกของ Tim Cook หลังรับตำแหน่งซีอีโอ
ในขณะที่สื่อมวลชนต่างรุมถล่ม Apple Maps อย่างหนัก Cook ได้เรียกประชุมใหญ่ในห้องประชุมของบริษัทร่วมกับผู้บริหารของ Apple รวมถึง Forstall ที่โทรมาจากนิวยอร์กซึ่งเขาไปที่นั่นและใช้เวลาช่วงวันหยุดยาวกับภรรยา
2
“เราจำเป็นต้องออกมาขอโทษ” เขาบอกกับ Forstall “ผมอยากให้คุณเซ็นคำขอโทษ”
“ทำไมเราต้องขอโทษ” Forstall ถามกลับ “เป้าหมายคืออะไร?”
1
แทนที่จะขอโทษ Forstall ได้แนะนำให้ Apple โน้มน้าวว่าการใช้งาน Maps นั้นยังมีประสิทธิภาพแม้จะมีปัญหาอยู่บ้างและ Apple มีความมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงแอปให้ดีขึ้น
1
แต่ Cook ไม่สนใจ ทุกคนในห้องรู้ว่า Cook ได้ตัดสินใจเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า Apple จะออกมาขอโทษ
Cook ได้ออกแอ็คชั่นทันที โดยทำงานร่วมกับทีมงานสื่อสารของ Apple และร่างจดหมายโดยกล่าวว่า Apple Maps นั้นขาดความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างผลิตภัณฑ์ระดับโลก
1
ในขณะที่ Apple พยายามทำให้ Maps ของพวกเขาดีขึ้น Cook ได้แนะนำให้ผู้คนดาวน์โหลดผลิตภัณฑ์คู่แข่งอย่าง Google และ Microsoft ซึ่งเป็นครั้งแรก ๆ ที่ซีอีโอของบริษัทระดับท็อปอย่าง Apple พยายามชักจูงลูกค้าให้ใช้ผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง
ลงมือเชือด
เกือบหนึ่งเดือนต่อมา Cook ได้เรียก Forstall มาที่บ้านของเขาในพาโลอัลโต มันเป็นวันอาทิตย์ Forstall เคยไปบ้านของ Cook มาก่อนหน้านี้ แต่โดยทั่วไปการประชุมจะมีการวางแผนล่วงหน้า การเรียกตัวไปแบบฉุกเฉินครั้งนี้จึงเป็นเรื่องที่เขาไม่ได้คาดคิด
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า Cook ได้แต่งตั้ง Jeff Williams ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมผู้บริหารให้เข้าไปช่วย Forstall ในการเปลี่ยนแปลง Maps แต่ไม่ว่า Forstall จะกดดันทีมของเขาหนักแค่ไหน ก็ชัดเจนว่าปัญหาไม่สามารถที่จะแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว
1
การแก้ปัญหาก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่ Forstall ทำพังคือการปล่อยให้ผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่สมบูรณ์ออกสู่ตลาด แถมปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นก็คือเรื่องทัศนคติของ Forstall ที่ดูเหมือนจะไม่ยอมรับความผิดพลาดของตนเอง
Cook ได้พบกับ Forstall ที่ประตูบ้านแล้วพาเขาเข้าไปข้างใน โดย Cook ได้มอบแพ็คเกจชดเชยให้ Forstall ลงนาม โดย Cook ได้แจ้งทีมของ Forstall ล่วงหน้าแล้วว่าเขาจะถูกเชิญออกและจะมีการแถลงข่าวอย่างง่าย ๆ ในวันรุ่งขึ้นเกี่ยวกับการจากไปของเขา
2
นับเป็นข่าวร้ายซ้ำสองของ Forstall ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมาเขาได้สูญเสียผู้นำจิตวิญญาณที่คอยหนุนหลังเขาเป็นอย่างดีอย่าง Jobs และตอนนี้เขากำลังจะตกงาน
Forstall อดีตลูกหม้อคนสำคัญของ Jobs พบข่าวร้ายพร้อม ๆ กันภายใน 1 ปี (CR:Macitynet)
“นี่เป็นเพราะเรื่องแผนที่ใช่ไหม?” Forstall ถาม
“ไม่” Cook กล่าว “มันไม่ใช่”
“แล้วมันคืออะไร?” Forstall ถามย้ำ
เมื่อข่าวการปลด Forstall ที่เรียกได้ว่าเป็นขุนพลคนสำคัญในยุค Steve Jobs ถูกเผยแพร่ออกไป เหล่าพนักงานต่างมองภาพออกแล้วว่าอนาคตของ Apple จะเดินไปทางไหน มันได้ฉายภาพให้เห็นหนึ่งในความน่ากลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ Cook ในฐานะซีอีโอ
2
การกระบวนการดังกล่าวนี้ Cook ได้กำจัดหนึ่งในคู่แข่งที่เขามองว่าจะเป็นศัตรูคนสำคัญในการเป็นผู้นำของเขา นอกจากนี้เขายังตบรางวัลให้ Ive พนักงานที่สำคัญที่สุดของ Apple ด้วยความรับผิดชอบใหม่ที่เหล่าทีมนักออกแบบของ Ive ต้องการมานานนั่นก็คือการเข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบรูปลักษณ์ซอฟต์แวร์ของ Apple
3
Cook ได้ลงมือกระทำการเชือด Forstall เป็นตัวอย่างและหวังที่จะทำให้เขาได้รับความจงรักภักดีจากเหล่าผู้บริหารโดยเฉพาะทีมงานชุดดั้งเดิมของ Jobs ซึ่งมันได้เผยให้เห็นอีกด้านหนึ่งของสุดยอดซีอีโอที่ผลักดัน Apple ให้กลายเป็นเบอร์หนึ่งของโลกอย่างที่เราได้เห็นในทุกวันนี้นั่นเองครับผม
2
References :
หนังสือ After Steve: How Apple Became a Trillion-Dollar Company and Lost Its Soul โดย Tripp Mickle
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา