31 ต.ค. 2023 เวลา 12:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ประเทศไหนกำลังจะกลายเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดรองจากสหรัฐและจีน

ในหลายปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ จีน และ ญี่ปุ่น ได้เป็นประเทศที่ครอง 3 อันดับประเทศที่ใหญ่ที่สุดมาเสมอ (ตาราง 1) แต่สิ่งนี้กำลังจะเปลี่ยนไปเพราะมีบางประเทศกำลังไต่อันดับขึ้นมา
ตาราง 1
หากพูดถึงในเร็ววันนี้ เยอรมนีน่าจะแซงญี่ปุ่นขึ้นมาเป็นอันดับ 3 เพราะจากการคาดการณ์ของ International Monetary Fund (IMF) GDP ของเยอรมนีจะแตะ 4.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปลายปีนี้ ซึ่งเยอะกว่าคาดการณ์ของญี่ปุ่นที่ 4.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นี่เป็นเพราะเงินเยนของญี่ปุ่นกำลังอ่อนค่าลงอย่างมากเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ
1
การที่เงินเยนอ่อนค่าเช่นนี้ก็มาจากนโยบายการเงินที่สวนทางกันระหว่างของญี่ปุ่นและประเทศใหญ่อื่นๆ พูดง่ายๆ คือญี่ปุ่นได้เลือกที่จะลดดอกเบี้ยลงจนติดลบเพื่อสู้กับภาวะเงินฝืด
ในขณะที่ประเทศหลักอื่นๆ เช่น สหรัฐฯ หรือ สหภาพยุโรป ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสู้กับเงินเฟ้อ ซึ่งดอกเบี้ยที่ต่ำของญี่ปุ่นก็มีส่วนทำให้นักลงทุนมากมายหนีไปลงทุนในสินทรัพย์ประเทศอื่นที่ให้ผลตอบแทนเยอะกว่า ทำให้ค่าเงินญี่ปุ่นอ่อนลง
และแม้ว่าหลายคนจะคาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะออกมาแทรกแซง แต่ส่วนมากก็ยังคิดว่าญี่ปุ่นไม่น่าจะขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปีหน้า นอกจากนี้ ถ้าดูคาดการณ์การเติบโตของเยอรมนีในช่วงปี 2024 – 2028 โดย IMF แล้ว ค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 1.4% ซึ่งก็เยอะกว่าค่าเฉลี่ยของญี่ปุ่นที่ 0.6% (แผนภูมิ 1) นี่หมายความว่าเศรษฐกิจเยอรมนีมีโอกาสขยายตัวเร็วกว่าญี่ปุ่นต่อไปในอนาคตด้วย
1
แผนภูมิ 1
แต่ถ้าดูในระยะยาว อินเดียอาจจะแซงทั้งญี่ปุ่นและเยอรมนีขึ้นมาเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯ และ จีน จากคาดการณ์ของ S&P Global GDP ของอินเดียจะโตแซงญี่ปุ่นกับเยอรมนี และแตะ 7.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2030
ซึ่งนี่มาจากการเติบโตของประเทศที่เร็วจนน่าตกใจ อย่างในปีที่แล้ว อินเดียก็เพิ่งจะโตแซงอังกฤษและฝรั่งเศสไป แถมประเทศก็น่าจะเติบโตไวแบบนี้ต่อไปในอนาคตด้วย เพราะดูตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของอินเดียในปี 2024-2028 โดย IMF ค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 6.3% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั่วโลกที่ 3.2% เสียอีก (แผนภูมิ 1)
1
ตามรายงานของ S&P Global การเติบโตที่รวดเร็วนี้มาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนรายได้ปานกลางที่ขยายตัวเร็ว หรือภาคอุตสาหกรรมที่ใหญ่ อย่างรายได้ต่อหัวของชาวอินเดียก็มีแนวโน้มโตขึ้น 70% และแตะ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2030 จากปัจจุบันที่ 2,450 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ตามคาดการณ์ของ Standard Chartered Bank และสัดส่วนภาคอุตสาหกรรมของอินเดียก็ใหญ่ถึง 26% ของ GDP ซึ่งตลาดในประเทศที่โตเร็วและภาคการผลิตที่ใหญ่ก็ช่วยดึงดูดเงินลงทุนจากบริษัทต่างประเทศมากมายด้วย
จากคาดการณ์เหล่านี้ เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของอันดับประเทศที่เศรษฐกิจใหญ่ที่สุด แต่ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมากมายในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย สภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง หรือ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ก็อาจทำให้เราได้เห็นความเปลี่ยนในโลกนี้มากกว่าเดิม
1
Sources:
โฆษณา