28 ธ.ค. 2023 เวลา 07:40 • ความคิดเห็น

“อยากสำเร็จ มันขึ้นกับตัวเราเอง หรือขึ้นกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า?”

ด.ช.แดง ย้ายมาเข้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง
ในห้องเรียนนั้น มีแก๊งค์เด็กเรียนอยู่ 5 คน
ไม่รู้ยังไง แดงจับพลัดจับผลูไปสนิทกับแก๊งค์นี้
ถามว่า 1 ปีผ่านไป แก๊งค์เด็กเรียนจะมีกี่คน?
คำตอบคือ 6 คนครับ หนึ่งคนที่เพิ่มขึ้นมาก็คือแดงนั่นเอง
คงนึกออกนะครับ ก็แดงดันไปสนิทแก๊งค์เด็กเรียน
พวกนั้นนั่งหน้าห้อง อ่านหนังสือ ติว แดงก็ตามเขาไป
ไม่ว่าแดงจะอยากเก่งไหม สุดท้ายยังไงก็เก่ง
ขอถามกลับกันอีกซักคำถาม
แล้วถ้าห้องเรียนนั้น มีแก๊งค์เด็กเกเรอยู่ 5 คน
บังเอิญเช่นกัน แดงจับพลัดจับผลูไปซี้กับแก๊งค์นี้
ถามว่า 1 ปีผ่านไป แก๊งค์เด็กเกเรจะมีกี่คน?
คำตอบก็คือ 6 คนเช่นกัน มีแดงเพิ่มเข้ามา
1 ปีมันนานพอจะเปลี่ยนคนได้ ดันไปซี้แก๊งค์เด็กเกเร
พวกนั้นนั่งหลังห้อง โดดเรียน เล่นยา แดงก็ตามเขาไป
ไม่ว่าแดงจะอยากเลวไหม สุดท้ายยังไงก็เลว
น่ากลัวนะครับ อนาคตเราขึ้นกับสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก
ทุกคนอยากเก่งอยากดี แต่มันขึ้นกับตัวเราแค่กี่ %
มีสักกี่คนที่จะเข้มแข็ง ปั้นตัวเองได้โดยสิ่งแวดล้อมไม่มีผล
สุภาษิตบอก คบคนพาลๆไปหาผิด คบบัณฑิตๆพาไปหาผล
ทางพุทธบอก กัลยาณมิตรคือสิ่งล้ำค่าที่สุด
ทางจิตวิทยาบอก 4 คนรอบตัวเราจะสะท้อนว่าเราเป็นยังไง
รู้แบบนี้ จงสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้ตัวเองนะครับ
เลือกเองเลย ไม่ใช่ปล่อยให้ดวงพาไปเหมือนแดง
ถ้ามีเป้าหมาย แค่ตั้งใจทำให้ดีที่สุดไม่พอ
ต้องมีสิ่งแวดล้อมที่เอื้อไปสู่เป้าหมายนั้นด้วย
สอดคล้องที่เคยคุยไปหัวข้อ “เครียดไปหรือชิลไป ปล่อยเขา! เขามีเป้าของเขา เราล่ะมีหรือยัง?” --> https://www.blockdit.com/posts/64aec4ab3b4f5807cd3445d9
ถ้าหาเพื่อนดีๆไม่ได้ อยู่คนเดียวยังดีกว่า ยังไปถึงเป้าได้ครับ
โฆษณา