1 ม.ค. เวลา 14:33 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (The Stock Exchange of Thailand)

🚫“บทเรียนของคนอยากรวยเร็ว”🚫

ผมก้าวเท้าเข้ามายังตลาดหุ้นเพราะอยากรวยเร็ว
ด้วยความนิสัยไม่ดีของผม เมื่อเรารักหุ้นตัวไหนแล้ว เราจะรักเลย ผมทุ่มซื้อหุ้นอยู่ตัวเดียวทั้งพอร์ต
หุ้นยิ่งลง ผมยิ่งซื้อ ซื้อด้วยเงินสดทั้งหมดที่มีในชีวิต
ผมเริ่มหันมาใช้มาร์จิ้น (เงินกู้) และใช้ ‘Leverage’ ซ้ำเข้าไปอีก นี่คือ “ระเบิดเวลาครั้งใหญ่” ในชีวิต
ตอนหุ้นขึ้นไม่มีเรา แต่ตอนมันลง เรามีครบ
📉หลังจากนั้นก็เกิดวิกฤติซับไพรม์ (Subprime Crisis, 2008) ผมกำลังจะถูก ‘Force Sell’ (บังคับขายหุ้น) ช่วงพักเที่ยงของวันธรรมดาวันหนึ่ง ผมได้รับสายโทรศัพท์จากโบรกเกอร์ เขาถามผมว่า “คุณจะขายเอง หรือให้ผมขายให้” มันบีบคั้นหัวใจเหลือเกิน
หากไม่อยากถูกบังคับขายหุ้น ผมต้องหาเงินสดมาเติมเข้าพอร์ต ผมดึงเงินสภาพคล่องออกมาจากธุรกิจส่วนตัวของครอบครัว แน่นอนอยู่แล้วว่า ผมจะไม่มีวันยอมถูก ‘Force Sell’
❎และผมก็ผิดพลาดอีกครั้ง
ผมเลือกที่จะซื้อหุ้นเพิ่มเข้าไปอีก โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าอนาคตอีกไม่นาน วิกฤติครั้งใหญ่กำลังจะดำเนินมาถึง หลังจากใช้เงินเครดิตเทอมของธุรกิจส่วนตัว ผมได้รูดบัตรเครดิตอีก 8 ใบ รวมถึงนำรถยนต์ของที่บ้านไปจำนำอีก 3 คัน
ผมรอดตายมาได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด ด้วยวิธีการลากไล่ราคาหุ้นให้ขึ้นกลับไปยังจุดเดิม เพราะสภาพคล่องหุ้นตัวนั้นต่ำมาก จึงไม่ใช่เรื่องยากนักที่ผมจะทำ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาได้ประกาศอัดฉีดเงินเข้าระบบ (QE) และนั่นคือจุดต่ำสุดของตลาดหุ้นไทย หลังจากนั้นราคาหุ้นก็ค่อยๆทะยานกลับขึ้นมา ไม่นานนักมันกลายเป็นหุ้น 10 เด้งตัวแรกในชีวิต
☑️บทเรียนการลงทุนครั้งแรกในชีวิตของผมคือ อย่าใช้มาร์จิ้น
☑️บทเรียนการลงทุนครั้งสุดท้ายคือ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่ใช้มาร์จิ้น ต่อให้ปัจจุบันจะร่ำรวยน้อยลง ผมก็ยอม เหตุเพราะหากผมไม่รอด ตอนนี้ก็คงไม่เหลืออะไรเลย
หากคุณเลือกหุ้นได้ถูกต้อง ค่อยๆเติบโต อย่างไรเสียก็รวย แถมยังกินอิ่ม นอนหลับ มันเพียงพอแล้วต่อชีวิตคนคนหนึ่ง
คุณมีเงิน 100 ล้านบาท หรือ 300 ล้านบาท ชีวิตก็คงไม่แตกต่างกันมากนัก
🟢คำแนะนำสำหรับนักลงทุนมือใหม่คือ อย่าคาดหวังว่าจะรวยเร็ว คุณควรตั้งใจทำงานประจำที่มีอยู่ พัฒนาทักษะเพื่อให้ได้รับค่าจ้างดีๆ ประหยัด อดออม เพื่อให้รายได้ส่วนนี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยที่ไม่ต้องนำเงินเก็บออมหรือเงินจากพอร์ตการลงทุนออกมาใช้จ่าย
ไม่ใช่ว่ามีเงินเพียงแค่ไม่กี่ล้าน ก็คิดอยากจะลาออกจากงานมาเล่นหุ้น มันไม่ถูก คุณรู้ได้อย่างไรว่าหุ้นมันจะขึ้น ถ้าหมดตัวจะทำอย่างไร?
1
🟢หากเราเป็น ‘Value Investor’ ที่คำนึงถึงความคุ้มค่าในการลงทุนและการใช้ชีวิตจนเป็นนิสัย ไม่ว่าจะมีเงินร้อยล้านหรือหมื่นล้าน ชีวิตก็ไม่แตกต่างกัน และมีความสุขดี เพราะสุดท้ายถ้าคุณเป็นคนที่อยากรวยเร็ว รวยทางลัด คุณจะมีนิสัยใช้เงินฟุ่มเฟือย เมื่อหาเงินได้เยอะก็อยากได้โน่น อยากได้นี่ อีกไม่มีวันรู้จบ
มอบรางวัลแก่ตนเองบนขอบเขตอันเหมาะสม ความสุขระหว่างทางเดินสู่เป้าหมายนั้นมีหลากหลายรูปแบบ
🖋️มงคล ประกิตชัยวัฒนา
📖ส่วนหนึ่งจากหนังสือ
“วิถีแห่ง VI” : บทเรียนการลงทุนที่ตกผลึกโดยต้นแบบนักลงทุนเน้นคุณค่า 35 ท่าน เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย)
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 🙂
📌Recap. 2023
ณ ปัจจุบัน ‘มงคล ประกิตชัยวัฒนา’ เป็นนักลงทุนหุ้นซึ่งมีความมั่งคั่งมากที่สุดในประเทศไทย ลำดับที่ 17 ด้วยมูลค่าพอร์ตการลงทุนจำนวน 12,724 ล้านบาท (เฉพาะตลาดหุ้นไทย และไม่รวมทรัพย์สินอื่น)
พอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นไทยประกอบด้วยการถือครองหุ้นบริษัทจดทะเบียนทั้งสิ้น 4 บริษัท (ข้อมูลเฉพาะที่ติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่)
🔹“บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) : KTC” จำนวน 258 ล้านหุ้น / มูลค่า 11,227 ล้านบาท
🔹“บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) : XPG” จำนวน 859 ล้านหุ้น / มูลค่า 1,161 ล้านบาท
🔹“บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) : SAPPE” จำนวน 3.4 ล้านหุ้น / มูลค่า 293 ล้านบาท
🔹“บริษัท เดอะแพรคทิเคิลโซลูชั่น จำกัด (มหาชน) : TPS” จำนวน 15 ล้านหุ้น / มูลค่า 43 ล้านบาท
🟩สรุปรวมเงินปันผลที่คุณมงคลได้รับจากบริษัทจดทะเบียน ตลอดทั้งปี 2023 เป็นจำนวนเงิน 304 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 25.3 ล้านบาทต่อเดือนเลยทีเดียว
โฆษณา