11 ม.ค. เวลา 05:24 • ความคิดเห็น
โบราณเขาบอกว่า
ลึกที่สุด คือ ใจคน
ไกลที่สุด คือ อดีต
ใกล้ที่สุด คือ ความตาย
1
คำโบราณนี้กล่าวว่า อดีตไกลที่สุด มันก็แปลว่า เวลาในอดีตที่ผ่านมา มีมากกว่า
1
ทีนี้เราลองวิเคราะห์ดู
ถ้าหากเวลาเดินเป็นเส้นตรงจากซ้ายไปขวา ก็หมายความว่า เวลาปัจจุบันจะไม่ได้อยู่ตรงกลางครับ
1
เพราะว่า
เวลาในอนาคตมันไม่มีจริง
ถ้าหากเวลาเดินเป็นเส้นตรงจากซ้ายไปขวา ก็หมายความว่า เวลาปัจจุบันอยู่ตรงขวาสุดครับ และเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเรื่อยๆ เป็นไปตามเงื่อนไขของเวลาที่เคลื่อนที่เป็นเส้นตรง ดังนั้นเวลาปัจจุบันจึงไม่ได้อยู่ตรงกลางอย่างที่เราเข้าใจ
1
อธิบายเพิ่มเติม
เวลาในอนาคต = ยังไม่ได้เกิดขึ้น
แล้วถ้ามันยังไม่ได้เกิดขึ้น มันก็แปลว่า มันยังไม่มีจริง แล้วถ้ามันยังไม่มีจริง เวลาปัจจุบันจะอยู่ตรงกลางได้อย่างไร มันก็แปลว่า เวลาปัจจุบันต้องอยู่ขวาสุดเสมอ ตามเงื่อนไขที่เวลาเดินเป็นเส้นตรงจากซ้ายไปขวา
1
ไกลที่สุดก็คืออดีตกาลที่ผ่านมา ส่วนเวลาในอนาคตคือสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เราจึงไม่อาจบอกได้ว่าเวลาในอนาคตนั้นมีมากหรือน้อยกว่า เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นมา ส่วนอดีตเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงและผ่านมาแล้ว จึงมีปริมาณที่มากกว่าไปเรื่อยๆ และเพิ่มขึ้นทุกวินาทีที่เวลาดำเนินไป
1
แต่ถ้าเราลองวิเคราะห์ เพิ่มขึ้นไปอีก
เวลาอยู่ภายใต้กฎของโลก 3 มิติ ที่มีแรงโน้มถ่วง หากนอกเหนือจากนี้เป็นกาลอวกาศที่เวลาคือเอกภาพและไม่มีจริงครับ ถ้าหากวัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นความเร็วหลุดพ้นจากแสง เราจะมองเห็นว่าวัตถุนั้นมันหายไปเปรียบเสมือนว่ามันไม่มีจริง มันก็แปลว่าวัตถุนั้นหลุดพ้นจากมิติที่ 3 เข้าสู่มิติที่ 4
1
ถ้าหากเราเคยดูภาพยนตร์เรื่อง interstellar
จะรู้ว่าในตัวของภาพยนตร์ได้อธิบายเรื่องกาลเวลาเอาไว้ ผ่านบทภาพยนตร์ได้อย่างเหนือจินตนาการ เมื่อพระเอก ตกลงไปในหลุมดำที่มีแรงดึงดูดยิ่งยวด ที่แม้แต่แสงก็ไม่อาจหนีออกมาได้ ทำให้เกิดเป็นความเร็วหลุดพ้นที่มีอัตราเร่งมหาศาล จึงหลุดพ้นจากเวลา
1
แล้วเมื่อพระเอก หลุดพ้นจากเงื่อนไขของเวลา และได้เจอกับเทคโนโลยีของสิ่งมีชีวิตในมิติที่ 5 ที่มีความสามารถในการยืดหดเวลาได้ จึงสามารถเดินทางไปยังอดีต ผ่านการส่งรหัสมอร์สที่นาฬิกาข้อมือ เพื่อบอกนัยยะสำคัญให้กับลูกสาวในวัยเด็ก และตอนนั้นลูกสาวในวัยเด็กยังไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น จึงคิดว่านี่คือผี และเมื่อลูกสาวเติบโตขึ้น จึงเข้าใจว่า พ่อของตัวเองจากอนาคตเดินทางกลับมาเพื่อบอกอะไรบางอย่าง
ลูกสาวจึงพูดว่า พ่อคือผีของหนู ลูกสาวได้เฉลยบอกกับพระเอกในตอนที่พระเอกเดินทางกลับมาในเวลาปัจจุบัน และลูกสาวก็เลยมีอายุมากกว่าพ่อ
เวลาเดินเป็นเส้นตรง ตามเงื่อนไขในโลก 3 มิติ
แต่แท้จริงแล้ว เวลาเป็นเอกภาพ
เวลาคือ อกาลิโก
อัลเบิร์ตไอน์สไตน์เคยกล่าวว่า
เวลาคือ เมตาบอลิซึม ของเราเอง
ขึ้นอยู่กับเราว่าเรารู้สึกกับสิ่งสิ่งนั้นอย่างไรบ้าง
โฆษณา