8 มี.ค. เวลา 15:23 • ความคิดเห็น
1. เริ่มต้นกันที่เรื่องของน้ำแดง ที่มักจะถูกนำไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และสิ่งเหนือธรรมชาติต่างๆ ตั้งแต่ปีศาจนางไม้เจ้าที่เจ้าทางเจ้าแม่กุมารเทวดาและเทพต่างๆ ซึ่งที่มาของการไหว้ด้วยน้ำแดงจริงๆแล้วก็ยังไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ 100% ว่าใครเป็นผู้ริเริ่มแล้วทำไมต้องใช้น้ำแดง
2. ตัดผมวันพุธไม่ดี ตามความเชื่อที่มีมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ ที่ผู้คนมักจะกล่าวว่า ห้ามตัดผมในวันพุธ เพราะจะทำให้เกิดเรื่องไม่ดีและจะเป็นอัปมงคลต่อชีวิต จึงทำให้มีร้านตัดผมจำนวนไม่น้อยต้องปิดให้บริการในวันพุธ
3. ตุ๊กแกร้อง โดยทั่วไปแล้วตุ๊กแกส่วนใหญ่จะร้องตอนกลางคืน แต่นานๆทีก็จะมีร้องตอนกลางวันอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อใดที่ตุ๊กแกร้องตอนกลางวันคนโบราณเชื่อว่ามันหมายถึงลางร้าย ให้คอยระมัดระวังตัวเองให้ดี โดยที่มาของความเชื่อนี้ก็เกิดจากการที่คนโบราณเชื่อว่าบรรดาบรรพบุรุษของเราอย่างปู่ย่าตายาย ได้ดลบันดาลเตือนใจผ่านเสียงร้องของตุ๊กแก หรือเรียกว่าผีบ้านผีเรือนนั่นเอง
4. หลายคนอาจจะเคยได้ยินความเชื่อที่ว่า หากไม่ต้องการให้ฝนตก ก็ให้สาวพรหมจรรย์เอาตะไคร้ไปปักลงดิน โดยให้เอาส่วนยอดปักลงไปโดยเอาส่วนที่เป็นรากชี้ขึ้นท้องฟ้า แล้วฝนที่ตั้งเค้าจะไม่ตกลงมา โดยรากฐานของความเชื่อนี้ก็มาจากแนวคิดที่ว่าการปลูกพืชใดๆจะต้องปักร่างลงไปในดินถึงจะทำให้พืชนั้นเจริญเติบโตงอกงาม แต่ว่าการปักตะไคร้ที่ว่านี้เป็นการปักแบบปรับหัวกับหาง ซึ่งเป็นสิ่งที่ฝืนธรรมชาติ ซึ่งคนโบราณเชื่อว่าการฝืนธรรมชาตินี้ จะทำให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทวดาไม่พอใจ แล้วดลบันดาลให้ฝนไม่ตกอย่างที่ควรจะเป็น
5. ห้ามตัดเล็บตอนกลางคืน คุณเคยได้ยินไหมครับว่าการตัดเล็บในช่วงเวลากลางคืนนั้นไม่ดี จะทำให้วิญญาณของบรรพบุรุษอยู่ไม่เป็นสุข ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าทั้งสองอย่างนี้เกี่ยวข้องกันอย่างไร ซึ่งเอาเข้าจริงๆแล้วความเชื่อมโยงนั้นมีอยู่ค่อนข้างน้อย แต่สิ่งที่ดูเหมือนว่าจะสมเหตุสมผลมากที่สุดก็เป็นในเรื่องของความปลอดภัย เนื่องจากการตัดเล็บในสมัยก่อนต้องตัดด้วยใบมีดขนาดเล็ก ซึ่งในช่วงเวลากลางคืนมีแสงสว่างไม่เพียงพอ แสงไฟสลัวที่ได้มาจากตะเกียงหรือไม่ก็แสงจันทร์ จึงอาจจะทำให้เกิดอันตรายระหว่างตัดเล็บได้
6. ห้ามทักเด็กแรกเกิดว่าน่ารัก เมื่อไรที่มีเด็กทารกเกิดใหม่ออกมา บ่อยครั้งที่เราได้ยินผู้ใหญ่พูดว่าเด็กคนนี้มันช่างน่าเกลียดน่าชัง จนทำให้หลายคนสงสัยว่า ทำไมถึงนิยมพูดแบบนี้ แล้วทำไมถึงไม่ชมว่าเด็กน่ารัก ซึ่งเรื่องนี้ก็มาจากความเชื่อของคนโบราณที่กล่าวกันว่า ถ้าหากชมว่าเด็กน่ารักน่าเอ็นดู ก็จะทำให้ผีสางหรือวิญญาณร้ายหมายปอง ซึ่งอาจจะต้องการเอาเด็กคนนี้ไปอยู่ด้วย จนทำให้เด็กมีอาการเจ็บป่วย มีอันเป็นไป หรือไม่ก็เข้ามาก่อกวนให้เด็กร้องไม่หยุด
7. ความเชื่อในข้อนี้ไม่ใช่กลอุบายในการดำเนินชีวิตเหมือนอย่างข้ออื่น แต่เป็นความเชื่อในเรื่องการกลับชาติมาเกิด ซึ่งความเชื่อนี้กล่าวว่าผู้ที่เสียชีวิตในอดีต ถ้าหากว่าพวกเขามีร่องรอยตำหนิใดๆบนร่างกาย เมื่อมาเกิดใหม่ในชาติต่อไป ก็จะพาเอาตำหนิเหล่านี้กลับมาด้วย โดยตำหนิก่อนการเสียชีวิตนั้นก็มีอยู่มากมายหลายอย่าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรอยแผล ไม่ว่าจะเป็นแผลไฟไหม้ แผลของมีคมบาด และรอยกระสุนเป็นต้น จากนั้นเมื่อพวกเขากลับชาติมาเกิดใหม่ รอยตำหนิที่ว่านี้จะมาในรูปของปาน ซึ่งอาจจะเป็นปานดำหรือปานแดงก็ได้
8. ความฝันที่กลายเป็นความจริง อย่างที่เราทราบกันดีว่าสังคมไทยกับการตีความหมายของความฝันเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาอย่างเนิ่นนาน โดยความเชื่อในข้อนี้จะเป็นเรื่องราวของเวลาที่เกิดความฝัน ซึ่งตามความเชื่อโบราณนั้นกล่าวว่าแม้ว่าคนเราจะฝันได้หลากหลายช่วงเวลา แต่ก็จะมีบางช่วงที่เป็นฝันบอกเหตุซึ่งเกิดจากการที่เทวดาฟ้าดินที่มีวาสนาร่วมกับเราเข้ามาเตือนสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นผ่านทางความฝัน โดยช่วงเวลาดังกล่าวนี้อยู่ในช่วงใกล้เช้า โบราณถึงบอกว่าฝันใกล้เช้ามักกลายเป็นความจริง
9. ห้ามขานรับในตอนกลางคืน โบราณเชื่อว่ามีวิญญาณเร่ร่อนหรือภูตผีปีศาจอยู่ทุกที่ คนโบราณจึงกล่าวว่าให้ระวังให้ดีกับการขาดรับในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งถ้าหากว่าเราได้ยินเสียงเรียกหรือเสียงแปลกๆที่พยายามสื่อสารมาถึงเรา เราก็ห้ามทักหรือห้ามขานรับ เนื่องจากเชื่อกันว่าจะทำให้ดวงวิญญาณเหล่านั้นตามมาหลอกหลอน ตามเกาะติดเรา หรือไม่ก็อาจจะเป็นการหลอกล่อให้เราตอบตกลงที่หมายถึงการเชื้อเชิญวิญญาณเหล่านี้ให้เข้ามาร่วมอยู่อาศัยกับเราภายในบ้าน
10. ทำบุญ 9 วัด สิ่งหนึ่งที่เราเห็นกันได้อยู่บ่อยๆก็คือการทำบุญ 9 วัดภายใน 1 วัน จนหลายคนอาจจะสงสัยว่าเรื่องนี้มีที่มาอย่างไร แล้วทำไมจะต้องเป็น 9 วัด มากกว่าหรือน้อยกว่านี้ได้ไหม ซึ่งเอาเข้าจริงๆแล้วไม่ว่าจะเป็นการทำบุญ 9 วัดหรือวัดเดียว แต่หากว่าเป็นการทำบุญด้วยใจก็ได้บุญเหมือนกัน แต่สิ่งที่ทำให้การทำบุญ 9 วัดเป็นที่นิยม ก็มาจากคำว่า 9 จึงสื่อความหมายไปถึงความก้าวหน้าและความเจริญรุ่งเรือง อีกทั้งในศาสตร์ของตัวเลขเลข 9 นั้น ยังเป็นเลขมงคลจึงเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญ
ปัจจุบันนี้ ใครเชื่อแบบไหนกันบ้างใน 10 ข้อนี้และมีประสบการณ์ตรงไหนกันบ้างครับ โดยส่วนตัวผมแล้ว ผมไม่แน่ใจในอะไรทั้งนั้นเลย ได้แต่ฟังผู้ใหญ่เล่ามาตั้งแต่ตอนเด็กๆ ซึ่งตอนนี้ก็เต็มไปด้วยข้อสงสัย และบางครั้งก็คิดว่ามันไร้สาระอยู่เหมือนกันนะครับ
โฆษณา