12 มี.ค. เวลา 13:00 • ธุรกิจ

เตรียมตกงาน... อาชีพด้านการตลาดกำลังจะถูกแทนที่ด้วย AI

อาชีพและงานในด้านการตลาดนั้น เป็นหนึ่งความใฝ่ฝันของเด็กวัยรุ่นทั้ง Gen Y และ Gen Z ที่ต้องการพื้นที่ปล่อยของ ปล่อยความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองมาตลอด ยิ่งในยุค Social media อย่าง Facebook, Tiktok, Youtube เฟื่องฟูแบบนี้ ความต้องการในตลาดแรงงานยิ่งมีสูงมาอย่างต่อเนื่อง
ทว่าโลกยุคสมัยใหม่ หรือจะกล่าวให้ถูกก็คือ โลกที่ความเป็นมืออาชีพมันไม่ได้วัดกันที่ใบปริญญาอีกต่อไป อาชีพสายการตลาดจึงมีภูมิทัศน์ค่อนข้างเปลี่ยนไป เด็กหลายๆคนสมัยนี้ไม่ได้เรียนจบด้านการตลาดโดยตรง แต่กลับสามารถปั้นช่อง Youtube ปั้นสื่อ social media ให้ดังมียอดการเข้าถึงเป็นหลักล้านได้
ดังนั้นเวลาบริษัทหลายๆแห่งเปิดรับพนักงานสาย Marketing กัน คนที่เรียนจบสายการตลาดจึงต้องดิ้นรนมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้มีความสามารถพิเศษและพอร์ตด้านการตลาดสั่งสมมาตั้งแต่วัยเรียนดังที่อินฟลูเอนเซอร์วัยมัธยมหลายๆคนเขามีกัน ผลสำรวจตลาดแรงงานสาย Marketing โดยมูลนิธิ Strada Education พบว่ากว่า 6 ใน 10 ของบัณฑิตสาขาการตลาดในอเมริกาประสบปัญหาจบออกมาแล้วหางานไม่ได้กว่า 5 ปี และถูกบีบให้ต้องสมัครงานด้วยวุฒิ ม.3-6 ไปโดยอัตโนมัติ
หลายคนต้องเปลี่ยนสายงานไปทำงานบริการ ทำพนักงานต้อนรับในโรงแรมแทนเพราะหางานเอเจนซี่โฆษณาไม่ได้ พอเจอประกาศรับสมัครงานตำแหน่งเริ่มต้นส่วนใหญ่ เช่น Entry/Junior level ก็มักมีข้อกำหนดต้องการประสบการณ์อย่างน้อย 2 ปี ซึ่งมันแทบเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขา เพราะตั้งแต่เรียนจบออกมาก็ยังไม่เคยได้ทำงานตรงตามสายงานเลยแม้แต่น้อย
(บริษัทตั้งกำแพงและข้อกำหนดลักษณะนี้ขึ้นมาโดยคาดหวังว่าเด็กยุคใหม่ เช่น Gen Z น่าจะเคยมีประสบการณ์ปั้น Social media มาตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว จึงควรมีประสบการณ์ในโลก Marketing อย่างน้อย 2 ปีระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัยก็ยังดี ตรงนี้เลยทำให้คนที่ไม่เคยแตะ ไม่คุ้นเคยกับโลก Social media contents แทบจะเสียเปรียบไป 100%)
2
ยิ่งพวกสายงานการสร้างแบรนด์ (brand management) และสายการโฆษณายิ่งแล้วใหญ่ เวลาบริษัทเขาประกาศรับสมัครงานก็มักจะมีข้อกำหนดด้านทักษะเพิ่มเติมเอาไว้ค่อนข้างสูง เช่น ต้องการคนที่มีทักษะการจัดการ Big Data และวิทยาศาสตร์ข้อมูล ฯลฯ ซึ่งมันต่างจากสมัยก่อนเอามากๆ 20-30 ปีก่อนนั้นคนทำงาน Marketing แทบจะไม่ต้องแตะงานด้านกราฟิคดีไซน์เลยด้วยซ้ำ
Bloomberg วิเคราะห์ว่าเป็นเพราะทุกวันนี้โลกเรามี ChatGPT มี Generative AI คอยช่วยงาน ช่วยคิดกราฟิค ช่วยออกไอเดียทำแผนโฆษณาแล้ว งานด้าน Marketing เลยเป็นที่ต้องการน้อยลงในตลาดแรงงาน เทียบกันในกลุ่มใบปริญญาสายบริหารธุรกิจแล้ว Felkamp ประมาณการณ์เอาไว้ว่าจากการประกาศรับสมัครงานของบริษัทเอกชนทั้งหมดในตลาดมีประมาณ 5% เท่านั้นที่ยังเรียกหานักการตลาด ต่างจากอาชีพด้านการเงินและการบัญชีที่มีกว่า 75% ของบริษัทในตลาดประกาศตามหาตัว
พูดให้เห็นภาพคือในคณะด้านการบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยในอเมริกาขณะนี้ มีนักศึกษาหลักสูตรด้านการจัดหารประมาณ 10% เท่านั้นที่ยังหางานทำไม่ได้หลังเรียนจบ ส่วนพวกเรียนจบด้านการตลาดเนี่ย ดูจากกราฟได้เลย เกือบ 60% หางานทำไม่ได้ แล้วก็จะไปลงเอยในงานที่ไม่ตรงสาย หรือใช้วุฒิสมัครงานไม่ได้ทั้งนั้น บางส่วนก็ไปทำงานร้านกาแฟ ทำ Starbucks กัน แล้วก็รอร่อนจดหมายขอฝึกงานตามบริษัทท้องถิ่นไปเรื่อยๆจนอายุ 25-30 (จนกว่าจะหมดหวังนั่นแหละ)
1
Source: Bloomberg, Strada Education Foundation, The Economist, Felkamp และ BBC
เครดิตภาพจาก Bloomberg
โฆษณา