17 มี.ค. เวลา 05:11 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ย่อยให้ฟังครับ_

BITCOIN HALVING CYCLE 4
Bitcoin halving/เรื่องใหญ่สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการขุด Bitcoin และผลกระทบต่อนักลงทุนเหรียญCyptoทั่วโลก
*การขุดบิทคอยน์ (Bitcoin Mining)
คือการแก้สมการทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน( hash puzzle)โดยใช้พลังประมวลผลของคอมพิวเตอร์
โดยคาดเดาได้หลายล้านครั้งต่อวินาทีเพื่อค้นหาคำตอบที่ถูกต้อง
นักขุดที่ถอดสมการได้สำเร็จเป็นคนแรก ผู้นั้นจะได้รับรางวัลเป็นบิทคอยน์
ได้รับสิทธิ์ในการยืนยันธุรกรรมและเพิ่มบล็อกใหม่ลงไปในเครือข่ายบล็อกเชน
*Bitcoin halving(บางครั้งเรียกว่า 'halvening')
เป็นเหตุการณ์ที่รางวัลสำหรับการขุดบล็อกใหม่ลดลงครึ่งหนึ่ง
ซึ่งหมายความว่านักขุดจะได้รับ bitcoin>น้อยลง 50% (แก้สมการทางคณิตศาสตร์)
*Havingนี้จะเกิดขึ้นทุกๆ 210,000 บล็อค /ในทุกๆ4ปี
*ครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2012
และครั้งนี้จะเป็นครั้งที่4นี้ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นประมาณวันที่ 16 เมษายน 2024
*การลดจำนวนลงครึ่งหนึ่งส่งผลให้รางวัลสำหรับการสร้างบล็อคใหม่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
การลดลงครึ่งหนึ่ง(เมษายน2024) จะลดลงเหลือเพืยง> 3.125 Bitcoin/ต่อ1บิทคอยน์
*มกราคม 2552 >เป็นปฐมกาลของบล็อก รางวัลบล็อก = 50 Btc
*พฤษจิกายน 2555 >ลดลงครั้งที่1 เหลือ = 25
*กรกฏาคม 2559 >ลดลงครั้งที่2 เหลือ =12.5
*พฤษภาคม 2563 >ลดลงครั้งที่3 เหลือ = 6.25
*เมษายน 2567 >ลดลงครั้งที่4 เหลือ = 3.125
(ครั้งถัดไป 2571 จะลดลงเหลือ 1.56 Btc)
*คาดว่าจะมีการขุดเหรียญครบทั้งหมด 21 ล้านเหรียญ
ประมาณปีพ.ศ.2683(ค.ศ. 2140)
*เหตุผลที่ต้องมี Halving
ก็เพื่อควบคุมจำนวนบิตคอยน์ทั้งหมดในระบบ ไม่ให้ถูกขุดขึ้นมาอย่างรวดเร็วเกินไป
*ส่งผลต่อแนวโน้มของราคาBTC
- ในแต่ละครั้งหลังจากเกิดเหตุการณ์ Halvingที่ผ่านมา
ชี้ได้ชัดว่าราคา BTCจะปรับพุ่งสูงขึ้นในทุกๆครั้ง
*ผลกระทบต่อBitcoin
การลดจำนวนลงครึ่งหนึ่ง มีผลกระทบอย่างมากต่ออุปทานใหม่ของ bitcoinsที่จะเข้าสู่ตลาด เปรียบเสมือนเป็นการลดอัตราเงินเฟ้อ
ซึ่งทำให้แต่ละ bitcoinใหม่*หายากขึ้น
และเมื่อเวลาผ่านไปอาจมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สิ่งนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคา Bitcoin แข็งค่าขึ้นในช่วงหลายปีหลังจากเหตุการณ์ Halving
*สิ่งจูงใจสำหรับนักขุด
การลดจำนวนลงครึ่งหนึ่งของเหรียญ เป็นแรงจูงใจต่อนักขุดอย่างมาก
เพราะเมื่อรางวัลบล็อคลดลง ก็จะนำไปสู่การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในหมู่นักขุดด้วยกัน
เพื่อรวมธุรกรรมเป็นบล็อก ซึ่งจะส่งผลให้ค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ใช้สูงตามขึ้นด้วย
*การคาดการณ์:
เหตุการณ์Having(การลดลงครึ่งนึง)เป็นนโยบายโปร่งใส
*นักลงทุนสามารถคาดเดาได้
เพราะสิ่งเหล่านี้จะถูกฮาร์ดโค้ดลงในโปรโตคอลและจะเกิดขึ้นตามบล็อกที่ระบุ
ความสามารถในการคาดการณ์นี้แตกต่างกับสกุลเงิน(Fiat Money)โดยทั่วไป ซึ่งนักลงทุนไม่สามารถคาดเดานโยบายการเงินของธนาคารกลางได้เลยว่าจะเปลี่ยนไปในทิศทางใด?
โฆษณา