20 มี.ค. เวลา 02:43 • ปรัชญา

แม้ถูกเหยียบย่ำแต่ “ไส้เดือน” ยังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด

คุณสามารถอดทนต่อคำถากถางได้นานแค่ไหน...?
.
ทั้งที่คุณเต็มไปด้วยความสามารถอันน่ามหัศจรรย์ แต่กลับชอบทำงานเงียบ ๆ ตรงจุดที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ผู้คนมากมายวิจารณ์คุณไปต่าง ๆ นานา หากแต่คุณยังคงทำหน้าที่ของคุณต่อไปอย่างสุดความสามารถ
.
เมื่อเป็นดังนี้ทำให้นึกถึงสิ่งมีชีวิตอย่าง ‘ไส้เดือน’
ไส้เดือนเป็นสัตว์มหัศจรรย์อย่างมาก มันสามารถดำรงชีพอยู่ได้ทั้งที่ไม่มีแขนขา ไม่มีจมูกไว้หายใจ ไม่มีปอด รวมถึงไม่มีสมองกับหัวใจไว้คอยสั่งการชีวิต มันมีเพียงผิวหนังอันเปราะบาง ซึ่งหากโดนแดดเพียงน้อยนิดก็ทำให้ขาดใจตายได้แบบง่าย ๆ มันจึงต้องอาศัยอยู่ใต้พื้นดินอันดำมืดเพื่อรักษาชีวิตรอดเท่านั้น
.
ฟังดูช่างน่าประหลาดใจว่า สิ่งมีชีวิตอย่างไส้เดือนดำรงชีพอยู่ในโลกอันแสนโหดร้ายป่าเถื่อนนี้ได้อย่างไร ?
ชาร์ลส์ ดาร์วิน (Charles Darwin) นักธรรมชาติวิทยาผู้โด่งดัง ได้กล่าวถึงไส้เดือนไว้ใน The Formation of Vegeta Mould, Through the Action of Worms ซึ่งเป็นหนังสือด้านชีววิทยาเล่มสุดท้ายในชีวิตของเขาว่า
.
“ไส้เดือนดินคือหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่สำคัญที่สุดของโลกใบนี้ เพราะเขาคือนักจัดการดินที่ไม่อาจหาสิ่งใดมาเทียบได้อีก”
พูดไปแล้วแทบไม่น่าเชื่อว่าดาร์วินจะใช้เวลามากกว่า 32 ปีหมกมุ่นกับงานศึกษาพฤติกรรมของไส้เดือนดิน มันเป็นข้อมูลที่ผู้คนคาดไม่ถึง และแทบจะไม่มีใครใส่ใจเสียด้วยซ้ำ จึงเป็นข้อสังเกตว่าเหตุใดดาร์วินจึงมีความสนใจไส้เดือนขนาดนั้น มันเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตผู้ต่ำต้อยใต้ชั้นดิน ฟังดูแล้วไม่อาจยกตัวขึ้นมาเทียบเคียงกับสิ่งมีชีวิตบนพื้นพิภพชนิดอื่นได้เลย
แต่สิ่งที่ดาร์วินพบก็คือ โลกนี้ไม่อาจขาดไส้เดือนได้ เพราะความน่าอัศจรรย์ของไส้เดือนคือเมื่อเวลาผ่านไปเพียง 1 ปี ไส้เดือนสามารถผลิต เคลื่อนย้าย หรือพรวนดินได้มากถึง 8 ตันในทุก 1 เอเคอร์ของที่ดิน ฟังดูอาจเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยธรรมดา แต่เมื่อเราเข้าใจว่าไส้เดือนสามารถกลืนกินอาคารโบราณ และซากของเก่าที่มีขนาดใหญ่ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ความคิดเกี่ยวกับไส้เดือนของเราจะเปลี่ยนไปทันที
ความประทับใจยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะไส้เดือนรู้ได้อย่างไรว่ามันจะต้องทำรูเพื่ออยู่อาศัย และกินวัตถุเป็นอาหาร ทั้งที่มันไม่มีสมองคอยวางแผนให้ชีวิตด้วยซ้ำ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าในทุกพฤติกรรมอันพิถีพิถันของไส้เดือนจะถูกชักจูงโดยสัญชาตญาณเป็นหลัก สิ่งนี้พิสูจน์ได้อย่างดีว่า ไส้เดือนทำอย่างใดอย่างหนึ่งให้สำเร็จได้นั้น ล้วนขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอ โดยไม่ขึ้นกับสติปัญญาเลยด้วยซ้ำ
ไส้เดือนมักถูกเหยียบย่ำเพราะเนื้อตัวเปื้อนเปรอะน่ารังเกียจ ลึกลงไปใต้ชั้นดินอันถูกทับถมจากสิ่งสกปรกโสโครก ผู้คนต่างขยาดที่จะเข้าใกล้มัน มันจึงต้องอดทนกับคำดูถูกสารพัด และต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความเกลียดชังที่ถาโถมเข้าใส่จากทุกสารทิศ---ไม่มีเลยสักคนที่เข้าใจหรือเห็นใจมัน ทุกคนพร้อมตัดสินว่ามันคือสิ่งชั่วร้ายเพียงเพราะมันมีหน้าตาอัปลักษณ์ หากแต่ว่าสิ่งมีชีวิตที่แสนน่าเกลียดชนิดนี้ กลับมีความสำคัญต่อโลกอย่างยิ่ง
สิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ อย่างไส้เดือนอาจไม่ได้รับความสนใจมากนัก แต่พวกมันยังคงทำหน้าที่ตามสัญชาตญาณของตัวเองต่อไปโดยไม่มีใครเห็น แต่คุณค่าที่ได้รับกลับสั่นสะเทือนไปทั้งโลก จึงมีคำกล่าวว่า
.
“ไส้เดือนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด แม้ว่าจะต้องอยู่ท่ามกลางคนที่เกลียดชังก็ตาม”
ในยุคที่ความเป็นเลิศของมนุษย์เป็นบรรทัดฐานของสังคม เราต่างจากไส้เดือนตรงที่ เรามีหัวใจ มีเลือดเนื้อ มีความซับซ้อนทางร่างกายที่ยุ่งยาก เราจึงแบกความรู้สึกทั้งดีและไม่ดีมากมายอยู่ในหัว โดยเฉพาะความคิดที่กลัวความผิดพลาด ลังเลสับสน หรือแม้แต่กลัวการถูกดูถูกเหยียดหยามจนไม่เป็นตัวของตัวเองอีกต่อไป
เราไม่ใช่ไส้เดือนผู้ไม่มีแขนขา ไม่มีจมูกไว้หายใจ ไม่มีปอด รวมถึงไม่มีสมองกับหัวใจไว้คอยสั่งการชีวิต แต่ถึงกระนั้น เราสามารถเลียนแบบพฤติกรรมบางอย่างของไส้เดือนได้ นั่นคือการ “ปิดหู ปิดตา ปิดปาก แล้วทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป”
เนื่องจากหากเรารู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ และมันส่งผลดีต่อตัวเองและคนรอบข้างอย่างไรบ้าง เราก็ไม่จำเป็นต้องสนใจคำพูดหรือพฤติกรรมของคนบางคนที่อาจบั่นทอนจิตใจของเรา
.
ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แล้วผลลัพธ์จะเป็นผู้ตอบคำถามให้เราเอง
แม้ว่าในช่วงแรกมันอาจจะหนักหน่วงสักหน่อย แต่ย่อมดีกว่าการที่เรายอมล้มเลิก เพียงเพราะใครบางคนพูดกับเราว่า “จงล้มเลิกเสียเถอะ เธอไม่เก่งพอที่จะทำสิ่งนั้นได้หรอก!!!”
Author: ณัฐพงศ์ อินต๊ะริด
โฆษณา