22 มี.ค. เวลา 03:01 • ธุรกิจ

ตอนนี้ Cathie Wood กำลังลงทุนใน แท็กซี่บินได้ รายได้ 0 บาท

ปี 2021 รายได้ 0 บาท ขาดทุน 12,500 ล้านบาท
ปี 2022 รายได้ 0 บาท ขาดทุน 11,400 ล้านบาท
ปี 2023 รายได้ 0 บาท ขาดทุน 16,400 ล้านบาท
นี่คือรายได้ และกำไร ของบริษัทที่มีชื่อว่า Archer Aviation เป็นบริษัทที่ออกแบบและผลิต “แท็กซี่บินได้”
ที่ตอนนี้ คุณเคธี วูด CEO ของ Ark Investment กองทุนที่เน้นลงทุนในนวัตกรรมที่เป็นคลื่นลูกใหม่ กำลังลงทุนอยู่ และถือหุ้นคิดเป็นมูลค่าราว 9,300 ล้านบาท
2
แล้วแท็กซี่บินได้ คืออะไร
ทำไมคุณเคธี วูด ถึงสนใจลงทุนในธุรกิจนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
แท็กซี่บินได้ ถ้าอธิบายง่าย ๆ มันก็คือเฮลิคอปเตอร์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนแทนเครื่องยนต์เจ็ต ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนทางพลังงานได้มากกว่า 30% รวมถึงลดมลพิษทางเสียง และสิ่งแวดล้อม
2
แต่ในด้านของการใช้งาน ก็คงไม่ได้มาแทนที่แท็กซี่แบบรถยนต์ทั่วไปเสียทีเดียว เพราะยังมีต้นทุนสูง รวมถึงเรื่องของความปลอดภัยและจุดจอดขึ้นลงเฉพาะทาง ซึ่งอาจไม่ได้ต่างจากเฮลิคอปเตอร์ปกติมากนัก
ทั้งนี้จุดเด่นหลักของแท็กซี่บินได้ ก็คือการออกแบบใบพัด ทำให้มีเสียงรบกวนที่น้อยกว่า จึงเหมาะกับการใช้เดินทางทั่วไปมากกว่า โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองใหญ่
แท็กซี่บินได้ของบริษัท Archer Aviation นั้น จะมีเสียงรบกวนที่น้อยกว่าเฮลิคอปเตอร์ทั่วไปถึง 100 เท่า
โดยจากคำสั่งซื้อในปี 2021 แท็กซี่บินได้ มีราคาขายประมาณ 180 ล้านบาทต่อลำ รองรับผู้โดยสาร 4 ที่นั่ง
และคาดว่าจะสามารถนำมาให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ ด้วยค่าบริการเริ่มต้นประมาณ 3,600 บาทต่อที่นั่ง โดยสามารถเดินทางได้ไกลสุด 160 กิโลเมตร
ด้วยค่าบริการที่สูง ทำให้กลุ่มลูกค้าของแท็กซี่บินได้ ก็คือคนรวยหรือนักธุรกิจ ที่ไม่ต้องการเสียเวลานั่งรถเดินทางภายในเมือง
เมื่อเทียบกับการเดินทางโดยรถยนต์ทั่วไปในเมืองใหญ่แล้ว การเดินทางที่ต้องใช้เวลา 1 ถึง 2 ชั่วโมง หากเปลี่ยนเป็นแท็กซี่บินได้ จะเหลือเพียง 10 ถึง 15 นาที เท่านั้น
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมแท็กซี่บินได้ มีมูลค่าตลาดสูงถึง 390,000 ล้านบาท
ซึ่งนอกจากคุณเคธี วูด ธุรกิจแท็กซี่บินได้ ก็ยังมีหลากหลายบริษัทระดับโลกให้ความสนใจเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
- Uber แพลตฟอร์มเรียกรถ และส่งอาหารใหญ่สุดในโลก ที่เคยเปิดตัว Uber Air ก่อนจะขายกิจการนี้ให้กับ Joby Aviation บริษัทผลิตแท็กซี่บินได้ และเข้าลงทุนในบริษัทอีกที
โดย Joby Aviation คือบริษัทผลิตแท็กซี่บินได้อีกเจ้า ที่เพิ่งมีรายได้เข้ามาในปี 2023 และผลประกอบการก็ยังขาดทุนหนัก เช่นเดียวกัน
ปี 2021 รายได้ 0 บาท ขาดทุน 6,500 ล้านบาท
ปี 2022 รายได้ 0 บาท ขาดทุน 9,300 ล้านบาท
ปี 2023 รายได้ 37 ล้านบาท ขาดทุน 18,000 ล้านบาท
- Toyota บริษัทรถยนต์ที่ใหญ่สุดในญี่ปุ่น ที่เข้าลงทุนใน Joby Aviation เหมือนกับ Uber
- Boeing ที่ก่อตั้ง Wisk บริษัทพัฒนาแท็กซี่บินได้เช่นกัน และยังเข้าไปลงทุนกับ Archer Aviation อีกด้วย
นอกจากนั้นก็มีกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่ทำสัญญาสั่งซื้อกับ Archer Aviation ไปแล้วเป็นมูลค่า 5,100 ล้านบาท
ไปจนถึง United Airlines สายการบินที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ที่ทำการสั่งซื้อเป็นมูลค่า 35,900 ล้านบาท
ซึ่งตอนนี้ Archer Aviation มีมูลค่าบริษัทสูงถึง 56,000 ล้านบาท ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีรายได้เลยสักบาทเดียว..
ที่เป็นแบบนั้น ก็เพราะตอนนี้ Archer Aviation แม้มีออร์เดอร์เข้ามารออยู่บ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการส่งมอบเครื่องบินจริง ๆ เพราะที่ผ่านมา ก็กำลังอยู่ในช่วงการวิจัยและพัฒนา
รวมถึงการก่อสร้างโรงงาน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 2024 และจะมีการผลิตออกมาในช่วงครึ่งหลังของปี
1
ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า เมื่อเริ่มผลิต ส่งมอบ และถูกนำไปใช้งานจริงเชิงพาณิชย์แล้ว กระแสตอบรับจะออกมาดี จนยอดสั่งซื้อจะเข้ามามากพอที่จะทำให้บริษัทมีกำไรได้หรือไม่
เพราะไม่อย่างนั้น บริษัทนี้ก็จะยังขาดทุนต่อไปอีกเรื่อย ๆ
และคนที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ ก็คงหนีไม่พ้นผู้ถือหุ้นของบริษัท อย่างคุณเคธี วูด แห่ง Ark Investment รวมถึงนักลงทุน ที่ลงทุนใน Ark อีกที..
โฆษณา