2 เม.ย. เวลา 12:52 • สุขภาพ

สภาวะ กรดยูริดสูง อันตรายแค่ไหน ?

กรดยูริกเป็นของเสียที่เกิดขึ้นจากการย่อยสลายสารประกอบประเภทพิวรีน (Purines) ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากหลายปัจจัย ดังนี้
พันธุกรรม บางคนอาจมีกรรมพันธุ์ที่ทำให้ร่างกายผลิตหรือขับถ่ายกรดยูริกได้ไม่ดีเท่าที่ควร จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะกรดยูริกในเลือดสูง
โรคประจำตัว เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคไตวาย และโรคมะเร็งบางชนิด ล้วนเป็นตัวเร่งให้เกิดภาวะกรดยูริกสูงได้
พฤติกรรมการบริโภคอาหาร การรับประทานอาหารที่มีพิวรีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ปลาทะเล สาหร่ายทะเล ถั่วลิสง ผลไม้บางชนิด ส่งผลให้มีกรดยูริกสะสมในเลือดเพิ่มขึ้น
การดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์เป็นตัวกดการทำงานของตับและไต ทำให้ร่างกายขับถ่ายกรดยูริกได้ลดลง
การใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาโรคมะเร็ง ยาลดไขมันในเลือด ยาขยายหลอดเลือด สามารถกดการทำงานของไตลงได้
ภาวะร่างกายสมบูรณ์เกิน จากการออกกำลังกายหนักเกินไปบ่อยครั้ง จะส่งผลให้เกิดการสลายกล้ามเนื้อมากขึ้น จึงผลิตกรดยูริกมากตามไปด้วย
>>>> หากมีปัจจัยดังกล่าวอยู่หลายข้อ ต้องระวังภาวะกรดยูริกในเลือดสูงอย่างยิ่ง ควรหลีกเลี่ยงสาเหตุและดูแลรักษาเป็นพิเศษ
กรดยูริกในเลือดสูง ถือเป็นภาวะที่อันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก หากไม่ได้รับการรักษาหรือควบคุมอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่ผลเสียและภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้ดังนี้
การสะสมของกรดยูริก
โรคเก๊าต์ จากการสะสมของผลึกกรดยูริกในข้อต่างๆ ทำให้เกิดอาการปวดบวม แสบร้อน บางรายอาจพิการถาวรได้ หากไม่รักษาโรคเก๊าต์อย่างถูกวิธี
นิ่วในไต หากกรดยูริกสะสมจนก่อตัวเป็นนิ่ว จะทำให้ไตทำงานหนักจนอาจเกิดการอักเสบและบกพร่องได้ นิ่วขนาดใหญ่อาจอุดตันท่อไต ทำให้เจ็บปวดสาหัส
โรคไตวาย ผลกระทบระยะยาวจากการสะสมกรดยูริกในไต อาจลามถึงขั้นไตทำงานล้มเหลว จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการฟอกไตหรือผ่าตัดปลูกถ่ายไต
นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ การสะสมของผลึกกรดยูริกในกระเพาะปัสสาวะ อาจทำให้เกิดอาการปวดแสบปวดร้อนขณะปัสสาวะ และอาจทำให้ขับถ่ายปัสสาวะไม่สะดวก
ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้ที่มีระดับกรดยูริกในเลือดสูงอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดและโรคหลอดเลือดสมองมากขึ้น
>>>>> ที่เรียกว่า กรดยูริกสูงเท่าไหร่ ?<<<<<<<<
ค่ากรดยูริกในเลือดที่ถือว่าสูงเกินไปนั้นขึ้นอยู่กับเพศและช่วงอายุ โดยทั่วไปแล้ว ระดับกรดยูริกที่สูงกว่าค่ามาตรฐานดังนี้ถือว่าเป็นระดับที่สูงเกินไปและควรได้รับการรักษา
สำหรับผู้ชาย : อายุน้อยกว่า 60 ปี ค่ากรดยูริกสูงกว่า 7.0 มก./ดล.
อายุ 60 ปีขึ้นไป ค่ากรดยูริกสูงกว่า 8.0 มก./ดล.
สำหรับผู้หญิง : ก่อนหมดประจำเดือน ค่ากรดยูริกสูงกว่า 6.0 มก./ดล.
หลังหมดประจำเดือน ค่ากรดยูริกสูงกว่า 7.0 มก./ดล.
>>>>> โดยทั่วไป ภาวะกรดยูริกในเลือดสูงจะแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ <<<<<
  • 1.
    ระดับไม่รุนแรง มีค่า 7.0-8.9 มก./ดล.
  • 2.
    ระดับปานกลาง มีค่า 9.0-10.9 มก./ดล.
  • 3.
    ระดับรุนแรง มีค่ามากกว่า 11.0 มก./ดล.
ยิ่งระดับกรดยูริกสูง ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ เช่น นิ่วในไต นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ โรคไตวาย เก๊าต์ ก็จะสูงตามไปด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมรับประทานยาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เพื่อลดระดับกรดยูริกให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ผู้ที่มีระดับกรดยูริกในเลือดสูง จึงควรได้รับการรักษาและควบคุมอย่างใกล้ชิด ทั้งโดยการรับประทานยาลดกรดยูริกจากแพทย์หรือร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ดื่มน้ำสมุนไพรลดกรดยูริก และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงต่อร่างกายขึ้น
โฆษณา