9 เม.ย. เวลา 15:03 • ความคิดเห็น

“รู้ทั้งรู้ว่าผิดแต่ก็ยังทำ เพราะไม่มีคนเห็น!?”

เคยได้ยินไหมครับ คนเล่ากันขำๆ
หนุ่มจอดรถในที่ห้ามจอด พักนึงตำรวจเดินมา
ตำรวจ: “คุณไม่เห็นเหรอ ป้ายห้ามจอดทนโท่”
หนุ่ม: “ผมเห็นป้ายครับ แต่ผมไม่เห็นจ่า”
555 ขำดีนะครับ แสดงว่ารู้แหละว่าห้ามจอด
แต่ก็น่าคิด แล้วตัวเราล่ะ ใช้ชีวิตแบบนี้บ้างไหม?
รู้ทนโท่ว่าผิด แต่ก็ยังทำ เพียงเพราะไม่มีคนเห็น
หรือมีคนเห็นก็ไม่แคร์ ถ้าไม่มีบทลงโทษ
แท้จริงแล้ว ถึงไม่มีคนเห็น สิ่งที่ผิดก็ยังคงผิด
ถึงไม่มีใครรู้ แต่ก็มีคนเดือดร้อนจากสิ่งที่เราทำ
คิดว่าฉันรู้คนเดียว ทั้งที่จริงๆสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็รู้
ถึงไม่โดนลงโทษตอนนี้ ก็โดนในชาติหน้า/ชีวิตหน้าอยู่ดี
ทำให้นึกถึงคำนึงในศาสนาอิสลาม คำว่า “ตักวา”
โดยทั่วไปจะแปลว่า ‘ความยำเกรงพระเจ้า(อัลลอฮฺ)’
แต่ลึกซึ้งกว่านั้น หมายถึงการที่เรารู้ตัวตลอดว่าพระเจ้าดูอยู่
ตื่นตัวทุกลมหายใจ ระแวดระวัง กลัวบาป กลัวถูกลงโทษ
ในทางพุทธก็นึกถึง 2 คำพร้อมกัน คือสติ กับ หิริโอตัปปะ
สติ คือการรู้ตัวตลอดเวลา ไม่หลุด ไม่เหม่อ
หิริโอตัปปะ คือความเกรงกลัวต่อบาป
รวมกันก็คือการรู้ตัวเกรงกลัวบาปตลอดเวลานั่นเอง
*รวมคำเป็น สติโอตัปปะ คงจะจำง่ายดี :)
ลองคิดภาพนะครับ หากใครคิดได้เช่นนี้
เห็นป้ายห้ามจอด แต่ไม่เห็นจ่า ยังไงก็ไม่จอด
ติดไฟแดงตอนตีสอง ไม่มีรถสักคัน ก็ไม่ฝ่า
ต่อให้แฟนไม่มีทางรู้ เขาก็ไม่มีกิ๊ก ไม่โกหก
ศาสนาไหนก็ได้ครับ คิดถึงคำสอนขึ้นมา
มีบาปบุญ มีวันสุดท้าย มีบทลงโทษเหมือนกัน
สอดคล้องที่เคยคุยไปหัวข้อ “สังคมจะดีขึ้น หยุดคิดว่าชอบเขาไหม ให้คิดว่าที่เขาทำมันดีไหมก็พอ!” --> https://www.blockdit.com/posts/642c2ec1aab96cc0e3284e7f
หยุดหันซ้ายหันขวา! ถึงไม่มีใครเห็นก็อย่าทำผิดครับ
โฆษณา