16 เม.ย. เวลา 08:11 • ประวัติศาสตร์

*เมอร์รี่คิงส์ มีทุกสิ่งให้เลือกสรร

ช่วงที่ผู้เขียนทำงานเป็นช่างศิลป์แอร์โรว์ ระหว่างปี 2527-2529 ต่อด้วยช่างศิลป์ไนกี้ ในปี 2530-2535 และหลังปี 2535 ในนามช่างศิลป์อื่น ได้มีโอกาสเข้าทำงานทั้งลงเคาน์เตอร์ใหม่ และจัดดิสเพลย์ ในห้างเมอร์รี่คิงส์ ทุกสาขา คือ
เมอร์รี่คิงส์ สาขาแรก วังบูรพา เปิดปี**2521
สาขาที่ 2 สาขาสะพานควาย ปี 2528
สาขาที่ 3 สาขาวงเวียนใหญ่ ปี 2529
สาขาที่ 4 สาขาปิ่นเกล้า ปี 2531
สาขาที่ 5 สาขารังสิต ปี 2536
สาขาที่ 6 สาขาบางใหญ่ ปี 2542 เป็นส่วนหนึ่งของศูนย์การค้าบิ๊กคิงส์บางใหญ่
โลโก้หรือสัญญลักษณ์ของห้างฯก็ได้มาจากการจัดประกวด น่าจะช่วงปี 2528 หลังเปิดสาขาที่ 2 สะพานควาย ผู้เขียนก็ส่งเข้าร่วมประกวดด้วย ตราสัญญลักษณ์ที่ได้รับการคัดเลือก มาจากการนำอักษรภาษาอังกฤษ MK จากชื่อห้าง Merry Kings มารังสรรค์อย่างเรียบง่ายและลงตัว ไม่ทราบนามผู้ชนะการประกวด
ตราสัญญลักษณ์ที่ได้จากการจัดประกวด ในราวปี 2528 ผู้เขียนก็ส่งเข้าร่วมประกวดด้วย
ภาพประกอบเป็นนามบัตรของเจ้าหน้าที่ ที่ผู้เขียนได้ไปติดต่องานในยุคที่ทำงานเป็นช่างศิลป์ มองเห็นตั้งแต่ยุคแรกของการเติบโตแตกสาขาขยายกิจการ และในยุคที่ปิดฉากเปลี่ยนแปลงกลายเป็นตำนานบทหนึ่ง
*สโลแกนของห้างที่คล้องจอง และสั้นกระชับ ทำให้ติดหูและจดจำง่ายสำหรับคนในยุคนั้น มักมีการมาแปลงต่อเติมข้อความเชิงออกตัวว่า ไม่ได้เลิศเลอเพอร์เฟคเหมือนห้างเมอรรี่คิงส์ ที่จะได้เสกสรทุกอย่างมาได้ดังใจ
**ช่วงที่ผู้เขียนงานที่ทำคาเธ่ย์ เยาวราช ปลายปี 2525 คลับคล้ายคลับคลาว่ามีเมอร์รี่คิงส์ วังฯแล้ว แต่ในการสืบค้นในหลายๆเว็บจะระบุตรงกันว่าปี 2527 ที่ถูกควรเป็นปี 2521
บนหนทางอันยาวไกล นับพันนับหมื่นกิโล
ผ่านรอยต่อแห่งกาลเวลาและยุคสมัยที่แปรเปลี่ยน
เส้นทางช่างศิลป์/ช่างศิลป์ยุคทำมือ/ช่างศิลป์ในตำนาน
โฆษณา