19 เม.ย. เวลา 06:32 • ความคิดเห็น
เราไม่ได้ดูหนังเรื่องหลานม่านะ แต่จากประสบการณ์การทำประกัน 21ปี เพื่อเงินเกษียณ 2แสน ระหว่างทางมันสาหัสมาก ชีวิตมันมีขึ้นมีลง ประกันไม่เคยถามปีนี้พอจ่ายไหม รู้แค่ถึงเวลาต้องจ่าย
และประกันยังหากินกับผู้ส่งด้วย ไม่เข้าใจว่า ทำไมเราต้องเสียดอกเบี้ยให้กับการยืมเงินตัวเองออกมาใช้ เราควรได้ดอกเบี้ยจากการฝาก มากกว่ามาเสียดอกเบี้ยกู้เงินตนเองออกมาใช้
วันที่ทำประกัน เงิน 2 แสน ทองบาทละ 7,000 วันที่ถอนประกัน ทองบาทละ 4 หมื่น แทนที่จะเก็บเป็นเงิน เอาไปซื้อทองเก็บยังดีกว่า เงินออมมันแพ้เงินเฟ้อ
เมื่อก่อนไปหาหมอ เราก็เข้าเอกชนนะ แต่พอรู้ว่าตนเองเป็นเนื้องอก ความกลัวมะเร็ง ที่เป็นโรคที่ต้องรักษาต่อเนื่องยาวนาน จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลรัฐ ไปโรงพยาบาลตั้งแต่ 6 โมงเช้าก็ยอม เพราะไม่อยากเอาเงินที่หามาทั้งชีวิตไปให้หมอใช้
1
ยิ่งแก่โรคยิ่งเยอะ วันหนึ่งนัดหมอมะเร็งเต้านม อีกวันต้องไปเช็คสุขภาพมดลูก ปวดเข่าบ่อยๆ ชักอยากจะเจอหมอกระดูกซะแล้ว ยิ่งแก่ยิ่งเข้า รพ.ถี่ จะเอาเงินเป็นแสนเป็นล้าน ไปทิ้งที่ รพ.เอกชนทำไม หามาทั้งชีวิตเพื่อหมองั้นหรือ ไปเข้าคิว รพ.รัฐดีกว่า จ่ายเองก็ยังถูกกว่าเอกชน
1
เรารู้จักอาม่าวัย70กว่าคนหนึ่ง เดินก้มหน้าหลังโก่งมาก เสื้อผ้าเก่าๆโทรมๆ เดินเก็บของเก่า เก็บขยะไปขายทุกวัน ฝนตก แดดออก มืดค่ำ ก็เดินทุกวัน เราเคยถามอาม่า ทำไมไม่พักผ่อนอยู่บ้าน
อาม่าบอกอยู่บ้านเฉยๆเดี๋ยวเดินไม่ได้ ออกมาทำงานดีกว่า เราถามทำไมลูกไม่เลี้ยง อาม่าบอกว่า เธอมีแมว 5-6ตัว ลูกไม่ช่วยเลี้ยง ลูกเลี้ยงเธอ แต่ไม่เลี้ยงแมว เธอเลยต้องหาเงินเลี้ยงแมว
อาม่าเคยเล่าให้ฟังว่า หลานเรียนโรงเรียนนานาชาติ ใช้เงินเยอะ อาม่าเลยไม่อยากรบกวนลูก ไม่อยากใช้เงินลูก เดี๋ยวหลานไม่พอใช้ ลูกก็บ่นให้ฟังบ่อยๆ ว่าค่าเทอมแพงมาก
เท่าที่ฟัง ลูกอาม่าก็มีฐานะดีนะ แต่อาม่าเกรงใจไม่กล้าใช้เงินลูก ไม่ยอมไปอยู่กับลูก อยู่บ้านเก่ากับแมวดีกว่า ไม่ว่าอาม่าจะลำบากยังไง ไม่เคยบ่นให้ลูกฟังเลย
คนแก่ที่โดดเดียว ดูน่าสงสารที่เห็น เป็นวิถีที่เลือกเองทั้งนั้น และมีเหตุผลของที่มาเสมอ
1
โฆษณา