19 เม.ย. เวลา 12:52 • ประวัติศาสตร์
บ้านต้อง

บ้านต้อง..ลง!!

เสียงตะโกนจากกระเป๋ารถ บขส เมื่อรถถึงสามแยกบ้านต้อง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม แยกซ้ายไปนครพนม แยกขวาไปมุกดาหาร
ผู้เขียนยังนั่งยิ้มแย้มชมวิวไม่รู้ร้อนรู้หนาว จนกระเป๋ามาสะกิด น้องๆไปมุก(ดาหาร)ใช่มั้ย ลงที่นี่..
อ้าว..ผู้เขียนทำหน้างองู 4 ตัว(งง งง) เด็กรถชี้จุดที่ต้องเดินไปต่อรถ แหมตอนก่อนขึ้นก็ถามแล้วนะว่า ผ่านมุกดาหาร มั้ย พี่แกพยักหน้าหงึก ฮ่าๆๆไม่ว่ากัน มานั่งคิดตอนนั้นอาจไม่มีรถตรงไปมุกดาหาร แต่มีผู้รู้บอกว่ามีแล้ว หรือเราอาจไปถามกับรถ อุดร-นครพนม ซึ่งมันก็เฉียดและใกล้เคียงมุกดาหาร เลยบอกว่าผ่าน เพียงแต่ไม่ได้บอกว่าต้องต่อรถอีกทอดนึง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร แถมได้ประสบการณ์สนุกๆอีกต่างหาก
ทริปนี้อยู่ในช่วงระหว่างปี 2530-2535 ในนามช่างศิลป์ไนกี้ ผู้เขียนเดินทางมาจากอุดร ออกจากที่พักใจกลางเมืองแต่เช้าตรู่ อากาศในหน้าหนาวทางภาคอีสานช่างหนาวจับขั้วหัวใจ ขณะเดินโต้ลมหนาวอย่างเดียวดายกับสัมภาระที่จำเป็นต่อการเดินทางและทำงาน ช่างอึดและถึกมากสำหรับช่างศิลป์ผมยาวสุดเซอร์ กำไล ตุ้มหู พร้อมสรรพ กางเกงยีนส์มือสองทรงเดฟ มีรอยขาดพออาร์ตๆ เชิ้ตแขนยาวพับแขน มีเสื้อยืดคอกลมอยู่ภายในพอกันหนาว แต่ยังไม่พอที่จะให้ไออุ่นกับหนุ่มในวัยเบญจเพศหุ่นผอมแห้งในวันนั้น
ทำให้ต้องแวะตลาดเช้าหน้า บขส เนื่องด้วยระยะทางที่ไกลพอสมควร
ตารางเวลารถระหว่างจังหวัด ที่ผู้เขียนพกติดตัวทุกครั้งที่ออกเดินสาย แต่ต้องเช็คเวลาหน้างานก่อนทุกครั้ง กันตกรถ ออกจากอุดรเที่ยว 08.00 น.ผ่าน อ.พังโคน อ.สว่างแดนดิน อ.เมือง สกลนคร อ.นาแก อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ต่อรถไปมุกดาหารที่แยกบ้านต้อง
เกือบ 300 กม. ซึ่งคงใช้เวลาหลายชั่วโมงทีเดียวกับรถ บขส สีส้มหวานเย็น ที่จอดรับส่งไปตามรายทาง จึงเติมพลังด้วยไข่กะทะสไตล์เวียตนาม ที่ขึ้นชื่อของอุดร กับโอวัลตินร้อน 1 แก้ว ตอนนั้นก็ดันกินกาแฟไม่เป็น สั่งโอวัลตินเป็นเด็กน้อยจอมอนามัย ช่างตรงข้ามกับรูปลักษณ์ภายนอกโดยสิ้นเชิง เจ้าของร้านคงคิด นึกว่าจะสั่งเบียร์ ฮ่าๆๆ
กลับมาที่แยกบ้านต้อง
แยกบ้านต้องในปัจจุบัน ที่มาภาพ Google Map ยุคที่ผู้เขียนมายืนเก้ๆกังๆเดินข้ามแยกมารอรถไปมุก เมื่อกว่า 40 ปีก่อน เป็นถนน 2 เลนสวนกัน มีป้ายบอกทางเล็กๆ ชี้ซ้ายไปนครพนม ขวาไปมุกดาหาร
พอกระเป๋าชี้จุดที่ต้องข้ามไปต่อรถสู่จุดหมาย ถึงผู้เขียนจะนึกเคืองอยู่บ้างที่บอกไม่หมด เอ..หรือเราถามไม่เคลียร์เอง ฮ่าๆ ก็ไม่ได้ต่อปากต่อคำอะไร นอกจากรีบกระวีกระวาดหิ้วสัมภาระทั้งกระเป๋าเสื้อผ้าส่วนตัว กับอุปกรณ์ดิสเพลย์บางส่วน ที่ใช้ตระเวนเดินสายจัดร้านทั่วภาคอีสานตอนบน ลงจากรถทันที
ลงมาเก้ๆกังๆสักพักก็เดินตามที่เด็กรถบอก มีชาวบ้านไม่กี่คนที่ลงป้ายเดียวกัน และคงมีจุดหมายปลายทางเดียวกัน หนุ่มผมยาวพเนจรแต่งตัวสุดเซอร์ ที่ตอนนี้อยู่ห่างจากบ้าน 642 กิโล แถมเดินแบกข้าวของข้ามถนนตัดแยกชื่อที่ไม่คุ้นหู เพิ่งเคยได้ยินได้มาเป็นครั้งแรกในชีวิต ไปรอรถทางแยกขวามือ ที่มีป้ายระบุว่า ไปมุกดาหาร 46 กม.
เดินข้ามฝั่งมาจากแยกบ้านต้อง ป้ายบอกทาง มุกดาหาร 46 กม. ที่มาภาพ Google Map
มี*รถสกายแล็บ
รถสกายแล็ป (sky lap) หรือรถสามล้อเครื่อง เป็นที่นิยมมากในภาคอีสาน ขอบคุณภาพถ่ายจากอินเตอร์เน็ต
จอดรอผู้โดยสารอยู่ก่อนแล้ว
ผู้เขียนรีบขึ้นทันทีเนื่องจากสายมากแล้วใกล้เที่ยง ต้องรีบเข้าไปหม่ำมื้อเที่ยงที่ตัวเมืองมุกดาหาร ซึ่งเคยมาก่อนหน้าแล้ว ในสมัยช่างศิลป์แอร์โรว์ ประมาณปี 2527-2529 แต่นั่นคือการเดินทางตรงจากกรุงเทพจังหวัดเดียว มาลงเคาน์เตอร์ใหม่ของแอร์โรว์ เพราะตอนนั้น**มุกดาหาร เพิ่งแยกตัวออกมาจากนครพนม เศรษฐกิจกำลังบูม ผู้เขียนจำชื่อร้านที่มาจัดและโรงแรมที่พักไม่ได้
แถมมีเรื่องตื่นเต้นตอนขากลับ สมัยนั้นมีการปล้นรถทัวร์กันบ่อยมาก ถึงขนาดมีที่กั้นเป็นไม้หรือยางรถยนตร์วางสลับฟันปลาเพื่อชะลอความเร็วของรถทุกคัน รถทัวร์จะหยุดที่ด่านตรวจ หลังจากออกวิ่งพ้นตัวเมืองไปเล็กน้อย เพื่อให้ตำรวจขึ้นมาถ่ายวิดีโอผู้โดยสารเก็บไว้เป็นหลักฐานเผื่อเวลามีการปล้นรถทัวร์
ผู้เขียนผมยาวและแต่งตัวฮิปปี้ แถมใส่แว่นสายตาทรงกลมอีก จึงเป็นจุดสนใจของเจ้าหน้าที่ มาขอดูบัตรประชาชน ซึ่งผู้เขียนไม่ได้พกมา สมัยนั้นก็แปลกไม่ค่อยจะพกติดตัว เจ้าหน้าที่พูดแบบยิ้มๆว่า ทีหลังให้พกนะเพราะหน้าเหมือนญวน แกวนะรู้จักไหม ผู้เขียนได้แต่หัวเราะแหะๆเฮ้อออ..เกือบไป เป็นเรื่องที่ค่อนข้างตื่นเต้นทีเดียว
ทริปนี้ร้านค้าที่ขายไนกี้ที่ผู้เขียนไปจัด เจ้าของมีเชื้อญวน ทำให้ดูแปลกตาไปจากคนท้องถิ่น ทั้งขาวและสวยน่ารัก เสียดายจำชื่อร้านที่มาจัดไม่ได้แล้ว ในจังหวัดทางภาคอีสานตอนบนเป็นที่ทราบกันดีว่า มีพี่น้องเชื้อสายเวียตนามอยู่เป็นจำนวนมาก ไล่มาตั้งแต่หนองคาย อุดร สกลนคร นครพนม มุกดาหาร
อาหารการกินรวมทั้ง วัฒนธรรมอันกลมกลืนไปกับท้องถิ่นที่สวยงาม เป็นที่เลื่องลือไกล ถ้าใครมีโอกาสมาเยือนยากที่จะลืมเลือนได้เลย ยิ่งปัจจุบันมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 ข้ามไปยังเมืองสะหวันเขต แล้วยังสามารถเดินทางต่อไปเวียตนามผ่านพรมแดน ลาว-เวียตนาม ที่เมืองลาวบาว ข้ามไปยังตอนกลางของเวียตนาม เมืองเว้ Huế เมืองหลวงเก่าและเมืองมรดกโลกและดานัง Đà Nẵng เมืองชายทะเล ดินแดนยุโรปแห่งเอเชียอันขึ้นชื่อของเวียตนาม
*รถสกายแล็ป เป็นรถจักรยานยนต์ดัดแปลงเป็นตุ๊กๆ(ดังภาพประกอบ) เริ่มมีตั้งแต่ปี 2521 ภายหลังตั้งชื่อตามสถานีอวกาศของสหรัฐ ที่เสร็จสิ้นภาระกิจ และตกลงมายังโลกเมื่อปี 2522 ได้รับความนิยมมากแถบภาคอิสานจนถึงปัจจุบัน
**เคยเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนครพนม แยกตัวออกมาเมื่อ 27 กันยายน 2525 เป็นจังหวัดชายแดนที่อยู่ติดแม่น้ำโขง ตรงข้ามกับเมืองสะหวันนะเขต ประเทศลาว
หมายเหตุ : เรื่องราวต่างๆมาจากชีวิตจริง หากพาดพิงถึงใครหรือข้อมูลผิดพลาดคลาดเคลื่อน ขออภัย🙏ไว้ ณ ที่นี้ ผู้เขียนมิได้มีเจตนาอื่นใด นอกจากเล่าย้อนอดีตความทรงจำที่เคยตระเวนทำงานไปทั่วทุกสารทิศ
บนหนทางอันยาวไกล นับพันนับหมื่นกิโล
ผ่านรอยต่อแห่งกาลเวลาและยุคสมัยที่แปรเปลี่ยน
เส้นทางช่างศิลป์/ช่างศิลป์แอร์โรว์/ช่างศิลป์ไนกี้/ช่างศิลป์ยุคทำมือ/ช่างศิลป์ในตำนาน
โฆษณา