22 เม.ย. เวลา 00:51 • สิ่งแวดล้อม

โลกเป็นที่พึ่งพิงให้กับเรา แต่ใครเป็นที่พึ่งให้กับโลกบ้าง?

วันนี้คือวันที่ 22 เมษายน เป็นวันสำคัญของโลกที่สุดวันหนึ่งก็ว่าได้ เพราะวันนี้ของทุกปีจะเป็น “วันคุ้มครองโลก”
พวกเราทราบกันดีว่าโลกยุคใหม่ที่มนุษย์อาศัยอยู่ มีปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นพิษอย่างมากและนับวันก็จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งโลกร้อน ปรากฎการณ์เรือนกระจก โอโซนในบรรยากาศลดลง อากาศเป็นพิษ ฝุ่นควัน น้ำเสีย ป่าไม้ถูกทำลาย สัตว์ต่าง ๆ สูญพันธ์ ปัญหาทุกอย่างเหล่านี้ล้วนมีต้นต่อมาจากมนุษย์แถบทั้งสิ้น
2
ซึ่งอันที่จริงพวกเราทุกคนเข้าใจถึงความสำคัญของปัญหาธรรมชาติเหล่านี้ ว่าหากเรายังใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ สุดท้ายแล้วมนุษย์เราเองก็อยู่บนโลกนี้ไม่ได้ด้วย แต่ด้วยความเคยชิน การรักความสะดวกสบายกันอยู่ทำให้เรามองข้ามปัญหาสิ่งแวดล้อมไป
ทางโครงการสิ่งแวดล้อมสหประชาชาติ UNEP จึงได้ประกาศให้วัน 22 เมษายน ของทุกปีเป็นวันคุ้มครองโลก เพื่อให้พวกเราระลึกถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม มองเห็นถึงปัญหาและช่วยกันพยายามหาวิธีแก้ไข เพื่อให้พวกเราสามารถใช้ชีวิตบนโลกใบนี้กับธรรมชาติได้อย่างมีความสุข
จะเห็นได้ว่าโลกในปัจจุบันมีปัญหาสิ่งแวดล้อมมากมาย
ทั้งเหตุการณ์สัตว์ทะเลล้มตายจากขยะพลาสติก
ปลากว่า 70% ในท้องทะเล
ล้วนมีไมโครพลาสติกปนอยู่ภายในตัว
และนักวิจัยก็ได้พบไมโครพลาสติกจำนวนมากอยู่ในตัวมนุษย์เองด้วย
รวมไปถึงปัญหาฝุ่นมลภาวะ PM 2.5 ที่หลายปีหลังมานี้ประเทศไทยเราเจอหนักมาก ติดอันดับเมืองที่มีฝุ่น PM 2.5 มากที่สุดในโลกบ่อยครั้ง
จนเข้าสู่เดือนเมษายนแล้วปัญหาฝุ่น PM 2.5 ก็ยังไม่เบาบางลงเลยโดยเฉพาะทางภาคเหนือ
1
รวมทั้งเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าในหลายประเทศ
การที่มีลูกเห็บ หิมะถล่มตกหนักในหลายทวีป
พายุทอร์นาโดที่มีมากขึ้นในหลายพื้นที่
1
หรือล่าสุดดูไบประเทศที่เป็นดินแดนทะเลทรายแต่กลับเกิดน้ำท่วมสูงกลางเมืองขึ้นมาได้
1
รวมทั้งปัญหาการสู้รบความขัดแย้งที่ใช้อาวุธหนักเข้าห้ำหั่นกัน การทดลองขีปนาวุธก็ล้วนเป็นอาวุธที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมบนโลกทั้งสิ้นทั้งในอากาศ บนบก และในน้ำ นับวันปัญหาเหล่านี้จึงยิ่งรุนแรงมากขึ้นทุกปี ๆ พวกเราอาจต้องช่วยกันคิด ช่วยกันหาวิธีแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ให้มีความยั่งยืนต่อไปได้
1
หรือเมื่อไม่กี่ปีก่อนที่มีนักวิทยาศาสตร์ในอังกฤษออกมาทำการประท้วงโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ที่ทางการอังกฤษได้อนุมัติให้เกิดขึ้นมา ซึ่งเหล่านักวิทยาศาสตร์มองว่าโลกกำลังอยู่ในจุดที่ไม่อาจกลับไปเหมือนเดิมได้อีกแล้ว หากโลกเราไม่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้ 40% ภายใน 3 ปีข้างหน้า ภัยธรรมชาติจะรุนแรงมากกว่าเดิมไปอีก
เป็นที่ทราบกันดีว่าอายุขัยเฉลี่ยมนุษย์ยุคปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 70-80 ปี
และเทคโนโลยีเอไอที่ก้าวล้ำกำลังพัฒนาการรักษาให้มนุษย์มีอายุขัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นไปถึง 100 ปี
แต่หากมนุษย์ยังทำลายสิ่งแวดล้อมโลกแบบนี้กันต่อ อีกภายใน 40 ปี
ก็อาจไม่มีโลกที่มนุษย์สามารถอาศัยอยู่ได้
รถที่เราใช้ขับถ้ามันเสียเราสามารถเปลี่ยนคันใหม่ได้
บ้านที่เราอยู่ถ้ามันเก่าเราย้ายบ้านใหม่ได้
แต่เรามีโลกอยู่เพียงดวงเดียว
ไม่มีโลกใบใหม่ให้เราย้ายไปไหนได้อีก
ดังนั้นถ้าโลกเลวร้ายลง
มนุษย์ก็ไม่สามารถอยู่ได้อีกต่อไปครับ
อ้างอิง
โฆษณา