"อิสรภาพทางการเงิน" ไปไม่ถึง แต่เข้าใกล้ก็ยังดี 5 กุญแจไขประตูเพื่อเดินทางสู่ความสำเร็จทางการเงิน
เราได้ยินกันมาบ่อยแล้วนะครับ เวลาเป็นเงินเป็นทอง เอ๊ะ เมื่อคุณค่ามันแทบจะเท่ากัน แล้วทำไมเงินซื้อเวลาไม่ได้ ไม่จริงครับ ซื้อได้ แต่ซื้อได้เป็นบางเรื่อง เช่น ไปซอปปิงฆ่าเวลาก่อน เนี่ย ใช้เงินแก้ปัญหา เอาเงินมาฆ่าเวลาได้ละ อันนี้ขำๆ นะครับ เมื่อเช้าเราแจกคอร์สเรียนออนไลน์ไปแล้ว ตอนนี้มาเรียนรู้การเงินผ่านหนังบ้าง
In Time หนังปี 2011 กำกับโดย Andrew Niccol (ผู้กำกับหนังดังเรื่อง Gatttaca ฝ่ากฏโลกพันธุกรรม, Anon แหกกฏล่า ฆ่าล้ำอนาคต) เขาเล่าถึงเรื่องราวของโลกอนาคตปี 2169 ข้างหน้า (ถ้านับจากตอนนี้คืออีก 150 ปี แต่ถ้านับจากหนังฉายคืออีก 158 ปี)
เขาพูดถึงยีนส์อายุขัยของมนุษย์จะถูกจำกัดในวัย 25 ปี ใบหน้าของพวกเขาจะถูกหยุดการเจริญเติบโต ซึ่งแปลว่าทุกคนบนโลกจะไม่มีวันแก่ แต่จะไม่สามารถมีชีวิตต่อไปได้หากไม่ทำงานเพื่อซื้อเวลาเพิ่ม โดยที่ตรงแขนจะมีตัวเลขซึ่งบ่งบอกถึงอายุขัยที่เหลือของชีวิตคุณ
เมื่อเวลาอายุหมดเมื่อใด แสดงว่าคุณจะต้องตาย
“#เงินซื้อเวลาไม่ได้” นั่นเป็นเรื่องจริงที่ใครๆต้องเผชิญ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อร่างกายสามารถเจริญเติบโตได้ถึงแค่เพียงอายุ 25 ปีเท่านั้น และเวลาเป็นตัวตัดสินว่าคุณจะอยู่หรือตาย
เรื่องมันเล่าจาก Will Salas (Justin Timberlake) พระเอกของเรื่อง อาศัยอยู่ในชนบทกับแม่ 2 คน เขาทำงานเป็นพนักงานโรงงาน ที่ต้องดิ้นรนทำงานเพื่อแลกกับเวลาให้มีชีวิตอยู่ในแต่ละวัน (ในเรื่องนี้เวลามีค่าเท่ากับเงิน)
การกินอยู่ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำ ค่าไฟ สาธารณูปโภคต่างๆ ล้วนถูกคิดราคามีหน่วยเป็นเวลาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะ ซื้อกาแฟ ราคา 1 ชั่วโมง รถเมล์โดยสาร ราคา 2 ชั่วโมง โทรศัพท์ตู้สาธารณะ ราคา 1 นาที
จนวันหนึ่ง Will ได้ช่วยชีวิตเศรษฐีที่กำลังถูกไล่ล่า เพื่อเป็นการตอบแทนเศรษฐีคนนั้นจึงได้มอบเวลาให้กับเขาเกือบทั้งหมดประมาณ 100 กว่าปี เพื่อจบชีวิตของตัวเองและฝากคำสั่งเสียว่า “Don’t waste my time”
Will ได้รับเวลาเป็นจำนวนมาก จึงพยายามที่จะหลบหนีจากการช่วงชิงเวลากันในเมือง ซึ่งเขาต้องการพาแม่หนีไปด้วย แต่เวลาของแม่ได้หมดลงก่อนที่ Will จะช่วยทัน ทำให้เขารู้สึกโกรธแค้นและต้องการทวงความยุติธรรมคืนมา จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้
หนังเรื่องนี้ต้องการสื่อว่า เวลาเป็นสิ่งมีค่าและไม่ควรปล่อยทิ้งไปอย่างสูญเปล่า เปรียบเสมือนหนังสะท้อนชีวิตโลกทุนนิยมและการแบ่งแยกชนชั้น (Time Zone) แต่มีความชัดเจนตรงที่ คนในชุมชนแบบชนบท จะมีเวลา (หรือเงิน) น้อยมาก
ในขณะที่คนเมืองกรุงจะมีเวลา (หรือเงิน) เยอะกว่า ทำให้เห็นความแตกต่างของชนชั้นอย่างชัดเจน ถ้าเปรียบกับในปัจจุบัน เรียกว่า คนหาเช้ากินค่ำ ทุกคนทำงานเพื่อหาเงิน
เรามาถอดรหัส #กุญแจสู่ความสำเร็จทางการเงิน กันดีกว่าครับ มีอะไรบ้าง
1. กุญแจแรก #ประเมินฐานะการเงิน
การที่คุณจะสามารถประเมินได้ว่าสถานะการเงินของคุณนั้นอยู่ในระดับไหน คุณจะต้องนำสินทรัพย์ที่มีทั้งหมดหักด้วยหนี้สิน ผลลัพธ์ที่ได้คือ #ค่าความมั่งคั่ง
(สินทรัพย์ - หนี้สิน = ความมั่งคั่ง)
คุณอาจจะสงสัยว่า แล้วจะสามารถรู้ได้อย่างไรว่าความมั่งคั่งที่มีนั้นเพียงพอต่อการอยู่รอดหรือไม่
ผมแนะนำ #สูตรอัตราส่วนความมั่งคั่ง ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครับ โดยคุณจะต้องนำ #รายได้จากทรัพย์สิน/รายจ่าย ทั้งนี้รายได้จากทรัพย์สิน หมายถึง ดอกเบี้ย เงินปันผล กำไรจากการลงทุน เป็นต้นครับ
หากคุณมีอัตราส่วนความมั่งคั่งมากกว่า 1 แสดงว่า แม้คุณจะไม่ได้ทำงานแต่รายได้จากทรัพย์สินที่คุณมีก็เพียงพอต่อการใช้จ่ายครับ ซึ่งเราจะเรียกว่า “อิสรภาพทางการเงิน”
สำหรับเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่ยังต้องพึ่งพิงรายได้จากการทำงาน แต่นอยากมีอิสรภาพทางการเงิน คงรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ตนมีความฝันเหล่านั้นได้ ดังนั้นสิ่งที่คุณควรรู้และให้ความสำคัญในลำดับแรกคือ
การวางแผนการเงินในทุกๆ ด้านครับ ไม่ว่าจะเป็น การบริหารหนี้สิน ควบคุมค่าใช้จ่าย การลงทุนต่อยอด ซึ่งจะเป็นเคล็ดลับเหล่านี้จะนำพาคุณไปสู่อิสรภาพทางการเงินครับ
2. กุญแจที่สอง #ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
การตั้งเป้าหมายที่ดีควรเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน และมีการกำหนดระยะเวลาสั้น กลาง ยาว ซึ่งเคล็ดลับสำหรับการกำหนดเป้าหมายทางการเงิน คือ เป้าหมายจะต้องมีความท้าทายเพื่อให้คุณมีแรงจูงใจอยู่ตลอดเวลา
ขณะเดียวกันการตั้งเป้าหมายจะต้องสามารถทำได้จริงด้วยนะครับ ต้องมีความเป็นไปได้ ไม่อย่างนั้นการตั้งเป้าหมายที่สูงเกินไป อาจทำให้คุณรู้สึกท้อและหมดความพยายาม
3. กุญแจที่สาม #วางแผนอย่างรอบคอบ
เมื่อมีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจนแล้วขั้นตอนถัดมาก็คือ การวางแผนอย่างรอบคอบครับ เพราะหากมีรายได้แต่นำมาจัดสรรไม่เป็น ก็ไม่มีทางที่จะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ การวางแผนทางการเงินมีอยู่ 4 ขั้นตอนครับ
(1) สร้างความมั่งคั่ง เป็นการ #วางแผนการออม #วางแผนการใช้จ่าย และ #วางแผนหนี้สิน เพื่อให้เรามีเงินออมมากขึ้น เพื่อเป็นฐานไว้ต่อยอดในอนาคต
(2) ปกป้องความมั่งคั่ง คือการปกป้องความเสี่ยงต่างๆที่สร้างความเสียหายและส่งผลต่อเงินของเรา #การวางแผนประกัน และ #การวางแผนเกษียณ
(3) เพิ่มพูนความมั่งคั่ง คือการต่อยอดเงินของเราให้งอกเงยเปรียบเสมือนกับการปลูกต้นไม้ ยิ่งสูงใหญ่ ยิ่งมั่นคง หัวใจหลักของการเพิ่มพูนความมั่งคั่งคือ #การวางแผนการลงทุน
การวางแผนการลงทุนที่ดีจะเป็นอัตราเร่งความมั่งคั่งของเราครับ ส่วน #การวางแผนภาษี มีไว้เพื่อลดภาระทางภาษี ทำให้เสียภาษีน้อยลงแล้วนำเงินไปลงทุนเพิ่ม
(4) ส่งมอบความมั่งคั่ง เมื่อตายไปทรัพย์สินก็เอาไปด้วยไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องมี #การวางแผนมรดก เพื่อส่งมอบความมั่นคงจากรุ่นสู่รุ่น
โดยการวางแผนทางการเงินทั้ง 4 ขั้นตอนนี้สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ https://www.set.or.th/education/th/start/start.html
4. กุญแจที่สี่ #ปฏิบัติอย่างมีวินัย
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องมีความมุ่งมั่น ตั้งใจและวินัย ต่อการปฏิบัติอยู่ตลอดเวลา หากขาดการปฏิบัติที่จริงจังและไม่ต่อเนื่องก็ยากที่จะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ ถ้าวันนี้ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง มีวินัยในการออมและลงทุน พวกเรา Aommoney ขอรับรองเลยครับว่า เป้าหมายของคุณอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน
5. กุญแจที่ห้า #ตรวจสอบและปรับปรุง
เพื่อให้แน่ใจว่าแผนการเงินของคุณสามารถทำให้คุณบรรลุถึงเป้าหมายได้ จึงต้องมีการตรวจสอบและประเมินผลอยู่ตลอดเวลา เมื่อใดที่แผนปฏิบัตินั้นมีแนมโน้วจะไม่สำเร็จ คุณจะได้สามารถปรับแผนและแก้ไขได้ทันท่วงที ดังนั้นการวางแผนทางการเงินที่ดี ต้องมีการตรวจสอบและปรับปรุงอยู่สม่ำเสมอ
ความรู้สึกหลังดูหนังเรื่องนี้จบ ทำให้ผมนึกถึงหนังสือเรื่องหนึ่งที่พูดถึงความสำคัญของเวลา “เปลี่ยนเลนเป็นเศรษฐี” ของ MJ DeMacro เขาบอกว่าทำไมมนุษย์ถึงต้องร่ำรวยตอนแก่ เมื่อเราแก่ตัวไปความฝันในวัยหนุ่มที่อยากทำก็จะทำไม่ได้เพราะร่างกายนั้นไม่เอื้อแล้ว
แต่การสร้างความมั่งคั่งตั้งแต่วัยหนุ่มจะทำให้เรามีอิสรภาพทางการเงินและใช้ชีวิตที่มีความสุขในช่วงที่ร่างกายแข็งแรงได้ โดยส่วนตัวผมชอบหนังเรื่องนี้นะครับ มันสะท้อนถึงความเป็นจริงได้ดีพอสมควรเลย มีคนรวยกระจุกตัว แต่คนจนมีมากมาย ขนาดเป็นหนังที่นานมากแล้วนะเนี่ย ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย
ใครมีหนังอะไรที่มีมุมการเงิน มาเล่า มาแชร์ไอเดียกันได้นะครับ
ที่มา
Wikihow
#aomMONEY #การเงิน #อิสรภาพทางการเงิน #ความสำเร็จ
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
