26 เม.ย. เวลา 05:30 • ธุรกิจ

เคล็ดลับเสริมแกร่งให้ธุรกิจครอบครัว ก้าวผ่านการทำงานแบบพี่น้อง ที่มีข้อจำกัดมากกว่าการบริหารธุรกิจ

ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของธุรกิจครอบครัว (Family Business) คือ การส่งต่อธุรกิจครอบครัวให้แก่ผู้สืบทอดธุรกิจครอบครัวรุ่นต่อไป เนื่องจากผู้สืบทอดธุรกิจครอบครัวอาจจะเป็นทายาทธุรกิจที่เป็นพี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกัน หรือเป็นพี่น้องเครือญาติในตระกูลเดียวกัน และเมื่อต้องมาทำงานร่วมกันในธุรกิจครอบครัว อาจจะมีปัญหาความขัดแย้งทีส่งผลให้การบริหารธุรกิจครอบครัวไม่ราบรื่นเท่าที่ควร จนส่งผลกระทบต่อความเจริญเติบโตของธุรกิจครอบครัวในระยะยาวได้
ดังเช่นผลการวิจัยเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของธุรกิจครอบครัว ที่พบว่า ค่าเฉลี่ยของธุรกิจครอบครัวที่สามารถส่งต่อธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น จะอยู่ที่ประมาณ 3 รุ่นเท่านั้น ดังนั้น ธุรกิจครอบครัวที่ประสงค์จะส่งต่อธุรกิจครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่นจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการเตรียมกา รหรือเตรียมความพร้อมทายาทผู้สืบทอดธุรกิจครอบครัวให้พร้อมที่จะบริหารธุรกิจครอบครัวอย่างมืออาชีพ เพื่อให้เป็นผลดีต่อการดำรงอยู่ของธุรกิจครอบครัว
ปรับตัวอย่างไร? ให้ไร้ข้อขัดแย้ง เมื่อพี่น้องต้องทำงานร่วมกัน
สิ่งที่ต้องปรับเปลี่ยน เมื่อสมาชิกของธุรกิจครอบครัวจะต้องมาทำงานร่วมกันในฐานะผู้บริหารธุรกิจครอบครัว ได้แก่ การเห็นความสำคัญของการสร้างความสมานฉันท์ระหว่างสมาชิกของธุรกิจครอบครัว เพื่อให้สมาชิกของธุรกิจครอบครัวพร้อมปรับตัวเข้าหากัน
ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมให้มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทสนมและไว้วางใจซึ่งกันและกันแล้ว ยังเป็นผลดีต่อการบริหารธุรกิจครอบครัวให้เป็นไปอย่างราบรื่น ช่วยลดปัญหาความขัดแย้งหรือความไม่ลงรอยกัน ดังนั้น ประเด็นสำคัญที่สุดที่สมาชิกของธุรกิจครอบครัวควรคำนึงถึง คือ “การแสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่าง” ด้วยการลดอัตตา (Ego) หรือการถือตนเองเป็นใหญ่
พร้อมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง โดยเปิดโอกาสให้สมาชิกธุรกิจครอบครัวทุกคนได้แสดงความคิดเห็นอย่างเสรี เพื่อแสวงหาจุดร่วมในการบริหารธุรกิจครอบครัว หรือหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไปในทิศทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ธุรกิจครอบครัวจะได้เจริญเติบโตอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน
สร้างแรงจูงใจอย่างไร? ให้สมาชิกของธุรกิจครอบครัวทำงานอย่างมีประสิทธิภาพร่วมกัน
ได้แก่ การมีระบบการสื่อสารระหว่างสมาชิกครอบครัวที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ทุกคนได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจครอบครัวเดียวกัน จะได้มีความเข้าใจที่ตรงกัน เช่น กำหนดวันประชุมสมาชิกครอบครัวเป็นระยะ เพื่อสื่อสารให้ทุกคนได้รับรู้สถานการณ์ตามที่เป็นจริงของธุรกิจครอบครัว โดยให้ความสำคัญกับการรับฟังและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันเป็นหลัก
เพื่อให้สมาชิกของธุรกิจครอบครัวรู้สึกว่า ตนมีส่วนร่วมหรือมีบทบาทในการบริหารธุรกิจครอบครัว สมาชิกของธุรกิจครอบครัวทุกคนจะได้เกิดความรู้สึกรักและผูกพันกับธุรกิจครอบครัวและสมาชิกของธุรกิจครอบครัวทุกคน
สำหรับธุรกิจครอบครัวที่ต้องการก้าวผ่านการทำงานแบบพี่น้อง เพื่อก้าวสู่การบริหารธุรกิจแบบมืออาชีพ สมาชิกของครอบครัวควรปรับกรอบความคิดแบบ Growth Mindset โดยลงมือทำงานเพื่อพิสูจน์ตนเองให้ทุกคนได้เห็นความพยายาม และความตั้งใจจริงที่จะทำงานให้ประสบความสำเร็จ โดยไม่หวั่นเกรงต่อปัญหาอุปสรรคใด ๆ เพื่อสร้างคุณค่าและความน่าเชื่อถือให้แก่ตนเองเป็นเบื้องต้นก่อน
เมื่อสมาชิกของธุรกิจครอบครัวทุกคนได้เห็นผลงานแห่งความตั้งใจจริง และยอมรับในผลงานของเราแล้ว ผู้บริหารธุรกิจครอบครัวจะไว้วางใจ กล้าที่จะมอบหมายงานต่าง ๆ ให้รับผิดชอบ ดังนั้น ข้อดีของการลงมือทำงานจริง นอกจากจะทำให้สมาชิกของธุรกิจครอบครัวได้เรียนรู้ขั้นตอนการทำงานทุกอย่างในรายละเอียดแล้ว ยังส่งผลให้สมาชิกของธุรกิจครอบครัว รู้จริง รู้ลึกทุกปัญหา เพราะการทำงานทุกอย่างย่อมมีปัญหาและอุปสรรคที่อาจส่งผลกระทบต่องาน
หรือประสิทธิภาพในการทำงาน และอาจส่งผลเสียต่อภาพรวมของธุรกิจครอบครัวได้ ด้วยเหตุนี้ การบริหารธุรกิจครอบครัวแบบมืออาชีพ ผู้บริหารธุรกิจครอบครัวจำเป็นต้องรู้จริง รู้ลึก “รอบรู้ และ รู้รอบ” เพื่อป้องกันหรือแก้ไขไม่ให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของธุรกิจครอบครัว เพราะจะเป็นผลเสียต่อธุรกิจครอบครัวในระยะยาว
สำหรับทายาทธุรกิจครอบครัวรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาสืบทอดธุรกิจครอบครัว ประเด็นสำคัญที่ต้องยอมรับ คือ คนรุ่นใหม่มีความฝัน มีความถนัด มีความชอบ (Passion) ที่แตกต่างกัน ดังนั้น ทายาทผู้สืบทอดธุรกิจครอบครัวจำเป็นต้องทบทวนและทำความเข้าใจตนเองให้ดีก่อนที่จะเข้ามาทำงานในธุรกิจครอบครัว เพื่อจะได้วางแผน วางบทบาทของตนเองว่า จะสามารถเข้ามาทำงานในธุรกิจครอบครัวส่วนงานใดได้บ้าง
หรือถ้าไม่ประสงค์จะเข้ามาทำงานในธุรกิจครอบครัวจริง ๆ เนื่องจากอยากทำในสิ่งที่รักมากกว่า ควรหาวิธีที่ยังคงช่วยทำประโยชน์ให้กับธุรกิจครอบครัวได้ เพราะธุรกิจครอบครัว คือ พื้นฐานของครอบครัวที่มีคุณค่าและน่าภาคภูมิใจ สมาชิกของครอบครัวจึงควรจะดำรงรักษาไว้ให้ยั่งยืนสู่รุ่นลูกรุ่นหลานต่อไปในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลโดย GURU รับเชิญ : รศ. ทองทิพภา วิริยะพันธุ์ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
โฆษณา