ลากชายฉกรรจ์อูเครนกลับประเทศ
โดย
นิติการุณย์
มิ่งรุจิราลัย
24 เมษายน 2024 คนอูเครนจำนวนหลายร้อยก่อเหตุปิดกั้น สถานกงสุลของอูเครนประจำกรุงวอร์ซอ เมืองหลวงของโปแลนด์ เพื่อให้ได้รับการต่ออายุหนังสือเดินทาง
เนื่องจากกระทรวงการต่างประเทศอูเครนออกกฎไม่อนุญาตให้พลเมืองชายอายุ 18-60 ปี ต่ออายุเอกสารราชการและหนังสือเดินทางตามสถานกงสุลต่างๆที่อยู่นอกอูเครนอีกต่อไป
เมื่อหนังสือเดินทางของคนอูเครนที่อยู่นอกประเทศหมดอายุ ต้องเดินทางกลับไปอูเครนเพื่อทำหนังสือเดินทางใหม่ เมื่อเข้าไปอยู่ในประเทศแล้ว ก็จะโดนรัฐบาลบังคับให้ไปเป็นทหาร
รัฐมนตรีกลาโหมโปแลนด์บอกว่า รัฐบาลโปแลนด์ยินดีที่จะพาชายอูเครนที่อยู่ในวัยฉกรรจ์ที่พำนักพักอาศัยอยู่ในโปแลนด์กลับไปอูเครนเพื่อต่อสู้กับรัสเซีย
สหภาพยุโรปซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่หนุนอูเครนอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูเช่นเดียวกัน ออกสำรวจชาวอูเครนที่อยู่ในประเทศต่างๆของอียู พบว่ามีชาวอูเครนหลบลี้หนีสงคราม 4.3 ล้านคน ในจำนวนนั้น 8.6 แสนคนเป็นชายฉกรรจ์ที่อยู่ในวัยต้องไปเกณฑ์ทหาร
วลาดีสลอว์ โคซิเนียก-คามิสซ์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมโปแลนด์ ให้สัมภาษณ์ว่า ชาวโปแลนด์ไม่สบายใจที่เห็นชายอูเครนนั่งสบายใจเฉิบอย่างไม่ทุกข์ร้อนอยู่ตามคาเฟ่ต่างๆ แทนที่จะไปรบเพื่อปิตุภูมิของตนเอง ขณะที่พวกเรา (ชาวโปแลนด์) ต้องใช้ความพยายามมากในการช่วยเหลือคนอูเครน
รัฐมนตรีกลาโหมโปแลนด์เผยตัวเลขที่รวบรวมโดยทางการโปแลนด์ว่า ในขณะนี้มีชาวอูเครน 9.5 แสนคนได้รับอนุญาตให้หลบภัยสงครามชั่วคราวอยู่ในโปแลนด์ และรัฐบาลโปแลนด์ยินดีที่จะนำตัวชายฉกรรจ์ชาวอูเครนวัย 18-60 ปีกลับไปอูเครน
24 เมษายน 2024 รัฐสภาอูเครนลงมติเพิ่มกำลังพลอีก 1.5 หมื่นนายเข้าสู่กองกำลังพิทักษ์ชายแดนของรัฐ
ก่อนที่จะมีการลงมติ มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวางถึงเรื่องชายอูเครนที่หลบหนีออกนอกประเทศเพื่อหนีการเกณฑ์ทหาร
สถานการณ์อย่างนี้ไม่ได้มีเฉพาะในอูเครนอย่างเดียวดอกครับ เกิดขึ้นกับชายฉกรรจ์ของรัสเซียด้วย
ในโทรศัพท์มือถือของชาวรัสเซียในไซบีเรียที่เราไปพบ ต่างมีคลิปของทหารทั้งฝ่ายรัสเซียของตัวเองและฝ่ายอูเครนเสียชีวิตอยู่ตามทุ่งนาบ้าง อยู่ในป่าบ้าง เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเป็นหน้าหนาว มีหิมะตก ศพก็จึงไม่เน่าเปื่อยง่าย
เห็นภาพของชายหนุ่มเหล่านี้นอนตายข้างถนนรนแคมและตามที่ต่างๆ แล้วก็สงสารครอบครัว รวมทั้งเสียดายอนาคตของประเทศ ที่ต้องมาสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ที่อยู่ในวัยฉกรรจ์ แทนที่จะไปทำมาหากิน หาเงินเข้าประเทศ กลับต้องมาตายกลายเป็นผีเพราะการสู้รบ
อูเครนเป็นประเทศเกษตรกรรม มีรายได้หลักจากการเกษตร เกษตรกรจำนวนไม่น้อยปลูกต้นทานตะวันเพื่อผลิตน้ำมันทานตะวันส่งออกไปทั่วโลก นอกจากนั้นยังปลูกบีทรูท เพื่อใช้ทำน้ำตาล ก่อนสงคราม
ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย ขับรถตระเวนไปดูไร่ทานตะวัน และไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตน้ำทานตะวัน
ส่วนบีทรูทที่ใช้ทำน้ำตาลนั้นกองเป็นภูเขาพะเนินเทินทึกอยู่ริมถนน แต่ละกองยาวหลายกิโลเมตร (มีคลิปอยู่ที่หน้า Line Voom ไลน์ไอดี @ntp59)
วันนี้แผ่นดินอูเครนแม้จะอุดมสมบูรณ์แต่ไม่เหมาะสมกับการทำเกษตรแล้ว เพราะมีแต่ระเบิดคลัสเตอร์บอมบ์ เดินสุ่มสี่ สุ่มห้าก็ขาขาดร่างเละ
เท่านั้นยังไม่พอ คนที่เคยเป็นกำลังหลักในการทำเกษตรของอูเครนก็ตายเป็นจำนวนมาก ที่เหลือก็หนีไปอยู่ต่างประเทศ
ถามถึงอนาคตของอูเครนสำหรับคนที่เคยตระเวนไปหลายครั้งอย่างพวกเรา บอกเลยครับว่ายากที่จะกลับมาฟื้นได้ดีดังเดิม ถึงแม้สงครามจะสงบจบลง แต่อูเครนจะเป็นประเทศที่ไม่สามารถยืนได้ด้วยตัวเองอีกนานแสนนาน
จากประเทศผู้ผลิต อูเครนจะกลายเป็นประเทศที่ต้องซื้ออาหารเข้ามากิน
เมื่อไม่มีสตางค์ซื้อ ก็จะกลายเป็นประเทศผู้ขอ
ถ้าขอมากๆ ขอไม่รู้จักจบจักสิ้น ก็จะกลายเป็นประเทศที่ถูกรังเกียจเดียดฉันท์ในสังคมโลก.
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
