30 เม.ย. เวลา 15:38 • ธุรกิจ

ชูนวัตกรรม ขับเคลื่อน-ยกระดับ อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไม้สู่ความยั่งยืน

ด้วย Automation กลยุทธ์สู่ Smart Factory ระดับรางวัล The Prime Minister's Industry Award 2023 ของ 'ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์'
การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วจากการรุกคืบของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ และส่งผลให้ผู้บริโภคมีความต้องการที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นำมาสู่การพัฒนา และปรับตัวของเหล่าธุรกิจที่ต้องการอยู่รอดและเติบโต เพราะนวัตกรรม (Innovation) คือกุญแจสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อการบริหารจัดการความต้องการของลูกค้า (Demand Chain) ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม
บทความนี้ Bangkok Bank SME จะพาไปทำความรู้จักกับทายาทธุรกิจรุ่น 2 คุณศุภรัตน์ ชูชัยศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์ จำกัด ผู้ผลิต และส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้รายใหญ่ ชั้นแนวหน้าของไทย ซึ่งวางเป้าหมายสำคัญ คือการนำพาธุรกิจสู่ Smart Factory หรือ โรงงานยุคใหม่ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาผสานรวมกับระบบการผลิตแบบดั้งเดิม รวมถึงปรับใช้ระบบออโตเมชัน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน ยกระดับคุณภาพสินค้า เพิ่มความปลอดภัยในกระบวนการทำงานและสร้างความยั่งยืนในเวลาเดียวกัน
กว่า 36 ปีในธุรกิจ ‘ผู้ผลิตภัณฑ์ไม้ชั้นนำของประเทศไทย’
บริษัท ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2530 โดยเริ่มต้นจากธุรกิจโรงงานกรอบรูปเล็ก ๆ ในกรุงเทพมหานคร ที่ผลิตกรอบรูปแบบ 100 % เมื่อถึงยุคของเจน 2 อย่างคุณศุภรัตน์ เข้ามาช่วยบริหารงาน จึงเห็นโอกาสต่อยอดธุรกิจ สู่ผลิตภัณฑ์ไม้หลากหลายประเภท เช่น เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน และผลิตภัณฑ์ไม้อื่น ๆ มากมาย
ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้ มีประสบการณ์การผลิตจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 36 ปี ที่คำนึงถึงคุณภาพเป็นหลัก และมุ่งเน้นการพัฒนารูปแบบการการผลิตและการดีไซน์ให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทศรีวัฒนา จะเป็นลูกค้าจากสหรัฐอเมริกาประมาณ 75% ที่เหลือ 25% จะเป็นลูกค้าฝั่งยุโรป ออสเตรเลีย แอฟริกา เอเชีย ฯลฯ
หลักพื้นฐานการดำเนินธุรกิจของ บริษัท ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์ จำกัด ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าหลายประเทศทั่วโลก คือเรื่องของคุณภาพสินค้า ลูกค้ามั่นใจได้ว่าเมื่อมีการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัท จะต้องได้สินค้าที่มีคุณภาพเกินราคา
‘Beyond Standard’ ผลิตสินค้าที่เกินกว่ามาตรฐาน
บทบาทการเป็นผู้บริหาร และผู้นำที่ประสบความสำเร็จในทุกอุตสาหกรรม คือ ต้องมีภาวะผู้นำ และเข้าใจในทุกมิติของธุรกิจที่ดำเนินอยู่อย่างลึกซึ้ง ซึ่งหมายถึง ต้องควบคุมทั้งกระบวนการ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงและตรงตามมาตรฐาน หรือเกินมาตรฐานที่ลูกค้ากำหนดทุกครั้ง
ที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการสร้างทีมและการพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและทักษะที่เหมาะสมกับการทำงาน เพื่อสร้างความไว้วางใจ และความเชื่อมั่น ทั้งจากลูกค้าและซัพพลายเออร์ สิ่งเหล่านี้ทำให้ 'ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์' ได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าหลายประเทศทั่วโลกเสมอมา
ขณะเดียวกัน ยังได้กำหนดทิศทางและนำพาความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยี นวัตกรรม องค์ความรู้ ระบบการทำงาน วัฒนธรรมองค์กร และคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่อย่างยั่งยืนควบคู่ไปด้วย
การจัดการเทคโนโลยี นวัตกรรม กุญแจสำคัญสำหรับธุรกิจยุคดิจิทัล
วิสัยทัศน์ผู้นำของ คุณศุภรัตน์ คือการนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่องค์กร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกลยุทธ์ที่เหมาะสม การปรับใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความทันสมัย ระบบการทำงาน นโยบาย องค์ความรู้ รวมถึงสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้ทีมงานเข้มแข็ง และมีความคิดสร้างสรรค์ กล้าที่จะคิดนอกกรอบ ทำให้บริษัทเจริญก้าวหน้าตามโลกที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
พันธกิจสำคัญ คือการเป็นผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ไม้คุณภาพสูง ที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ รักษามาตรฐานและความรวดเร็วในการขึ้นตัวอย่างใหม่ให้ลูกค้าได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ขณะเดียวกัน 'ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์' ยังให้ความสำคัญกับการปฎิบัติตามหลักการทางความรับผิดชอบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ไม้คุณภาพสูง
จึงพัฒนาด้านนวัตกรรมและเครื่องจักรรวดเร็ว ลดของเสีย ลดต้นทุน และสามารถแข่งขันในตลาดนานาชาติ เช่น การใช้ระบบ ERP (Ecount) สำหรับการบริหารจัดการองค์กรและจัดซื้อ ให้เชื่อมต่อกับคลังสินค้าวัตถุดิบ ลดความผิดพลาด และช่วยให้พนักงานทำงานคล่องตัวมากขึ้น เป็นต้น
Transition สู่ ระบบออโตเมชันในกระบวนการผลิต
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Smart Factory ในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไม้ของ 'ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์' ตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจเช็คชิ้นส่วน Incoming จน Outgoing จะใช้การตรวจเช็คด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ทั้งการรับสินค้าเข้าตั้งแต่ต้นน้ำ ระหว่างกระบวนการผลิต และการส่งมอบที่เป็นปลายน้ำ
จากเดิม บริษัทใช้วิธีตรวจเช็คโดยซัพพลายเออร์ ซึ่งจะทำการตรวจวัดความชื้นไม้ให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดจากหน้างาน ขณะที่การวัดค่าสี จะใช้การสังเกตด้วยสายตา แต่ปัจจุบันปรับมาใช้เครื่องวัดค่าสี RGB เครื่องวัดความชื้น เครื่องวัดความเงาของสี ที่มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น เป็นต้น
ด้านการออกแบบ R&D ก่อนปี 2565 จะขึ้นตัวอย่างจริงจากภาพ 2 มิติ (2D) ทำให้บริษัท ต้องส่งตัวอย่างที่เสร็จแล้วไปให้ลูกค้าที่ต่างประเทศดู ใช้เวลาและทรัพยากรอย่างมาก นอกจากนี้ หากลูกค้ายังไม่ Approve จะต้องทำตัวอย่างใหม่จนกว่าจะพอใจ แต่หลังจากนั้นได้ปรับปรุงมาใช้โปรแกรมออกแบบ 3 มิติ (3 D) นอกจากจะใช้งานง่าย ยังสะดวกขึ้น สามารถส่งแบบ 3 มิติที่ออกแบบไว้ให้ลูกค้าดูและลูกค้าสามารถหมุนดูได้ 360 องศา ก่อนจะขึ้นตัวอย่างจริงต่อไป ยังสามารถปรับแบบได้ จนกว่าลูกค้าจะพอใจ
อีกหนึ่งจุดเด่นของการปรับใช้เทคโนโลยีของ 'ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์' คือ ยังลงทุนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี เช่น การสั่งซื้อเครื่องจักรที่ทันสมัยอย่างเครื่องรีดสียูวีใหญ่ เครื่องพ่นสีอิเล็กโทนสเตรติก ฟิงเกอร์จ๊อยส์ (Finger Joint) ที่ทำไม้ให้เป็นรอยต่อรูปฟันปลา หรือเครื่องประสานงานไม้อัตโนมัติ ระบบออโตเมชันที่มีส่วนสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างความเป็นไปได้ในการผลิตสินค้าคุณภาพสูง
ไม่เพียงแค่พัฒนาด้านการเพิ่มเครื่องจักร แต่การพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรก็จำเป็นต่อการก้าวสู่ Smart Factory ไม่แพ้กัน ซึ่ง 'ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์' พัฒนาบุคลากรทั้งด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเทรนนิ่งให้กับพนักงานฝ่ายเทคนิคจากซัพพลายเออร์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เช่น ทักษะงานขัดสี ทำสี อีกทั้งฝึกอบรมพนักงานภายใน (In-house training)
และกิจกรรมฝึกทักษะเกี่ยวกับงานไม้ โดยผู้บริหาร และผู้จัดการฝ่ายต่าง ๆ อยู่เสมอเช่น การตัดไม้ ตัดองศา การประสานไม้ รวมถึงมีการส่งพนักงานฝ่ายนวัตกรรมไปร่วมชมงานแฟร์ด้านเครื่องจักรและระบบออโตเมชันเพื่อพัฒนาทักษะความรู้ให้มากขึ้น
ลดแรงงานคน พัฒนาระบบการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ยืดหยุ่น และยั่งยืน
การผลิตชิ้นงานที่หลากหลายรูปแบบด้วยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี สามารถเพิ่มความสามารถในการปรับแต่งกระบวนการผลิต เช่น เครื่อง CNC หรือ เครื่อง Copy Shaper ที่ทำให้ 'ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์' ผลิตชิ้นงานตามแบบที่ลูกค้าคาดหวังได้ ตอบสนองความต้องการลูกค้าในระยะเวลาที่สั้นลงสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าได้มากขึ้น
อีกทั้งยังลดการใช้แรงงานที่ไม่จำเป็นในการกระบวนการผลิต โดยใช้เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ หรือระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทดแทนคนในงานที่ซ้ำซ้อน หรืองานที่ต้องการความละเอียดสูง ทำให้ลดจำนวนคนในกระบวนการผลิต ลดต้นทุนแรงงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดการทำงานล่วงเวลา (โอที) เช่น การนำระบบ ERP หรือ Business Automation (ระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ) มาใช้ ทำให้บริษัทสามารถลดการทำงานล่วงเวลาในกระบวนการผลิต
แต่หันมาเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักร ลดเวลาที่ใช้ในกระบวนการผลิตลง และยังลดความเสี่ยงจากขั้นตอนการผลิต เพิ่มความปลอดภัยให้พนักงาน โดยการควบคุมแบบอัจฉริยะในการทำงาน เช่นการใช้เครื่องพ่นสีแนวนอนที่ควบคุมด้วยระบบ PLC ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพสินค้าและบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
พัฒนาอุตสาหกรรมไม้ สู่มิติความยั่งยืน
'ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์' มีนโยบายการวางกลยุทธ์และแผนธุรกิจที่มีความสมดุลและยั่งยืน ตามนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมของกระทรวงอุตสาหกรรมประกอบด้วย มิติที่ 1 คือมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจขององค์กรไปสู่ความสำเร็จธุรกิจเชิงประจักษ์ โดยโรงงานมีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด และตามทันโลกยุคอนาคตที่มีแข่งการแข่งขันได้ประสิทธิภาพ ลดต้นทุนที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจากการขาดแคลนแรงงาน หรือต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยกำหนดนโยบายการนำเข้าเครื่องจักรที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง
มิติที่ 2 ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม หรือซีเอสอาร์ (CSR) โดยทำกิจกรรมสอดรับกับความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างรอบด้าน เพื่อดูแลสังคมบริเวณรอบโรงงานอุตสาหกรรม เช่น โครงการสร้างสนามเด็กเล่นเพื่อน้อง และให้ความช่วยเหลือแก่สมาชิกในชุมชนเท่าที่มีโอกาสอยู่ตลอดเวลา
มิติที่ 3 องค์กรมีการผลักดันการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำแนวคิด BCG Economy Model มาประยุกต์ใช้เพื่อความยั่งยืน ตัวอย่างเช่น การนำ Waste มาใช้ประโยชน์ใหม่โดยการนำเศษไม้ที่มีขนาดสั้น มาต่อให้ยาวด้วยระบบอัตโนมัติ ทำให้กระบวนการของเสีย หรือไม้ที่มีลักษณะโก่งงอ และไม่เกิดประโยชน์ กลับมาใช้ได้ใหม่แทบทั้งหมด โดยตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคม ปี 2566 มีการนำไม้เก่ามารีไซเคิล ใช้เป็นชิ้นงานให้ลูกค้าแทนการซื้อไม้ใหม่ ช่วยลดค่าวัตถุดิบไม้ได้กว่าราว 5 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังนำเศษขี้เลื่อยจากไม้ไปขายให้กับบริษัทรับแปรรูป เพื่อทำเป็นชีวมวล ส่วนที่เหลือนำไปโรยแปลงผัก สิ่งสำคัญ คือบริษัทซื้อไม้จากสวนป่าปลูก ซึ่งผ่านมาตรฐานการรับรองจาก Forest Stewardship Council (FSC) ซึ่งเป็นองค์กรพิทักษ์ป่าไม้ระดับนานาชาติ โดยมีการจำกัดค่าฟอร์มัลดีไฮด์ในไม้ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพด้วย
ทั้งนี้ 'ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์' มีแผนงานในการติดตั้งโซล่าเซลล์บนหลังคาโรงงาน ประมาณ 400 กิโลวัตต์ในปี 2567 - 2568 เพื่อประหยัดไฟฟ้าลงประมาณ 15% นอกจากนี้ ยังเริ่มกระบวนการเพื่อทำ ISO 14064 ที่เป็นมาตรฐานเกี่ยวกับแนวทางปฎิบัติเพื่อจัดการคาร์บอนฟุตพรินต์ขององค์กร มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสามารถทวนสอบผลปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ได้
สะท้อนว่า นี่คือความมุ่งมั่นจะช่วยต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพพูมิอากาศ (Climate change) สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainability) และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UNSDGs) ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นที่ออกจากโรงงานของ 'ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์' ล้วนมั่นใจได้ว่า เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
และมิติที่ 4 การสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้คนในชุมชน กระจายรายได้ และส่งเสริมธุรกิจชุมชน ซึ่งบริษัทมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
รางวัล การันตีความสำเร็จ
จากที่กล่าวมา คือภาพสะท้อนความสำเร็จของ บริษัท ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์ จำกัด ที่มุ่งมั่น ตั้งใจพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐาน โดยล่าสุด บริษัทได้รับรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น ประเภทการจัดการเชิงนวัตกรรม The Prime Minister's Industry Award 2023 จากการ Transformation ปรับตัวธุรกิจให้โดดเด่น ทั้งด้านคุณภาพและราคา จนสามารถคว้าโอกาสทางธุรกิจ และการยอมรับในระดับโลก
คุณศุภรัตน์ กล่าวว่า เรามีนโยบายการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และการประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ไม้ส่งออกรอบโลก รวมถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่การรักษาสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับพนักงานในองค์กร ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้วัตถุดิบที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งยังมีนโยบายเรื่องการวางแผนเพิ่มกำลังการผลิต โดยสรรหาเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัย
เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และเพิ่มศักยภาพการออกแบบสินค้าที่หลากหลายอย่างสม่ำเสมอ ทำให้บริษัทสามารถส่งสินค้าได้รวดเร็ว ตรงตามเวลาที่ลูกค้าต้องการ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัล
แม้อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ไม้ กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากปัจจัยหลายประการ อาทิ เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า พฤติกรรมผู้บริโภค และความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม แต่ธุรกิจที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มใหม่ ๆ ด้วยการพัฒนาอย่างไม่รู้จบ จะประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืนในทุกมิติ
Credit ภาพ จาก : บริษัท ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์ จำกัด
รู้จัก บริษัท ศรีวัฒนา วู้ดดิ้ง อินดัสทรีส์ จำกัด เพิ่มเติมได้ที่ :
โฆษณา