3 พ.ค. เวลา 08:58 • ไลฟ์สไตล์

Inspired by Nature หยอดเมล็ดพันธุ์ ‘ความรักษ์’ ในหัวใจ กับค่ายเยาวชนเอ็กโกไทยรักษ์ป่า รุ่นที่ 58

“ค่ายเยาวชนเอ็กโกไทยรักษ์ป่า เป็นค่ายสิ่งแวดล้อมครั้งแรกในชีวิต ผมอาจจะไม่ได้เข้าใจธรรมชาติมากนัก แต่หลังจาก 7 วัน 6 คืน ที่มาเข้าค่ายฯ ที่ดอยอินทนนท์ สิ่งที่ผมได้รับก็คือ ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งที่จะเปลี่ยนแปลงธรรมชาติให้ดีขึ้นมากกว่านี้”
จบลงแล้วสำหรับค่ายเยาวชนเอ็กโกไทยรักษ์ป่า รุ่นที่ 58 จัดโดยบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group ร่วมกับมูลนิธิไทยรักษ์ป่า องค์กรสาธารณกุศลซึ่งก่อตั้งและสนับสนุนการดำเนินงานโดย EGCO Group และอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ นำเยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 64 คน จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ออกเดินทางตามหาแรงบันดาลใจจากผืนป่าต้นน้ำ ณ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ กับภารกิจในการส่งต่อแรงบันดาลใจและหยอดเมล็ดพันธุ์แห่งความรักษ์ในผืนป่าและสิ่งแวดล้อมในหัวใจเยาวชน
“EGCO Group มีความเชื่อว่า ‘ต้นทางดี จะก่อกำเนิดผลลัพธ์ปลายทางที่ดี’ คำว่า ‘ต้นทาง’ ในที่นี้หมายถึงพลังของป่าต้นน้ำที่สูงที่สุดในประเทศอย่างดอยอินทนนท์ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของน้ำ พลังงาน และความหลากหลายทางชีวภาพ และ ‘ต้นทาง’ ที่ 2 หมายถึง เยาวชน ซึ่งเป็นวัยต้นทางแห่งการเรียนรู้และจะเติบโตเป็นอนาคตของชาติ จุดเริ่มต้นของค่ายจึงเป็นการทำให้ต้นทางทั้งสองมาบรรจบกัน ด้วยการพาเยาวชนไปสัมผัสกับป่าต้นน้ำ ซึ่งเราเชื่อว่าจะสร้างแรงบันดาลใจบางอย่างให้เกิดขึ้นได้ ถ้าเด็ก ๆ ได้ออกไปสัมผัสกับธรรมชาติโดยตรง”
มานนีย์ พาทยาชีวะ เลขาธิการมูลนิธิไทยรักษ์ป่า ย้อนเล่าถึงเหตุผลในการก่อตั้งโครงการค่ายเยาวชนเอ็กโกไทยรักษ์ป่าที่เริ่มขึ้นเมื่อราว 27 ปีก่อน ซึ่งในขณะนั้นสังคมวงกว้างยังไม่ได้ตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อมมากนัก และค่ายสิ่งแวดล้อมสำหรับเยาวชนก็ยังมีไม่มาก
โดยแก่นของค่ายเยาวชนเอ็กโกไทยรักษ์ป่า คือ การเปิดโอกาสให้เยาวชนเดินทางเข้าไป “สัมผัสตรง” กับป่าต้นน้ำ รวมถึงอยู่ในค่ายฯ ที่แวดล้อมไปด้วยผู้คนรุ่นเดียวกันและผู้ที่สนใจงานอนุรักษ์ ซึ่งจะสร้างแรงบันดาลใจในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นการเอาความรู้สึกมาหุ้มความรู้ที่สอดแทรกอยู่ในกิจกรรมต่าง ๆ
“ค่ายเราอาจจะไม่ใช่ค่ายที่เน้นวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมมาก ๆ แต่เราเน้นไปที่ความรู้สึกที่ทำให้เด็ก ๆ ได้ซึมซับกับธรรมชาติ จุดประกายให้เขาสนใจที่อยากจะกลับไปสืบค้น ค้นคว้าต่อ ตัวกิจกรรมในค่ายจึงแบ่งเป็นเนื้อหาวิชาการประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ความรู้สึกและการสร้างแรงบันดาลใจจากการได้รู้จักและสัมผัสธรรมชาติ
โดยตรงประมาณ 40-50 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือจะเป็นการลงมือปฏิบัติ เพราะเราเชื่อว่าเวลาเราจะรักอะไร เราจะต้องรู้จักสิ่งนั้นก่อน รู้เพื่อจะรักอย่างเข้าใจ เรื่องธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมก็เช่นกัน” เลขาธิการมูลนิธิไทยรักษ์ป่า ขยายคอนเซ็ปต์ของค่ายที่นำไปสู่การออกแบบกิจกรรมที่ไม่ได้มุ่งไปที่ด้านทฤษฎีเท่านั้น แต่ยังเน้นจุดประกายให้เยาวชนเกิดความรักและอยากจะอนุรักษ์ผืนป่าแม้จะจบค่ายไปแล้ว
Sarakadee Lite เก็บตกภาพบรรยากาศสนุก ๆ ในค่ายมาฝากกัน ส่วนใครที่พลาดปีนี้ สามารถติดตามรายละเอียดค่ายเยาวชนเอ็กโกไทยรักษ์ป่ารุ่นต่อไปได้ที่ มูลนิธิไทยรักษ์ป่า
โฆษณา