4 พ.ค. เวลา 08:23 • ข่าว

โจ ไบเดนวิจารณ์ญี่ปุ่น อินเดีย เศรษฐกิจแพ้อเมริกันเพราะมัวแต่เป็นโรคกลัวคนต่างชาติ

ช่วงฤดูเดินสายหาเสียงเลือกตั้ง น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เมาท์มอย ขิง ข่า สนุกที่สุดของผู้นำสหรัฐฯ ที่ต้องลงชิงชัยรักษาตำแหน่งประธานาธิบดีต่อเป็นสมัยที่ 2 ไม่เว้นแม้แต่ ลุงโจ ไบเดน ก็ต้องสวมวิญญาณมั่น โอ้อวดความเป็นอเมริกันอย่างเต็มที่ให้สาแกใจผู้สนับสนุน
และเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2024 ที่ผ่านมา โจ ไบเดน ก็ได้มีโอกาสปราศรัยหาเสียงต่อหน้างานเลี้ยงชุมนุมผู้สนับสนุนของเขา ที่มีเป้าหมายในการระดมทุนเข้าแคมเปญหาเสียงเลือกตั้ง
โดย ไบเดน ได้กล่าวถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ เมื่อเทียบกับชาติคู่แข่งสำคัญ อาทิ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น รวมถึงรัสเซียว่า สหรัฐอเมริกามีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เหนือกว่าชาติเหล่านั้นมาก เพราะทั้ง ญี่ปุ่น อินเดีย หรือแม้แต่จีน และรัสเซีย ต่างล้มเหลวในการเก็บเกี่ยวประโยชน์ที่ได้จากบรรดาผู้อพยพย้ายถิ่นฐาน เพราะ พวกเขาเป็นโรคเกลียดกลัวคนต่างชาติ (Xenophobic)
"หนึ่งในหลายๆเหตุผลที่ทำไมเศรษฐกิจประเทศเราถึงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ก็เพราะพวกคุณ และผู้คนอื่นๆอีกมากมาย ทำไมหรือครับ? นั่นก็เพราะพวกเราต้อนรับผู้อพยพไงครับ"
"และลองหันมาดูเศรษฐกิจจีนสิ ทำไมถึงร่วงเอา ร่วงเอา ทำไมเศรษฐกิจญี่ปุ่นถึงย่ำแย่ รัสเซียก็ด้วย อินเดียก็เหมือนกัน ก็เพราะพวกเราเป็นโรคกลัวคนต่างชาติไงครับ พวกเขาเลยไม่ต้อนรับผู้อพยพ ผิดกับเราที่เปิดประตูต้อนรับเสมอ ซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้อเมริกาแข็งแกร่ง"
ถึงแม้งานนี้จะมีไม่การบันทึกภาพ หรือถ่ายทอดออกสื่อ แต่ก็มีสื่อมวลชนร่วมงานจำนวนมาก และได้นำเสนอเนื้อหาคำพูดของโจ ไบเดน ที่วิพากษ์ วิจารณ์บรรดาประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลก ที่เป็นคู่แข่งของสหรัฐ ซึ่งถ้าจะยกตัวอย่างเปรียบเปรยแค่จีน กับ รัสเซีย คงไม่มีใครแปลกใจแต่ พอมีการพูดถึงญี่ปุ่น กับอินเดียขึ้นมาเปรียบเทียบด้วย ที่ทำให้สื่ออเมริกันแปลกใจ
เพราะอย่างที่รู้กันทั่วว่าทั้งญี่ปุ่น และ อินเดีย ถือเป็นพันธมิตรที่สำคัญมากของสหรัฐ และยังจับมือเป็นจตุภาคีด้านความมั่นคง (Quad Group) พร้อมคำมั่นสัญญาว่าจะไม่แตกแถว มิหนำซ้ำ ทั้งนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดิ และ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คิชิดะ ฟุมิโอะ ก็เพิ่งมาเยือนสหรัฐเมื่อไม่นานมานี้เอง ตอนเจอหน้าก็จับมือหวานชื่นเสียดิบดี พอลับหลัง นินทาเขาเสียแล้ว😅
และคำพูดทุกคำของผู้นำสหรัฐ มักมีผลต่อกระแสสังคมทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้น เมื่อ โจ ไบเดน เลือกที่จะกล่าวพาดพิงถึงประเทศพันธมิตรใกล้ชิดเพียงเพื่อขิงอวดเศรษฐกิจของอเมริกัน จึงกลายเป็นข่าวพาดหัวแทบทุกสื่อในสหรัฐ ในทิศทางเดียวกันว่า ไบเดนวิจารณ์ ญี่ปุ่น และ อินเดียว่าเป็นโรคกลัวคนต่างชาติ
ด้าน คารีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาว ออกมาอธิบายถึงประเด็นที่โจ ไบเดน กล่าวหาว่า ญี่ปุ่น และ อินเดีย เป็นพวกเกลียดกลัวชาวต่างชาติว่า โจ ไบเดน ต้องการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างๆ เกี่ยวกับอินเดีย และ ญี่ปุ่น เท่านั้น และ พูดในฐานะที่ว่าสหรัฐเป็นชาติของผู้อพยพที่อยู่ใน DNA ของชาวอเมริกัน
ซึ่งเธอไม่คิดว่าการแสดงความเห็นของผู้นำสหรัฐในครั้งนี้จะกระทบความสัมพันธ์ที่ดีของทั้ง 2 ประเทศ แต่เมื่อถามว่า โจ ไบเดน จะแสดงความเห็นในลักษณะนี้อีกไหม โฆษกทำเนียบขาวก็ตอบทันทีว่า “นั่นก็ขึ้นอยู่กับท่านประธานาธิบดีค่ะ (ฉันไม่เกี่ยว)”
แต่ๆๆๆ สื่อสหรัฐได้ขุดพบว่า โจ ไบเดน เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อวิทยุภาคภาษาสเปนเมื่อเดือนมีนาคม โดยเรียก ญี่ปุ่น รัสเซีย และจีนว่าเป็น “คนเกลียดชาวต่างชาติ” มาก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งในคำสัมภาษณ์ ไบเดนได้กล่าวว่า “พวกคนญี่ปุ่น คนจีน เกลียดชาวต่างชาติ พวกเขาไม่ต้องการใครเลยนอกจากชาติตัวเอง รัสเซียก็เหมือนกัน พวกเขาไม่เอาคนอื่นนอกจากคนจีน ญี่ปุ่น หรือรัสเซียด้วยกัน”
มาล่าสุดคราวนี้ พ่วงอินเดียเพิ่มมาอยู่ในกลุ่มประเทศเกลียดคนต่างชาติในพจนานุกรมของไบเดนมาด้วยอีกประเทศ ซึ่งไม่รู้ว่าหาเสียงเดือนหน้า จะมีประเทศอื่นมาเพิ่มเข้ามาอีกหรือไม่
ด้าน อัลบริดจ์ โคลบี สมาชิกพรรครีพับลิกัน ได้ออกมาวิจารณ์คำพูดของโจ ไบเดน ผ่าน X ว่า ทั้งญี่ปุ่น และอินเดีย ถือเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และ สำคัญที่สุดที่สหรัฐมีในตอนนี้ ก็น่าจะพูดถึงพวกเขาให้มันดีๆหน่อย การใช้มุมมองของตัวเองเข้าไปวิจารณ์ประเทศอื่นเป็นการกระทำที่โง่เขลามาก
ซึ่งการแสดงความเห็นของโจ ไบเดน ที่ออกมาลักษณะนี้อาจเพราะเป็นงานเลี้ยงของกลุ่มผู้สนับสนุนที่มีคนเชื้อสายเอเชีย หรือ กลุ่มประเทศหมู่เกาะแปซิฟิค และ ชาวฮาวายร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก ที่ก็ต้องเอาใจกลุ่มผู้สนับสนุนที่เป็นลูกหลานผู้อพยพเป็นพิเศษ
และเมื่อมองในมุมมองของชาวอเมริกันที่เป็นสังคม Melting pot ที่มีคนหลายๆชาติไหลเทมาอยู่รวมกัน เขาก็คงจะมองว่าญี่ปุ่นมีปัญหาเรื่องการรับผู้ย้ายถิ่นฐานต่างชาติจริงๆ ด้วยตัวเลขชาวต่างชาติเพียง 2% ของประชากร ต่ำที่สุดในบรรดากลุ่มประเทศ G7 ส่วนอินเดียเองก็เพิ่งผ่านกฎหมายพลเมืองใหม่ ที่ให้สิทธิ์โอนสัญชาติแก่ชาวต่างชาติที่นับถือศาสนาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมเป็นพิเศษ
ซึ่งเงื่อนไขการรับคนย้ายถิ่นของญี่ปุ่น อินเดีย หรือชาติอื่นๆ ก็อาจจะอยู่ในบริบทที่ไบเดนไม่เข้าใจ เพราะประเทศอื่นๆ เขาก็ไม่เคยมีปัญหาที่มีผู้อพยพเดินเท้าข้ามชายแดนเข้ามาทีวันละหลายหมื่นคน จนต้องสร้างกำแพงกั้นอย่างที่สหรัฐเจอ
1
และการรับคนต่างชาติเยอะกว่า ไม่ได้หมายความว่า คนอเมริกันทั้งหมดจะไม่มีคนที่เกลียด-กลัว ชาวต่างชาติเลยซะเมื่อไหร่ เผลอๆ อาจจะเป็นหนักยิ่งกว่าชาติที่ลุงโจไปว่าเขาก็ได้นาจ๊า 🤭
1
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา