5 พ.ค. เวลา 04:00 • ความคิดเห็น

[Silence is Golden? เพราะจุดหมายปลายทางไม่ใช่ของเราคนเดียว]

Silence is Golden? ถ้านี่เป็นคำถาม บางทีคำตอบอาจขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนตอบ​เพราะคนเราย่อมไม่ได้ใช้นิยามเดียวกันไปหมดทุกเรื่อง
ชีวิตมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ให้คำตอบที่ถูกต้องที่สุดสำหรับทุกคนไม่ได้ นี่เป็นเรื่องที่ต้องเข้าใจตรงกันก่อนเป็นเบื้องต้น...
‘ความเงียบมีค่าดั่งทอง’ คำพูดเก่าแก่เขาก็ว่ากันแบบนั้น แต่ชีวิตของแต่ละคนก็ไม่ได้ต้องการความเงียบเสมอไป ความคึกคัก พลุกพล่าน อื้ออึง ทั้งหมดนี้คือความมีชีวิตชีวา ที่มีความหมายตรงข้ามกับความเงียบเหงาเศร้าซึม
ความเงียบ แทบจะเทียบเท่ากับความตาย หลายคนซาบซึ้งกับคำนี้ โดยเฉพาะคนทำงานค้าขาย
การเฝ้ามองดูร้านที่เงียบงัน ไร้ลูกค้าแวะเวียนมาอุดหนุน คือฝันร้ายที่ไม่มีใครอยากเจอ และช่วงโควิดที่ยาวนานนับปี ก็คือบทเรียนอันเจ็บปวดที่ทิ้งหลายคนไว้ข้างหลังแบบไม่มีวันไล่ตามใครทันอีกแล้ว ทั้งหมดนี้คือความจริงเสียยิ่งกว่าจริง
ส่วนตัวแล้ว เมื่อไหร่ที่มีวันหยุดยาวๆ การพุ่งออกไปเที่ยวนอกเมืองหลวง แล้วต้องไปแย่งกันกินแย่งกันใช้ น่าจะเป็นทางเลือกสุดท้ายถ้าจำเป็นต้องเลือก
แต่ในบางครั้ง วันเวลาพักผ่อนที่เหมาะสมก็มีอยู่อย่างจำกัดเหลือเกิน เมื่อเปลี่ยนวันพักผ่อนไม่ได้ ก็ต้องปรับสติให้พักให้ได้แม้จะยากเย็น
ที่พักที่ล้นไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศนี่ไม่ต้องพูดถึง ร้านกาแฟเชิงเขาที่มองออกไปเห็นทะเลกว้างสุดลูกหูลูกตานั้น..ไม่ใช่จุดหมายปลายทางของเราคนเดียว แต่เป็นจุดชมวิวมหาชน...หรือพูดให้ชัดกว่านั้น ก็คงเป็นจุดชมวิวของประชากรโลก
ความเงียบมีค่าดั่งทอง นาทีนี้คงไม่ใช่สำหรับเจ้าของร้าน เพราะเงินทอง ย่อมแลกมาด้วยความไม่เงียบ แต่สำหรับลูกค้าที่ต้องการความเงียบอย่างผู้เขียนและอีกหลายๆ คนนั้น
ความหมายของคำนี้ยิ่งชัดเจน ความเงียบมีค่ามาก แต่ไม่มากสำหรับคนอื่น
เคยมีคำพูดที่พูดกันเล่นๆ ว่า ไม่มี hidden place หรือร้านลับบนโซเชียลมีเดีย เพราะมันขัดแย้งกันเอง ถ้าอยากเป็นร้านลับ ก็ต้องเลือกที่จะมั่นคงอยู่กับลูกค้าที่รู้จักรู้ใจ รู้กันในหมู่ของคนจำนวนไม่มาก และนั่นหมายถึงการมีรายได้ในระดับที่อยู่ได้เพียงพอ โดยไม่จำเป็นต้องแมส
แต่ถ้าร้านเริ่มแมสแล้วละก็ สิ่งที่ตามมามันอีกเรื่อง...ผู้คนจะแห่แหนมาหาคุณจากทุกหนทุกแห่ง ถ้าร้านสวย เราจะได้เห็นคนมาถ่ายรูปกันเป็นล่ำเป็นสัน บางร้านก็ตั้งใจตกแต่งให้เหมาะสำหรับการถ่ายรูป หรือที่เรียกกันว่า Instagramable นั่นละ
ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไปแล้ว ถ้าเราจะเห็นร้านที่เต็มใจจัดเตรียมห้องไว้ให้ลูกค้าเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับถ่ายรูป ถ้าหากลูกค้าเต็มใจที่จะจ่ายในราคาที่ตกลง
ไม่น่าแปลกใจอีกเหมือนกัน ที่เห็นร้านขวัญใจมหาชนหลายร้าน ขึ้นป้ายให้สั่งเครื่องดื่มให้พอดีกับจำนวนคน ร้านสวยๆ ก็ต้องมองโลเคชั่นของตัวเองเป็นสินค้าแบบหนึ่ง ลูกค้าต้องการพื้นที่ทำคอนเทนต์แชร์ลงโซเชียลมีเดีย คนขายก็ต้องได้กำไรจากเรื่องนี้ ด้วยวิธีที่แล้วแต่จะตกลงกัน
ความเงียบสงบ จึงไม่ใช่สินค้าสำหรับร้านแบบนี้ ถ้าเราเลือกที่จะมา แปลว่าเรามาหาผิดที่ และต้องเป็นเรานั่นแหละที่ต้องเป็นฝ่ายเดินออกไปอย่างสะบักสะบอมทั้งทางหูและทางใจ
เพราะต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า จุดหมายปลายทางนี้ ไม่ใช่ของเราคนเดียว ถ้าเราเลือกเที่ยวตามกระแส ก็ต้องไปกับกระแส ต้องมีจิตใจตั้งมั่นที่จะฝ่ากระแสอันเชี่ยวกรากไปให้ได้ ตั้งสติให้อยู่กับคลื่นมหาชน ที่ทะลักเข้ามาที่ร้าน (โดยไม่มีทีท่าว่าจะลดราวาศอกไปง่ายๆ) เพราะที่ชอบของเรา มันเป็นที่ชอบของคนอื่นด้วย ใครก็อยากไปที่ชอบ ที่ชอบ จริงมั้ย
คนไม่ชอบความคึกคัก ไม่ชอบความพลุกพล่าน ก็ต้องรู้จักตัวเองให้ชัด เอาให้แน่ใจว่า ทางเดินของเราอาจจะต้องอยู่บนเส้นทางเดียวกับหอยทาก ต้องห่างไกลความเจริญพลุกพล่านสักนิด เดินป่าก็ได้ หรือจะเดินขึ้นบันไดไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาที่ต้องขึ้นบันไดขั้นต่ำสักร้อยสองร้อยขั้น ก็ไปตามใจฝัน
นั่นละ เงียบจริง สงัดจริง แต่จะไปได้จริงแค่ไหนนั่นอีกเรื่อง
แต่อย่าถึงกระนั้นเลย...โลกไม่ได้ขาดแคลนทางเลือกถึงเพียงนั้น เพราะถึงที่สุดแล้ว เราอาจแค่ต้องเลือกวิถีการท่องเที่ยวในแบบที่เหมาะสมกับตัวเอง
และอย่าถามหาความเงียบสงบจากสถานที่ๆเขาไม่ได้ขายความสงบ
แม้่ว่าหลายหนระหว่างทาง เราอาจค้นพบความสงบจากการขับรถทางไกลเพียงลำพัง หรือไปกับคนที่เห็นคุณค่าของความเงียบพอๆ กับการสนทนาในบางจังหวะเวลา
แต่อาจต้องเตรียมใจว่า เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง ความเงียบที่มีค่าดั่งทอง อาจไม่ใช่สิ่งที่เราพบเจอเสมอไป แม้จะตั้งใจมาขุดทองที่นี่ก็ตาม
สถานที่อาจสวยงาม แต่คนและนิสัยใจคอของคนนั้นหลากหลายเกินจะกล่าว บางคนไปเที่ยวแบบเคารพพื้นที่ของคนอื่น อยู่อย่างสงบไม่รบกวนใคร แต่บางคนก็ตั้งใจไปหาสถานที่เงียบสงบ เพื่อทำลายความเงียบด้วยเสียงพูดคุยและเสียงเพลงที่เปิดสุดโวลุ่มจนลำโพงแทบแตก
ที่พักราคาแพงหลายต่อหลายแห่ง จึงไม่ได้แพงเพราะวิวหลักล้าน แต่เพราะมีความเงียบหลักตั้งแต่หลายพันจนถึงหลักล้านไว้ขายเป็นแพคเกจด้วย
เป็นความเงียบที่มีราคาแพงลิบ และหลายคนก็พร้อมจะจ่าย
หลายปีก่อน ผู้เขียนซื้อหนังสือท่องเที่ยวเล่มหนึ่งที่ว่าด้วยสถานที่เงียบๆ หรือ quite place ในเมืองใหญ่ วันนั้นรู้สึกแปลกใจที่คนเราถึงขั้นต้องเก็บรวมรวมสถานที่เงียบๆ ไว้เป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไป มาถึงวันนี้ ไม่แน่ใจว่าสถานที่พวกนั้นยังอยู่ดีมีสุข หรือถูกคลื่นมหาชนที่ต้องการความเงียบ ถาโถมเข้าใส่จนไม่เหลือความเงียบแล้วหรือเปล่า
แต่วันนี้ก็ชัดเจนแล้วว่า ความเงียบเป็นของหาได้ยาก เป็น rare item แห่งยุคสมัย ใครพบเจอแล้วควรรักษาไว้เป็นที่มั่น ขอให้คิดว่านั่นคือขุมทรัพย์ที่ไม่ต้องโพนทะนาบอกให้ใครมาขุดหาเป็นเพื่อน
วันที่ผู้เขียนถ่ายภาพนี้ไว้ เบื้องหลังคือสารพัดมนุษย์มนาที่เดินกันขวักไขว่เพื่อหามุมถ่ายรูปที่สวยที่สุดเพื่อแจ้งให้โลกทราบ และในอีกมุมของร้าน มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่กำลังสนทนาอย่างเมามันว่าด้วยการท่องเที่ยวในครั้งหน้าที่จังหวัดนครพนม แม้การท่องเที่ยวในครั้งนี้ยังไม่สิ้นสุด และไม่แน่ใจว่ามันเริ่มต้นอย่างจริงจังแล้วหรือยัง
แต่เบื้องหน้าผู้เขียน คือทะเลที่สวยจับใจ และคนที่อยู่ตรงกลางภาพนั้น คนที่เป็นเจ้าของความเงียบสงบที่สุดตรงจุดนั้น คือคนหาปลาบนเรือลำเล็กๆ
เป็นวิวหลักล้าน ที่ต้องใช้เรี่ยวแรงในการพายเรือไปให้ถึง ไม่ได้บอกว่านั่นคือภาพโรแมนติกแต่อย่างใด เพราะชีวิตที่ทำมาหากินก็คือความเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัสอย่างที่เรารู้กันอยู่
ความเงียบที่มีค่าดั่งทอง คนหาปลาก็ย่อมต้องการไม่ต่างกัน
เพียงแต่ว่านาทีนั้น...ทุกคนล้วนใช้ชีวิตของตัวเอง ที่บางทีก็ไม่รู้ว่าใครควรอิจฉาใครดี
#NotetoSelfbyWA
#SilenceisGolden
#วิไลรัตน์เอมเอี่ยม
โฆษณา