5 พ.ค. เวลา 05:54 • บันเทิง

“เดี่ยว” ครั้งนี้ Soft Power หรือ No Power

ช่วงวันสองวันนี้เห็นคนพูดเรื่องเดี่ยวไมโครโฟนของพี่โน้ส อุดมเยอะมากในโพสต์ เข้าใจว่าส่วนหนึ่งน่าจะเป็นแรงโปรโมทจาก Netflix เอง แต่อีกส่วนน่าจะเป็นกระแสที่มาจากประเด็น Generation Gap หรือเรื่องพอเพียงที่ยกมาคุยในโชว์ เอาจริงๆนะ ประเด็นที่ยกมาก็เถียงกันได้ไม่จบไม่สิ้นหรอก เพราะประชากรสองฝั่งเค้าเชื่อของเค้าเยอะกันทั้งคู่ เราตั้งคำถามพื้นฐานว่า เราจะดูพี่โน้สเอาบันเทิงจากวิธีการเล่าและเนื้อหาที่ฟังเพลินๆ หรือเราจะเอาให้เค้าต้องคิดแบบเรา เราถึงจะบันเทิง
เราเอง เอาจริงๆก็ไม่ได้เป็นแฟนพี่โน้สนะ แต่ก็ไม่เคยเหม็นใดๆเค้า คือ ไม่ได้ตามดูทุกเดี่ยว เคยไปเป็นสตาฟงานเดี่ยวครั้งแรกๆเลยด้วย แต่เอาจริงๆเรารู้สึกว่าเห้ย ทำไมครั้งนี้พี่โน้สพูดถึงคนรุ่นเก่าเหมือนเค้าไม่เติบไม่โตเลยล่ะ โอเค ชุดความรู้ที่พวก X เรียนมา มันยังเป็น Analog ไง อะไรๆก็ยาก ใช้เวลา ใช้อุปกรณ์และต้องการทรัพยากรเงินในการซื้อหามา แต่ X นี่ก็พัฒนาไปกับเวลานะ เป็นคนกลุ่มที่สร้างประตูไว้ให้กระแสมันไหลบ่าเข้ามา สร้างทางตั้งแต่ต้นสายจนปลายทางไว้ให้เราเดิน เป็น Pioneer ในยุคของเค้า
ที่พี่โน้สพูดเรื่องป๋องนมนะ เอาจริงวิวัฒนาการมันก็มีทุกวงการอะแหละ ยิ่งวงการไหนผู้บริโภคไดนามิคมาก มันยิ่งไปไวเลยแหละ แล้วไอ้วิวัฒนาการจากป๋องนมมาเป็นนมข้นหลอด ใครเป็นคนคิด คนแก้ปัญหา ถ้าไม่ใช่คน X กับ Y แล้ว Z ก็เป็นคนมาใช้งานอะ มันไม่ใช่ว่าดีดนิ้วแล้วทุกอย่างจะเปลี่ยน มันมีกระบวนการ มี Process มีการขับเคลื่อน แล้วคนทุกรุ่นก็ร่วมกันอยู่ในกระบวนการนั้น ไม่ใช่ gen ไหนอยู่เฉพาะตอนใดตอนหนึ่ง ดังนั้นทุกคนเรียนรู้ร่วมกันค่ะ ไม่เบลม Gen ใด Gen เดียวดีไหม
อีกหลายเรื่องที่ในโชว์ที่เรามีประเด็นคิดแย้ง แต่สิ่งหลักๆที่เรารู้สึกเลยว่าเดี่ยวครั้งนี้ No Power คือเรารู้สึกว่า ทำไมพี่โน้สเข้าข้างเด็กรุ่นใหม่แล้วพูดอะไรเหมือนมองด้านเดียวไปหมด มองความพอเพียงด้านเดียว มอง Generation Gap ด้านเดียว มองอีกหลายๆอย่างจากมุมมองเดียวแล้วตัดสินไปเลยว่าใครคือคนได้ไปต่อในเวลานี้ เอาจริงๆ โลกเราทุกวันนี้มันซับซ้อนและหลากหลายมากจนเกินกว่าจะจับใครแยกจากใครนะ เพราะทุกคนเกี่ยวโยงเชื่อมร้อยกันหมด แล้วเราคิดว่ามันก็ทุก gen และทุกความเชื่อแหละที่ต้องปรับตัว
เราว่า Soft Power คือพลังของการเห็นคุณค่าของความคิดสร้างสรรค์ว่ามันสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้เป็นรูปเป็นร่าง เมื่อก่อนไม่เคยมีใครคิดมุมนี้ เพราะแนวทางการพัฒนาของโลกมันไปติดอยู่กับเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการค้าขายของที่เป็นรูปธรรม มันไม่ใช่แค่ไทยแต่มันเป็นกันทั้งโลก พอเดี๋ยวนี้ทรัพยากรมันจะหมดโลก เราเลยต้องมาจ้องกันที่ทรัพยากรทางความคิดที่มันจะไม่มีวันหมด ตราบใดที่มนุษย์ยังไม่สิ้นสลายไปจากโลกไงล่ะ
40-50 ปีที่แล้วใครมันจะไปคิดออกว่าเป็น Entertainer จะรวยขนาดนี้ ก็ตอนนั้นโลกเค้าพัฒนากันในกระแสอื่น ดาราแต่ก่อน Suffer จะตาย ไม่ต้องเฉพาะไทยนะ ต่อให้เป็นดารา Hollywood ก็เหอะ ฆ่าตัวตาย พึ่งยาเสพติดจน overdose ตายกันเยอะแยะ ใครมันจะไปคิดได้ตอนนั้น ดังนั้น อดีตไม่ได้ผิด มันเป็นแค่แนวทางของวันนั้น และอดีตหลายๆวันต่อกันมันก็เปลี่ยนแปลงมาจนวันนี้ไง
ส่วนตัวคิดว่าเดี่ยวนี้ No Power ในเรื่องที่จะ Reinforce สังคมไปทางใด มันจะฟังเพลินบ้าง ขำบ้าง หลับบ้าง แต่มองอะไรด้านเดียวและไม่ได้สร้างพลังให้เราอีกแล้ว แต่คิดว่ามันคงสร้างพลังให้เด็กๆ Gen Z ได้เยอะ แม้จะเห็นอยู่นิดๆว่าผิดทางก็ตาม
โฆษณา