อย่างงานแต่งครั้งนี้ B ก็ไม่ต้องจ่ายสินสอดเองสักหยวน
เพราะคนที่เป็นฝ่ายหาสินสอดมาวางในงานครั้งนี้
คือฝั่งครอบครัวของ A
A ที่ได้ยินแบบนี้ก็เริ่มมีอาการหน้าถอดสีอย่างเห็นได้ชัด
จากนั้นเพียงไม่กี่นาที A ได้ตัดสินใจถอดเสื้อคลุม ถอดเครื่องหัว ก่อนจะเดินลงจากเวทีและเดินออกจากงานไปเลยโดยไม่สนใจว่าแขกที่อยู่ในงานจะว่ายังไง
สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือ A ได้ประกาศยกเลิกงานแต่งทั้งหมด และขอยุติความสัมพันธ์ทุกอย่างกับ B ทันที
A มาเผยเหตุผลภายหลังถึงการตัดสินใจนี้ว่า
ครอบครัวของ A นั้นมีฐานะมากกว่าครอบครัวของ B แต่ถึงอย่างนั้น A ก็ไม่ได้สนใจและคบหากับ B เรื่อยมาจนถึงวันที่ตัดสินใจแต่งงานกัน
A ที่เข้าใจสถานะทางการเงินของ B เลือกที่จะไม่รับสินสอด แต่ด้วยประเพณีต่าง ๆ ครอบครัวของ A จึงเอาเงินและทรัพย์สินส่วนตัวมาวางไว้ราวกับว่านั่นคือสินสอดที่ B มอบให้
แต่พอ A มาได้ยินคำพูดของแม่ B เท่านั้นแหละ ความรู้สึกที่ว่าเธอคงอยู่กับคนทัศนคติแบบนี้ไม่ได้แน่ ๆ ก็ผุดขึ้นมา
A มองว่าสิ่งที่แม่ของ B พูดนั้นเป็นการพูดเอาดีเข้าลูกชายตัวเอง และไม่ให้เกียรติครอบครัวของ A เลยแม้แต่น้อย
เพราะมันทำให้ทุกคนคิดว่าครอบครัวของ A ต้องไปสู่ขอเพื่อให้ได้ B มาเป็นลูกเขย
สุดท้าย A จึงคิดว่าทนอายที่ยกเลิกงานแต่งตอนนี้ดีกว่าต้องไปทะเลาะกันให้วุ่นวายใจในอนาคตนั่นเอง