9 พ.ค. เวลา 17:00 • ธุรกิจ

ดอกเบี้ยเหมือนกับทราย ยิ่งเยอะยิ่งดี

หลายๆ โพสต์ที่ผ่านมา Easy Finance ได้นำเสนอทั้งเรื่องการเงิน การกู้ กลไกการเงิน และค่าของคำว่าเงิน
เรื่องพวกนี้ทั้งถือว่าเป็นเรื่องพื้นฐานของการเงินเลยก็ว่าได้ วันนี้ทาง Easy Finance ได้คิดแล้วว่าได้เวลาที่จะบอกเรื่องราวของการเงินที่ทุกคนต้องเจอกัน และได้เตรียมตัวเตรียมความพร้อมในทางการเงินของทุกคน มาเริ่มต้นกันที่ดอกเบี้ย
ดอกเบี้ยคืออะไร ดอกเบี้ยคือเงินที่ผู้อ่านจะได้จากการออมเงินฝากกับทางธนาคาร ดอกเบี้ยก็จะได้จากการลงทุนถือว่าเป็นผลตอบแทนด้วยเช่นเดี๋ยวกัน หรือผู้อ่านจะเป็นคนปล่อยเงินกู้ให้กับเพื่อน ผู้อ่านก็จะได้ดอกเบี้ยจากการปล่อยกู้ของเพื่อนด้วย ซึ่งทางผู้ปล่อยเงินกู้จะต้องคิดเปอร์เซ็นต์เช่น 3% 5% 20% ของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ถูกกำหนดจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย
ดอกเบี้ยเงินฝาก เป็นผลตอบแทนที่สถาบันการเงินจ่ายให้กับผู้ฝากเงิน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากมีหลายอัตรา ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการฝากเงินและเงื่อนไขการถอนเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ยของบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่สามารถถอนเงินได้ตลอดเวลา จะต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน หรือ 6 เดือนดอกเบี้ยเงินฝาก และยิ่งฝากเงินไว้มากก็เท่าไร ก็จะเป็นผลที่ได้กับผู้อ่านในอนาคตอย่างแน่นนอน
การคำนวณอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะคิดดอกเบี้ยแบบทบต้น (Compound Interest Rate) โดยนำดอกเบี้ยที่ได้รับในงวดก่อนหน้า มารวมเป็นเงินตั้งต้นเพื่อคำนวณดอกเบี้ยในงวดต่อไป พูดง่าย ๆ ก็คือ “ดอกเบี้ยของดอกเบี้ยหรือดอกเบี้อทบต้น” ดอกเบี้ยของดอกเบี้ยหรือดอกเบี้ยทบต้นยิ่งมากเท่าตัวคูณในสูตรคำนวณตอนจบก็จะมากเท่านั้น ผู้อ่านสามารถมีเงินล้านได้ง่ายๆ จากดอกเบี้ยของดอกเบี้ยหรือดอกเบี้ยทบต้น นั่นเอง
ดอกเบี้ยเงินกู้ เป็นผลตอบแทนที่ผู้ขอกู้จ่ายให้กับผู้ปล่อยกู้ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มีหลายอัตรา ขึ้นอยู่กับประเภทของเงินกู้
วิธีการคิดดอกเบี้ยเงินกู้ที่พบได้บ่อย ๆ มีอยู่ 3 แบบ คือ
1. เงินกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate Loan) อัตราดอกเบี้ยจะไม่ปรับเปลี่ยนขึ้นหรือลงตามสถานการณ์หรือต้นทุนทางการเงินของสถาบันการเงิน ดังนั้น เงินที่ชำระในแต่ละเดือนก็จะคงที่ตลอด เช่น เงินกู้ซื้อรถ เป็นต้น
2. เงินกู้อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate Loan) อัตราดอกเบี้ยอาจปรับเปลี่ยนไปตามประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคารในแต่ละช่วงเวลา และสถานการณ์ของโลก ณ ช่วงเวลานั้นด้วย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเงินงวดที่ชำระในแต่ละเดือนได้
3. เงินกู้อัตราดอกเบี้ยแบบผสม (Mixed Rate Loan) อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นในช่วงแรก จากนั้นจะปรับเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เช่น 4 ปีแรก ดอกเบี้ยคงที่ 3.5% หลังจากนั้นเป็นดอกเบี้ยลอยตัวแบบ MLR – 1 หรืออาจเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นแบบขั้นบันได จากนั้นค่อยปรับเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เช่น 2 ปีแรก ดอกเบี้ย 2% ปีที่ 3 ดอกเบี้ย 3% ปีที่ 4 และ 5 ดอกเบี้ย 4% หลังจากนั้นคิดดอกเบี้ยลอยตัวแบบ MLR + 1 เป็นต้น
แต่ในหลายๆ คนมองเห็นว่าการกู้หรือปล่อยกู้เป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะเราได้ถูกสอนให้คิดแบบนั้นเราเลยไม่กล้าที่จะกู้เพื่อทำอะไรสักอย่าง จนเราทุกคนได้เป็นมนุษย์เงินเดือนที่ไม่สามารถออกมาได้ และต้องวนลูปไปเรื่อยๆ เหมือนกับทาสในยุคสมัยใหม่
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
ดอกเบี้ยเหมือนกับทราย
ยิ่งมากยิ่งดี
Easy Finance

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา