26 เม.ย. 2018 เวลา 00:50 • ธุรกิจ
เวียดนามในวันนี้ โตเร็วขนาดไหน? / โดย ลงทุนแมน
ใครจะไปคิดว่า เวียดนามซึ่งเคยตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส
และเคยผ่านศึกสงครามมายาวนาน
แต่เวียดนามในวันนี้ได้เปลี่ยนไปจากอดีตจนแทบจะเรียกว่าพลิกฝ่ามือ
จนตอนนี้ได้กลายมาเป็นเสือเศรษฐกิจตัวใหม่อย่างเต็มตัวแล้ว
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ทุกคนทราบดีว่า เวียดนามเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบบสังคมนิยม
ทำให้ในอดีตโดยเฉพาะก่อนการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ เวียดนามจึงเน้นความสัมพันธ์แต่เพียงประเทศสังคมนิยมด้วยกันไม่กี่ประเทศ
เช่น อดีตสหภาพโซเวียต ประเทศในยุโรปตะวันออกบางประเทศ และเกาหลีเหนือ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ปี 1986 เวียดนามมีนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจ “โด่ย เหมย” (Doi Moi) ที่มุ่งเน้นระบบเศรษฐกิจแบบกลไกตลาด ลดการผูกขาดของภาครัฐ และเพิ่มเสรีทางการค้าและการลงทุนในภาคเอกชน
ทำให้ประเทศแห่งนี้มีการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างก้าวกระโดด
ปี 2017 เวียดนามมีจำนวนประชากรกว่า 95 ล้านคน มากเป็นอันดับที่ 15 ของโลก อันดับ 8 ของเอเชียและอันดับที่ 3 ของอาเซียน โดยในจำนวนนี้เป็นประชากรที่อยู่ในวัยแรงงาน (15 - 64 ปี) กว่า 56 ล้านคน
ระบบการศึกษาของเวียดนามมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการที่จำนวนโรงเรียนประถมและมัธยมในเวียดนามมีคุณภาพสูงมาก
การจัดอันดับคะแนน PISA ในปี 2015 ซึ่งวัดผลคะแนนวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์จากจำนวนนักเรียน 540,000 คน จาก 72 ประเทศ เวียดนามอยู่ลำดับที่ 22 ในวิชาคณิตศาสตร์และลำดับที่ 8 ในวิชาวิทยาศาสตร์
จำนวนนักศึกษาที่เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นจาก 133,000 คน ในปี 1987 มาสู่ 2.1 ล้านคนในปี 2015
จำนวนนักเรียนชาวเวียดนามที่ไปเรียนต่อยังต่างประเทศมีจำนวนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2005 นักเรียนชาวเวียดนามที่ไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกามีจำนวน 3,670 คน แต่ 10 ปีต่อมาจำนวนนี้ได้เพิ่มขึ้นกว่า 18,722 คน
ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนาม ต้องบอกว่าน่าทึ่ง เพราะตลอด 17 ปีที่ผ่านมา GDP เติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 5% มาโดยตลอด แม้ในช่วงวิกฤติสินเชื่อซับไพรม์ในปี 2008 - 2009 GDP ของเวียดนามยังโตเฉลี่ยกว่า 5.6%
มองเป็นภาพใหญ่ ถ้าถามว่าประเทศไหนโตสุดในโลกใบนี้ ทุกคนคงนึกถึงประเทศจีน
แต่รู้ไหมว่า
ในช่วงปี 1990 - 2016 เศรษฐกิจของเวียดนามเติบโตมากที่สุดเป็นลำดับ 2 ของโลกเป็นรองเพียงจีนประเทศเดียว
1
ปี 2015 มูลค่าของ GDP 5.9 ล้านล้านบาท
ปี 2016 มูลค่าของ GDP 6.2 ล้านล้านบาท
ปี 2017 มูลค่าของ GDP 6.7 ล้านล้านบาท
รายได้เฉลี่ยต่อประชากร (GDP per capita) ของเวียดนามยังคงปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปี 2015 รายได้เฉลี่ยต่อประชากร 64,997 บาทต่อปี
ปี 2016 รายได้เฉลี่ยต่อประชากร 67,301 บาทต่อปี
ปี 2017 รายได้เฉลี่ยต่อประชากร 71,486 บาทต่อปี
การที่เศรษฐกิจของเวียดนามเติบโต จึงดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
ปี 2000 การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่เข้าสู่เวียดนามมีจำนวน 40,000 ล้านบาท
แต่ในปี 2016 มูลค่าดังกล่าวเพิ่มขึ้นถึง 390,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่าในเวลา 16 ปี
หลายปีที่ผ่านมาบริษัทชั้นนำของโลกอย่างซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ได้ประกาศการลงทุนในเวียดนามจำนวนมหาศาล
ถึงต้นปี 2017 มูลค่าเงินลงทุนของซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ที่เข้าสู่เวียดนามแล้วไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท
แม้แต่ไทยเบฟ ผู้ผลิต เบียร์ช้าง ของไทย ได้ให้บริษัทลูกอย่าง BeerCo Limited เข้าไปลงทุนผ่านการถือหุ้น Saigon Beer Alcohol Beverage Corp. ในจำนวนเงินลงทุนกว่า 150,000 ล้านบาท โดยบริษัทแห่งนี้มียอดขายเกือบ 40% ของตลาดเบียร์เวียดนาม
นอกจากนี้ เวียดนามได้มีการจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์ครั้งแรกในปี 2000 ซึ่งในช่วงแรกมีหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เพียง 4 - 5 หลักทรัพย์ ทำให้ไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากนัก
แต่ปัจจุบัน เวียดนามมีตลาดหลักทรัพย์ 2 แห่งคือ ตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ และตลาดหลักทรัพย์ฮานอยมีจำนวนบริษัทจดทะเบียนรวมกันไม่ต่ำกว่า 1,000 แห่ง
มูลค่า Market Cap. ของตลาดหลักทรัพย์ทั้ง 2 แห่งเท่ากับ 2.4 ล้านล้านบาท
จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมวันนี้เวียดนามสามารถก้าวกระโดดเป็นเสือเศรษฐกิจตัวใหม่ของเอเชียได้ และดูแนวโน้มแล้ว
เสือตัวนี้ยังคงไม่หยุดโตและพร้อมที่จะวิ่งไปข้างหน้า พร้อมที่จะแซงช้างที่หลับอยู่ในอีกไม่นานนี้..
<ad> ตลาดหุ้นเวียดนาม! ไปดูกันหน่อยไหม?
Tour. Learn. Earn more. เที่ยวไปหาหุ้นไป 27-29 พ.ค. นี้ ที่ Ho Chi Minh City
จัดโดย VVI group ดูรายละเอียดและสมัครได้ที่: https://www.facebook.com/vvinvestor/posts/2017108628513995
โฆษณา