"เกลือ"ทำให้ความดันพุ่งได้อย่างไร? l By เฮลท์สตอรี่
คำเตือนที่แสนน่าเบื่อ"กินเค็มจะทำให้ความดันพุ่ง"
ช่างเป็นคำเตือนที่ทำลายความสุขในการกินอาหารของพวกเราเสียจริงๆ
วันนี้ เฮลท์สตอรี่จะมาสรุปให้ฟังชัดๆว่า"ทำไมเกลือถึงทำให้ความดันพุ่ง"ครับ
Shutterstock/Angelus_Svetiana
ร่างกายมนุษย์นั้นมีน้ำไหลเวียนอยู่มากมาย รวมถึงในเส้นเลือด
โดยเลือดก็คือส่วนหนึ่งของน้ำในเส้นเลือดนั่นเอง
พวกเราหลายๆคนอาจคิดว่าน้ำส่วนใหญ่ในร่างกายนั้นอยู่ในเส้นเลือด...
แต่ในความจริงแล้ว
น้ำในเส้นเลือดเป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวประมาณ"1ใน12"ของน้ำทั้งหมดในร่างกายเท่านั้นเอง!
แล้วน้ำส่วนใหญ่ไปอยู่ที่ไหน?
น้ำส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในเส้นเลือด แต่อยู่นอกเส้นเลือด โดยเฉพาะภายในเซลล์ร่างกายครับ
นี่คือสมดุลน้ำที่สำคัญ
ลองคิดว่าถ้ามีน้ำนอกเส้นเลือดไหลเข้ามาในเส้นเลือดเป็น"6ใน12"แทนสิครับ
เส้นเลือดของพวกเราก็จะอ้วนป่องขึ้น และสิ่งนี้ก็จะทำให้"แรงดันในเส้นเลือดพุ่ง"ครับ
แล้วสิ่งใดล่ะที่มาคอยควบคุมไม่ให้น้ำไหลเข้าออกเส้นเลือดได้ตามอำเภอใจ
พวกเรามีสารหลายตัวที่มาคอยทำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่นี้อยู่
แต่ตัวที่สำคัญที่สุดคือ"โซเดียม หรือเกลือ"นั่นเองครับ
"โซเดียมคลอไรด์(NaCl)หรือเกลือ"คือหนึ่งในสารที่เรียกได้ว่าละลายน้ำได้ดีที่สุดในโลก
เรียกได้ว่าน้ำไปที่ไหน เกลือจะขอตามไปด้วย
และเกลือไปที่ไหน น้ำก็จะขอตามไปด้วยเช่นกัน
บทความนี้ขอเรียกสั้นๆว่า”โซเดียม”นะครับ
โซเดียมเหล่านี้ จะอยู่ทั้งในเส้นเลือดและนอกเส้นเลือด คอยทำหน้าที่ดูดน้ำไว้ให้อยู่กับตนเอง
เหมือนดั่งการเล่นชักกะเย่อ ที่ต่างฝ่ายต่างดึงน้ำเอาไว้ ไม่ยอมให้ไหลเข้าไปในอีกฝ่าย
ปกติร่างกายได้จัดสรรเหล่าโซเดียมนี้ไว้อย่างเท่าเทียมกันเลยทีเดียว
เพื่อไม่ให้มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต่อสู้ชนะในเกมนี้
แต่แล้ว…มนุษย์ก็คือผู้ทำลายความเท่าเทียมนี้
เมื่อพวกเราได้กินอาหารโซเดียมสูงเข้าไป
โซเดียมจำนวนมากจะถูกดูดซึมเข้าไปสมทบกับเหล่าโซเดียมในเส้นเลือดอย่างทันที
และเมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น…
โซเดียมที่อยู่นอกเส้นเลือดก็จะเเพ้เกมนี้ด้วยความไม่เท่าเทียมกันของผู้เล่น และปล่อยให้น้ำถูกดึงไหลเข้าไปในเส้นเลือดทันที!
อย่างที่ได้เล่าไปในตอนต้นครับ
เส้นเลือดพวกเราที่มีน้ำมากขึ้น ก็จะทำให้"แรงดันในเส้นเลือดพุ่งขึ้น"อย่างไม่ต้องสงสัย
และในพวกเราหลายๆคน แรงดันอาจพุ่งจนน้ำรั่วออกเส้นเลือด แล้วทำให้หน้าบวมตัวบวมกันเลยทีเดียว!
บทความนี้ได้กล่าวอย่างสรุปและตัดรายละเอียดยากๆบางส่วนไปเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
หวังว่าบทความนี้จะทำให้คนอ่านได้รับความรู้ในด้านใหม่ๆนะครับ
#Healthstory
ติดตามเรื่องราวเฮลท์ตี้ดีๆได้ที่
Facebook page www.facebook.com/HealthstoryThailand
อย่าลืมกดLike&Shareด้วยนะครับ!!!
____________________
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
