1 ธ.ค. 2018 เวลา 16:18 • ความคิดเห็น
วิธีแก้ปัญหารถจักรยานยนต์บนทางเท้า
ปัญหาการขับขี่มอไซค์บนทางเท้า เป็นปัญหาที่อยู่คู่สังคมไทยมาอย่างช้านาน คนใช้ทางเท้าทำได้แค่ทนๆกันไป เพราะไม่อยากมีเรื่อง ใครที่ทนไม่ไหวก็ถ่ายคลิปประจาน บานปลายหน่อยก็ทะเลาะวิวาทกันไปเลย
ปัญหานี้ ถ้าไม่มีคนเจ็บหรือตายซะก่อน ก็คงไม่มีใครสนใจ แต่ก็พอเข้าใจได้ ด้วยหลักการเหตุและผล ประเทศนี้ต้องเกิดปัญหาขึ้นมาซะก่อน จึงจะคิดหาหนทางแก้ไข ผุดโครงการ ปรับกฎหมายนี่นั่นมาทีหลัง แก้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็อีกเรื่องนึง
เอาล่ะ.. ก่อนที่จะเป็นการบ่นไปมากกว่านี้ เรามาเข้าใจปัญหาของคน เอารถมอเตอร์ไซค์มาขี่บนทางเท้าก่อนดีกว่า จะได้แก้ปัญหาถูกจุด
ทำไมไม่ไปขี่บนถนน?
1.ความเห็นแก่ตัว มักง่าย รักสบาย ขาดจิตสำนึก อันนี้ผมให้เป็นเหตุผลหลัก คิดเป็นเกือบ 70% ของการเอารถมาขี่บนฟุตบาท
2.ถนนประเทศไทย ไม่เอื้อต่อการสัญจร พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ โครงสร้างของถนนไม่เอื้อต่อการขับขี่ ต้องเข้าใจว่า เวลาที่เราต้องการจะไปปากซอยข้างๆ เดินไปใช้เวลา 5 นาที ขี่มอไซค์ย้อนสอนบนฟุตบาท ใช้เวลา 2 นาที ขี่ไปบนถนนเพื่อยูเทิร์นสองรอบมาเข้าซอยใช้เวลา 15-20 นาที ลองคิดในมุมของวินมอไซค์ จะเลือกทางไหน 2 หรือ 20 นาที
3.ประเทศไทยมันร้อน.. ทนรถติดบนถนน ก็เหมือนเอาชีวิตไปทิ้ง พวกนั่งอยู่ในรถมีแอร์ไม่รู้หรอก..
และเหตุผลอื่นๆ แต่หลักๆก็คือ 3 ข้อนี้
จะแก้ปัญหานี้อย่างไร?
1.การปรับทรรศนะคติ ปลูกฝังจิตสำนึก ความรับผิดชอบต่อส่วนรวม สิ่งนี้แก้ยากสุดครับ คือคนในสังคมต้องมีแนวคิดไปในทางเดียวกัน ปัญหานี้จึงจะแก้ได้
ถ้าเราเป็นคนเดินเท้าแล้วโดนเอาเปรียบโดยคนขี่มอเตอร์ไซค์ เราต้องไม่ยอมครับ แสดงให้เห็นไปเลยว่าเราไม่พอใจที่โดนเอาเปรียบ แต่ส่วนใหญ่ที่เป็นอยู่ ไม่ใช่ไง เราก็ปล่อยผ่านไป สังคมก็ย้ำอยู่กับที่ ไม่เปลี่ยนแปลง สิ่งนี้ต้องเริ่มจากตัวเราเองก่อน ผมว่าสังคมมันจะค่อยๆเปลี่ยนไปเอง อย่าเพิ่งคิดว่าเราเปลี่ยนสังคมไม่ได้ ลองปรับและช่วยกัน ผมเชื่อว่าทำได้
ส่วนคนที่ใช้บริการมอไซค์รับจ้าง หากคุณต้องการเปลี่ยนแปลง บอกเค้าไปเลยครับ ว่าคุณยินดีจ่ายเงินเพิ่ม หากมันจะใช้ระยะทางมากกว่าเดิม คุยกันดีๆ ผมเชื่อว่าถ้าเค้าได้เงินมากขึ้น เค้าก็ไปครับ แต่ก็นั่นแหละ คนแบบนี้มันหายากไง แต่ถ้าคุณแคร์กับสายตาดูถูกเหยียดหยามของคนเดินเท้า คุณก็ควรจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แล้ว ไม่ใช่แค่รอให้เป็นหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แบบนั้นรอไปอีกร้อยปี ก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้หรอกครับ
2.รัฐต้องมีส่วนเข้ามาช่วยในการสร้างความสะดวกสบาย ให้กับผู้ขับขี่ คือถ้าผมต้องการขี่รถไปซอยข้างๆ มันก็ควรจะมีถนนให้ผมไป โดยไม่ต้องขี่อ้อมไกลๆ อาจแบ่งทางเท้าส่วนนึง มาทำเป็นเลนพิเศษขนาด 1 เมตร ผมเชื่อว่ามันมีทางออกที่ไม่เหมือนกัน ในแต่ละพื้นที่ เพียงแต่เราต้องช่วยกัน อาจจะใช้เวลานานหน่อย แต่เราต้องเริ่ม..
3.ปัญหาเรื่องแดดและฟ้าฝน มันแก้ไม่ได้หรอกครับ แต่ถ้าเราใส่หมวก เครื่องป้องกันถูกต้อง มันก็ช่วยลดความร้อนไปได้บ้าง ยิ่งถ้าในอนาคต เราเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้ากัน ปัญหาเรื่องฝุ่นควัน ก็น่าจะดีขึ้นอีกด้วย ผมอยากให้ประเทศไทยไปถึงวันนั้นเร็วๆจัง
สรุป
ปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางแก้ไข เพียงแต่ทุกคนต้องช่วยกัน เราไม่สามารถแก้ปัญหาใหญ่ๆ ด้วยคนเพียงกลุ่มเดียว
จิตสำนึกเป็นสิ่งสำคัญในดำรงชีพของสัตว์สังคม การปลูกฝังความคิดตั้งแต่วัยเด็ก จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก หากคุณยอมให้มอไซค์ขี่บนฟุตบาทได้ต่อหน้าเด็กๆ มันจะกลายเป็นความชินชา และกลายเป็นปัญหาที่แก้ได้ยาก เหมือนที่เป็นอยู่ในตอนนี้
แต่ก็อย่ายอมแพ้ที่จะเปลี่ยนแปลงสังคม เพราะทุกประเทศที่เป็นที่ยอมรับในปัจจุบัน ประเทศเหล่านั้นก็ผ่านการนับหนึ่งมาก่อน..
ล่าสุดผมเห็นภาครัฐเพิ่มเงินค่าปรับ สำหรับคนที่ขับขี่รถบนทางเท้า ส่วนตัวผมมองว่ามันคือการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ต่อให้ช่วงนี้คนกลัวไม่กล้าขี่ขึ้นมาบนฟุตบาท แต่นั่นก็เพราะตำรวจยืนเฝ้าเต็มไปหมด ไม่นานหรอกครับ มันก็กลับมาเป็นแบบเดิม
ผมว่าเอาเงินไปติด cctv เพิ่มตรงจุดที่มีการฝ่าฝืนบ่อยๆ แล้วตรวจเลขทะเบียน ส่งค่าปรับไปที่บ้าน เหมือนตรวจความเร็วบนถนนใหญ่ยังจะเข้าท่ากว่าเลย..
#outside
โฆษณา