5 ธ.ค. 2018 เวลา 17:05
้ล้อมเว่ยช่วยจ้าว Part 2
(จริงๆภาคนี้น่าจะชื่อ ล้อมเว่ยช่วยหาน ถึงจะถูก)
10 ปีต่อมา
แคว้นจ้าวซึ่งยังแค้นแคว้นเว่ยที่มาบุกคราวก่อนยังไม่หาย จึงได้ส่งฑูตไปเจรจากับแคว้นหาน ให้ร่วมกันบุกแคว้นเว่ยแล้วเอาดินแดนมาแบ่งกัน
แต่ความนี้รู้ไปถึงแคว้นเว่ย พังจวนจึงว่า ถ้าปล่อยให้ 2 แคว้นร่วมมือกันเราจะแย่ เว่ยมิสู้ชิงลงมือก่อน
แคว้นเว่ยจึงเจรจาสงบศึกกับแคว้นจ้าว จากนั้นจึงส่งกองทัพบุกเข้าปิดล้อมแคว้นหาน
แคว้นหานเห็นว่าแคว้นเว่ยเคยพ่ายแพ้แก่แคว้นฉีมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงส่งคนไปขอความช่วยเหลือแคว้นฉี
ฉีซวนอ๋องและขุนนางฝ่ายบุ๋นเห็นว่าไม่ควรช่วยแคว้นหาน ปล่อยให้เว่ยกับหานรบกันเองก็จะอ่อนแอทั้งสองฝ่าย
แต่ซุนปินแย้งว่า หากเว่ยได้หานไป เว่ยก็จะเข้มแข็งขึ้น ปลายหอกก็จะพุ่งมาหาแคว้นจ้าวและแคว้นฉีเราอย่างแน่นอน ไม่ช่วยหานจึงไม่ถูก
เราควรตบปากรับคำว่าจะช่วยหาน แคว้นหานจะได้มีกำลังใจรบพุ่งกับแคว้นเว่ยอย่างเต็มกำลัง
เราก็ยื้อเวลาปล่อยให้ทั้งสองแคว้นเสียหายกันทั้งสองฝั่ง แล้วเราค่อยยกทัพเข้าไปช่วยแคว้นหาน
ฉีซวนอ๋องเห็นดีด้วย จึงตั้งเถียนจี้เป็นแม่ทัพใหญ่ ให้ซุนปินเป็นกุนซือยกทัพไปช่วยแคว้นหาน
ครั้นกำลังจะเข้าเขตแดนแคว้นหาน เถียนจี้จึงสั่งให้เร่งเดินทัพเข้าไปช่วยแคว้นหานซึ่งกำลังรบพุ่งกันอยู่
แต่ซุนปินแย้งว่า ครั้งก่อนเราช่วยจ้าวก็มิต้องเข้าจ้าว ครั้งนี้เราช่วยหานก็มิจำเป็นต้องเข้าหาน
เถียนจี้ได้ฟังก็หัวเราะชอบใจ สั่งให้ทหารเร่งเดินทัพเข้าปิดล้อมแคว้นเว่ยเหมือนเมื่อ 10 ปีก่อน
พังจวนซึ่งกำลังได้ใจฝันหวานถึงชัยชนะกับแคว้นหานได้รับรายงานว่าทัพฉีปิดล้อมแคว้นเว่ยก็ตกใจและเดือดดาลยิ่ง
แต่ไม่รู้จะทำประการใดจึงจำต้องยกทัพกลับไปช่วยแคว้นเว่ย ปล่อยแคว้นหานซึ่งกำลังจะเข้าปากให้หลุดลอยไป
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่แคว้นหานรอดพ้นจากการปิดล้อมเมือง จากกลยุทธ "ล้อมเว่ยช่วยจ้าว" (ล้อมเว่ยช่วยหาน)
พังจวนที่กำลังโมโหหนักจึงสั่งทหารเร่งเดินทัพอย่างบ้าคลั่ง หวังจะรีบไปบดขยี้ซุนปินโดยไว
ซุนปินได้ข่าวก็แสร้งทำเป็นขี้ขลาดตาขาว สั่งถอนทัพจากการปิดล้อมแคว้นเว่ย ให้ทหารเร่งเดินทัพออกจากแคว้นเว่ย
ระหว่างทางซุนปินก็ให้ทหารลดจำนวนเตาหุงข้าวลง แกล้งทำเป็นว่าทหารหนีทัพ
พังจวนหลงเชื่อแผนการณ์ จึงสั่งให้ทัพหน้ารีบเร่งเดินทัพไล่ตามไปบดขยี้ซุนปินอย่างไม่ลดละจนทัพหน้ากับทัพหลังเชื่อมกันไม่ติด
ซุนปินได้รับรายงานว่าพังจวนนำทหารไล่ตามทั้งกลางวันกลางคืนมิได้หยุดพัก ก็คาดการณ์ว่าพังจวนน่าจะถึงหุบเขาหม่าหลิงในเวลาพลบค่ำ
ซุนปินสั่งให้ทหารลอกเปลือกต้นไม้ใหญ่ข้างทางออกต้นหนึ่งแล้วเอาถ่านเขียนไว้ว่า "พังจวนตายที่นี่"
ให้ทหารตัดต้นไม้มากองสุมรวมกันเพื่อปิดทางออก แบ่งทหารส่วนหนึ่งไปเฝ้าทางเข้า รอให้พังจวนผ่านเข้ามาแล้วจึงปิดทางหนี
ซุนปินให้ทหารขึ้นไปซุ่มอยู่บนภูเขาทั้งสองลูก สั่งว่าเมื่อเห็นแสงไฟสว่างวาบขึ้นที่ใต้ต้นไม้ก็ให้ระดมยิงธนูเข้าใส่
พังจวนเร่งเดินทัพตามติดมาจนถึงหุบเขาหม่าหลิงในเวลาพลบค่ำแต่ไปต่อไม่ได้เพราะมีท่อนไม้ขวางทางอยู่
จึงสั่งทหารให้ช่วยกันเปิดทาง ทหารนับหมื่นก็กระจุกตัวกันอยู่ในหุบเขา
ครู่ใหญ่ทหารก็มารายงานว่า มีต้นไม้ใหญ่ถูกลอกเปลือกออก มีตัวหนังสือเขียนไว้หลายตัว ให้พังจวนไปตรวจดู
พังจวนจุดคบไฟขึ้นอ่านก็ตกใจ รู้ตัวว่าติดกับซุนปินเข้าให้แล้ว
ทันใดนั้นเองลูกธนูนับหมื่นก็ระดมยิงเข้าใส่เหมือนห่าฝน ทหารฉีก็กรูกันออกมาไล่ฆ่าทหารเว่ยล้มตายเป็นอันมาก
พังจวนเองซึ่งโดนลูกธนูยิงจนร่างพรุน ก่อนตายก็ร้องด้วยความคับแค้นใจว่า
เสียดายนักที่กูไม่ได้ฆ่าไอ้คนสักหน้าขาเป๋เสียแต่ครานั้น วันนี้ยังต้องมาช่วยส่งเสริมชื่อเสียงมันขึ้นไปอีก
ว่าแล้วก็ชักดาบขึ้นมาเชือดคอตัวเองตาย แค้นของซุนปินก็ถูกชำระไปจนสิ้น
และนี่ก็คือกลยุทธ "ล้อมเว่ยช่วยจ้าว" (ล้อมเว่ยช่วยหาน)
ในชีวิตจริงนั้นเราถูกล้อมไปด้วยปัญหา แต่เราไม่จำเป็นต้องลงไปแก้ที่ตัวปัญหาเสมอไป เช่น
เราเป็นหนี้อยู่ก้อนหนึ่ง ไม่จำเป็นว่าเราต้องไปเที่ยวขอยืมเงินใครมาโปะหนี้วนไปเรื่อยๆ
เราอาจตั้งใจทำงานให้หนักขึ้น หารายได้เสริม ใช้จ่ายให้น้อยลง เก็บเงินให้ได้มากขึ้น หนี้ที่มีอยู่ก็จะค่อยๆคลี่คลายลงไปเอง
$$$ ลองเอามาประยุกต์ใช้กันดูนะครับ $$$
โฆษณา