19 ม.ค. 2019 เวลา 22:58 • การศึกษา
ต้นเบาบับ (Baobab) กำลังจะตาย เนื่องจากสภาวะโลกร้อน !!!
ต้นไม้ที่มีอายุมากที่สุดในโลก เป็นต้นไม้ประจำชาติของประเทศมาดากัสการ์
ต้นเบาบับเป็นต้นไม้โบราณ พบที่ทวีปแอฟริกา และออสเตเลีย ด้วยลักษณะที่แปลกตาไม่เหมือนกับต้นไม้ชนิดอื่นๆ คล้ายๆกับต้นไม้กลับหัว (เอายอดลงดิน รากชี้ฟ้า) มีทั้งหมด 8 สายพันธุ์ และ 6 สายพันธุ์อยู่ในประเทศมาดากัสการ์ ด้วยลำต้นขนาดใหญ่สามารถเก็บน้ำในลำต้นได้ถึง 120,000 ลิตร เส้นใยของเปลือกสามารถใช้ทอผ้า ผลสามารถกินได้ทั้งคนและสัตว์ เพราะเหตุนี้เองจึงได้รับฉายาว่า "The tree of life" หรือต้นไม้แห่งชีวิต
หากใครเคยดูการ์ตูนเรื่อง Lion King เจ้า Rafiki ลิงบาบูนผู้ทำนายก็อาศัยต้นเบาบับเป็นบ้านเหมือนกัน
เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ ต้นเบาบับที่เก่าเเก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในแอฟริกาใต้กำลังจะตายในเร็วๆนี้ เนื่องจากสภาวะโลกร้อน ตามงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Plants เมื่อปี 2018
ต้นเบาบับบางต้นในประเทศ ซิมบับเว, นามิเบีย, แอฟริกาใต้, บอสวาน่า และเเซมเบีย เกิดในยุคกรีกโบราณเลยที่เดียว (แก่มากๆ) สามารถมีอายุได้ถึง 3,000 ปี เเละสูงได้ถึง 20 เมตร ในอุทยานเเห่งชาติ Kruger ประเทศแอฟริกาใต้
การล้มตายของต้นเบาบับอาจหล่นทับ ทั้งต้นที่ยังเล็กและต้นแก่ได้
เมื่อกว่า1,000 ปีที่ผ่านมา ต้นเบาบับสามารถทนทานต่อสภาพอากาศแห้งแล้งได้นานโดยไม่มีฝนตกตลอดปีในแอฟริกาใต้ แต่จากงานวิจัยพบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จากการสำรวจต้นเบาบับที่มีอายุมากที่สุด 11 ต้น พบว่าต้นที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปีได้ตายลง 3 ต้น และต้นที่มีอายุ 1,000-2,000 ปี ตายไป 6 ต้น "นี่เป็นอนุสรณ์ความตายของต้นเบาบับที่มีผลมาจากสภาวะโลกร้อน" Stephan Woodborne หนึ่งในนักวิจัยกล่าว "ด้วยสภาวะโลกร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 200 ปีที่ผ่านมาส่งผลให้สภาพพื้นที่แห้งแล้งและร้อนมากขึ้นในทวีปแอฟริกา ทำให้ต้นเบาบับรับมือกับสภาพอากาศแบบนี้ไม่ไหว และตายในที่สุด" เขากล่าวเสริม และเมื่อศึกษาต้นที่ตายนั้นพบว่า มีน้ำอยู่ในลำต้นเพียง 40% เท่านั้น ซึ่งต้นที่มีชีวิตอยู่จะมีน้ำประมาณ 70-80% นั้นหมายความว่า มันขาดน้ำเพื่อนำไปเลี้ยงส่วนต่างๆ เพื่อใช้ในการเจริญเติบโต เมื่อต้นไม้มีขนาดใหญ่ก็ต้องการน้ำที่มากขึ้นจนอยู่ในระดับหนึ่งเพื่อการอยู่รอดนั้นเอง
อีกทั้งฤดูฝนที่เปลี่ยนไปจากที่ควรจะตกในเดือนกันยายน ปี 2015 เลื่อนไปถึงเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2016....
การผูกพันธุ์ระหว่างมนุษย์และต้นเบาบับ เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่คู่กันมาอย่างช้านาน
Sarah Venter นักนิเวศวิทยาผู้ทำวิจัยต้นเบาบับมากว่า 5 ปี ได้ก่อตั้งโครงการชื่อ "ผู้พิทักษ์เบาบับ" (The baobab guardians) เพื่อช่วยให้ต้นกล้านั้นรอดตายจากเเพะของชาวบ้าน เป้าหมายของโครงการคือในอีก 100 ปีข้างหน้าจะมีต้นเบาบับเพิ่มขึ้นกว่า 500 ต้น โดยมีชาวบ้านเข้ามาช่วยป้องกันเเพะกินต้นกล้า นอกจากนี้ชาวบ้านก็ได้รับประโยชน์จากต้นเบาบับ ทั้งนำใบมาสกัดเป็นยา และนำเมล็ดมาทำน้ำมันได้อีกด้วย
การเก็บผลของต้นเบาบับของชาวบ้านในจังหวัด Limpopo ประเทศแอฟริกาใต้
ไม่ต้องสงสัยเลยถ้าหากต้นเบาบับหายไปในอนาคตทั้งมนุษย์และสัตว์จะได้รับผลกระทบขนาดไหน....สมกับเป็นต้นไม้แห่งชีวิตที่มีอายุกว่า 1,000 ปีจริงๆ ถึงจะแก่แค่ไหนแต่ดูเหมือนว่าคุณปู่เบาบับจะไม่สามารถสู้กับสภาวะโลกร้อนได้อยู่ดี
1
ผลเบาบับ
ดูVDOเพิ่มเติมถึงความมหัสจรรย์ของต้นเบาบับได้ตามลิงค์ครับ
Cr. CNN
Vichakaset
Smithsonianmag
The Sacred Science
โฆษณา