21 ม.ค. 2019 เวลา 13:07 • สุขภาพ
ลูกชิ้นปลากราย หาวิธีขวนขวาย เพื่อไปถึงปลายทาง
| By Little Man
“ทุกความสำเร็จ ล้วนแล้วแต่ต้องผ่านการลองผิดและลองถูก มาอย่างมากมาย ซึ่งก็คงละม้ายคล้ายกับความสำเร็จ ของลูกชิ้นปลากราย ถ้วยนี้”
Credit : twitter.com
หากพูดถึง ‘ลูกชิ้นปลากราย’ เชื่อว่าทุกท่าน
คงจะนึกถึงเมนูที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลากราย
ยำลูกชิ้นปลากราย
แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย
หรือ แม้แต่ ผัดเผ็ดลูกชิ้นปลากราย
แต่หากพูดถึง ลูกชิ้นปลากราย ที่มีความสด สะอาด และรสชาติอร่อย ในเมืองนครสวรรค์
หนึ่งในนั้นคงจะเป็น ‘ลูกชิ้นปลากรายแม่ศจี’
แม่ศจี หรือ คุณ จิตศจี วราหไพฑูรย์
เป็นสุภาพสตรีที่เป็นเจ้าของ ลูกชิ้นปลากราย ที่โด่งดังในเมืองนครสวรรค์ รวมไปถึงจังหวัดอื่นๆ
แต่ถ้าพูดถึงจุดเริ่มต้นของลูกชิ้นปลากรายแม่ศจีนี้
คงจะต้องย้อนเวลากลับไป 43 ปีก่อน
หรือในปี พ.ศ. 2519
ในช่วงเวลานั้น
คุณศจี มีฐานะที่ยากจนมาก
มีอาชีพทำงานรับจ้างเย็บผ้า
และสามีของเธอนั้น เป็นช่างซ่อมวิทยุ
ทั้งคู่ ไม่ได้มีการศึกษาที่สูงสักเท่าไร
โดยคุณศจีจบการศึกษาเพียงแค่ชั้น ป.2 เท่านั้น
คงจะไม่แปลกสักเท่าไร
หากคนที่มีต้นทุนไม่สูง เหมือนกับคนอื่น
จะพยายามชดเชยสิ่งเหล่านั้นด้วย
ความขยันและความพยายาม ที่มากกว่าคนอื่น
อย่างไรก็ตาม
การที่คุณศจีพยายามทำมาหากิน
และขยันอดออมให้มากขึ้น
กลับทำให้เธอรู้สึกว่า
สิ่งเหล่านี้ อาจจะไม่ได้ทำให้ชีวิตของเธอ
มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเท่าที่ควร
และในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง
ได้มีญาติของเธอมาเยี่ยมเยียนที่บ้าน
พร้อมกับลูกชิ้นเนื้อวัวที่นำมาฝาก
ซึ่งญาติคนนั้นได้ขายลูกชิ้นเนื้อวัวมาอยู่ก่อนแล้ว
เขาจึงชวนคุณศจีให้ลองมาทำลูกชิ้นเนื้อวัวขายเหมือนกับเขา
โอกาสได้มาถึงคุณศจี โดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว...
และคงจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีแน่
หากเธอปฏิเสธโอกาสที่กำลังจะทำให้เธอ
มีหนทางในการสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมา
เธอตอบ ตกลง กับญาติคนนั้นทันที
และได้ย้ายไป จ.อุทัยธานี
เพื่อฝึกทำลูกชิ้นเนื้อวัว
ด้วยความมุมานะบากบั่น ขยันหมั่นเพียร
เธอจึงสามารถเปิดร้านขายลูกชิ้นเนื้อวัว
จนกิจการเจริญรุ่งเรือง มีเงินมีทองเก็บ
และสามารถสร้างฐานะของตัวเองขึ้นมาได้
ดั่งที่ใจของเธอหวัง
แต่ชีวิตอาจไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ...
เมื่อปี พ.ศ. 2543
ได้มีข่าวว่า วัวส่วนใหญ่ติดเชื้อแอนแทรกซ์(โรควัวบ้า)
สิ่งนี้จึงทำให้ กระแสการบริโภคเนื้อวัวมีแนวโน้มลดลง ธุรกิจที่เกี่ยวกับเนื้อวัวทุกอย่างเข้าสู่ภาวะวิกฤติ ซึ่งก็รวมถึงลูกชิ้นเนื้อวัวของ คุณศจี ด้วย
จากลูกชิ้นเนื้อวัว ที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
กลายมาเป็น ลูกชิ้นเนื้อวัวที่ต้องเอาไปเทลงในน้ำลงในท่า เพราะว่าขายไม่ได้
ขณะนี้
เธอมีทางเลือกอยู่ สองทาง คือ
ขายลูกชิ้นเนื้อวัวต่อไป หรือ หยุดทุกสิ่งทุกอย่างลง
และแล้ว เธอก็เลือกอย่างหลัง...
ซึ่งอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอ ตัดสินใจเลิกขายลูกชิ้นเนื้อวัวได้ง่ายขึ้น เพราะว่า
วัวเป็นสัตว์ใหญ่ การฆ่าสัตว์ใหญ่นั้นเป็นบาปหนัก
ถึงแม้จะไม่ได้เลี้ยงและเชือดวัวด้วยตัวเอง แต่การสั่งให้ฟาร์มเชือด ก็คงไม่ต่างอะไรกับการฆ่าเอง
เมื่อเธอตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ว่าจะเลิกขายลูกชิ้นเนื้อวัว คำถามต่อไปก็คือ แล้วเธอจะทำอะไรต่อ
ตอนนั้นเอง
คุณศจีมีพระองค์หนึ่งที่เธอนับถือมาก
พระ องค์นั้นก็คือ หลวงปู่จ้อย วัดศรีอุทุมพร
ท่านทำนายไว้ว่าในอนาคตอันใกล้
คุณศจีจะต้องไปทำการค้าอย่างอื่น
ที่มีลักษณะคล้ายกับของเดิมที่ทำอยู่
สิ่งนี้เอง
จึงทำให้คุณศจีตัดสินใจเปลี่ยนมาทำลูกชิ้นปลากรายและก็ประสบความสำเร็จมากมาย
มาจนถึงปัจจุบัน
เรื่องราวทั้งหมดของ ลูกชิ้นปลากรายแม่ศจีนี้
สอนเราได้เป็นอย่างดีว่า
ต้นทุนของแต่ละคนอาจจะ ไม่เท่ากัน
โอกาสที่เข้ามาในชีวิตของแต่ละคน ต่างรูปแบบกัน
ปัญหาหรืออุปสรรคที่เราต้องพบเจอ ก็หนักเบาแตกต่างกัน
แต่สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกัน ก็คือ
หัวใจที่แข็งแกร่งและการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
เพราะสิ่งนี้นับว่าเป็นสิ่งสำคัญ
ที่ทำให้เราอยากจะขวนขวายหาวิธี
ที่จะก้าวผ่านทุกๆปัญหา และไขว่คว้าทุกๆโอกาส
เพื่อนำทางเราไปสู่ความสำเร็จ
เหมือนกับเรื่องราว ลูกชิ้นปลากรายแม่ศจี
ที่ทุกท่านเพิ่งได้อ่านเสร็จ นั่นเอง...
Credit : tops.co.th
โฆษณา