4 ก.พ. 2019 เวลา 10:49 • การศึกษา
แก็งค์ค้ายาเม็กซิโก : มารู้กับคำว่า''โหดสัสเม็กซิโก"กัน
นับตั้งแต่ประธานาธิบดีฟิลิเป้ กัลเดลอน ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำเม็กซิโก ได้ทำการประกาศสงครามยาเสพติด
และเดินหน้าแผนการ กวาดล้างยาเสพติด ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลสหรัฐ
ซึ่ง ปธน. เอ่ยถึงสถานการณ์ความรุนแรง ในสงครามยาเสพติดของเม็กซิโกที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น พร้อมทั้งยืนยัน บรรดาพ่อค้ายาเสพติดทั้งหลายนั้น อ่อนกำลังลง เพราะรัฐบาลโค่นล้มหัวหน้าแก๊งรายใหญ่ได้หลายราย
1
สิ่งที่ทำให้แก็งค์ค้ายาในเม็กซิโก มีกิจการใหญ่โต  มีทั้งกำลังพลและอาวุธอันทันสมัยจำนวนมาก
เนื่องมาจากรายได้ที่ดีมาก ตลาดยาเสพติดในสหรัฐ สามารถทำเงินได้อย่างมหาศาลให้กับกลุ่มนักค้ายา
เห็นเงินมากองแบบนี้ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ก็หายหมด
เส้นทางของสินค้า และอณาเขตของแก็งค์ค้ายารายใหญ่
รูปแบบการลำเลียงยาเสพติดเข้าสหรัฐนั้น มีหลายรูปแบบ ทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ
อุโมงค์ข้ามแดน มีการค้นพบมาเรื่อยๆ การใช้เรือดำน้ำ การขนส่งทางเครื่องบินเล็ก ฯลฯ
ตัวอย่างอุโมงค์ส่งยาแห่งนึงที่ถูกทางการสหรัฐตรวจพบ
อย่างไรก็ตาม Pena Nieto ถูกโจมตีจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้นเรื่อย ๆ หลังใช้กองทัพ “เพิ่มความเข้มข้น” ในปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมตั้งแต่ปี 2549 ท่ามกลางข้อครหาจากสังคม และนักสิทธิมนุษยชน ถึงการทารุณกรรม และการไล่ล่าล้างบางอย่างไร้มนุษยธรรมของเจ้าหน้าที่รัฐบาล สถานการณ์ “แรงมา-แรงไป” ทำให้เกิดการตอบโต้ของฝ่ายขบวนการค้ายาเสพติดอย่างรุนแรง และต่อเนื่อง
การปราบปรามอย่างรุนแรงทำให้เกิดความสุญเสียของทั้ง 2 ฝ่าย 
นอกจากนี้ผู้ค้ายังได้พัฒนาติดอาวุธจำนวนมากให้แก่กองกำลังของตนเองอีกด้วย
รถหุ้มเกราะ เรือดำน้ำ ก็มีมาแล้วนะ
มาดูคลังแสงของแก็งค์ค้ายา
อาวุธส่วนใหญ่ แกงค์ค้ายาจัดหามาจากไหน?? ...คิดว่าหลายๆคนคงรู้ดีอยู่แล้ว
เหตุการณ์การสังหารหมู่คนต่างด้าวชาวละติน 72 ราย ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเม็กซิโก โดยฝีมือแก๊งค้ายาเสพติดตรงชายแดน ที่โกยเงินจากธุรกิจส่งผู้อพยพผิดกฎหมายเข้าไปในสหรัฐ
แก๊งดังกล่าว นอกจากจะรีดเงิน จากกลุ่มผู้อพยพแล้ว เหยื่อบางรายถูกจับเป็นตัวประกัน ให้แก๊งค้ายาใช้รีดไถเงินจากญาติเหยื่อที่อยู่ในฝั่งสหรัฐ นอกจากนี้ ความรุนแรง ที่เกิดจากฝั่งกลุ่มพ่อค้ายามีทั้งการฆ่าตัดหัว แขวนคอ และยิงสังหาร ซึ่งแผ่ขยายลุกลามเป็นวงกว้างมากขึ้น รวมทั้งพัฒนาจนเกิดเหตุคาร์บอมบ์ขึ้นหลายครั้งในปีนี้
คาร์บอมบ์จุดตรวจตำรวจ
1
นอกจากการปราบปรามอย่างหนักจากรัฐบาลแล้ว ยังได้เกิดการต่อสู้ระหว่างแกงค์ค้ายาด้วยกันเอง
เช่น แก็งค์ "เทโลเลาแปน" นำศีรษะมนุษย์นับสิบมาเรียงนอกโรงเชือดสัตว์ในเมืองเทโลเลาแปน ทางใต้ของกรุงเม็กซิโก ซิตี้ 
เพื่อข่มขู่แก๊งค้ายาคู่ปรับ คือกลุ่ม "เดอ ลา ฟามิลลา"
1
หรือการที่ ร่างเหยื่อ 9 รายถูกแขวนคอบนสะพาน และศีรษะผู้คนอีก 14 รายถูกทิ้งในเมืองนิวโว ลาเรโด้
ซึ่งเป็นพื้นที่ต่อสู้ของสงครามระหว่างแก๊งค้ายาเม็กซิโก
รายงานระบุว่า เหยื่อ 9 ราย ที่ถูกแขวนคอ เป็นหญิง 4 คน และต่อมาตำรวจได้พบร่างเหยื่อถูกตัดศีรษะอีก 14 ราย
1
ข้อมูลจากทางรัฐบาล ระบุถึงผลงานปราบปรามเมื่อปีที่ผ่านมา ว่ามีผู้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมราว 34,515 คน ยึดอาวุธปืนได้กว่า 34,000 กระบอก เงินสดอีก 10.2 ล้านดอลลาร์ หรือราว 318 ล้านบาท ยาเสพติดมูลค่ากว่า 2,500 ล้านดอลลาร์ หรือราว 78,000 ล้านบาท นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการในปี 2549 มีผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องจากการกวาดล้างยาเสพติดแล้ว 28,000 ราย แต่ผู้นำเม็กซิโก ยังคงเดินหน้าแผนการต่อไป ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลสหรัฐ (รายงานเมื่อปี 2553)
ทั้งนี้นอกจากนี้ยังได้ให้ทหารลงพื้นที่เสี่ยง เพื่อปราบแกงค์ค้ายาติดอาวุธด้วย (บ้านเรากลายเป็นเรื่องจิ๊บๆไปเลย)
การสกัดกั้นบริเวณชายแดน
ศึกระหว่างแก็งค์ค้ายาด้วยกันเอง แล้วเอาศพมาทิ้งไว้กลางถนน
พยายามขับรถฝ่าวงล้อมทหาร
หลายๆรัฐเริ่มประท้วงและอยากให้มีการจัดตั้งกองกำลังของตนเอง 
ส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่ารัฐบาลกลางไม่สามารถให้ความช่วยเหลือช่วยพวกเค้า จากพวกแก็งค์ค้ายาได้
(ส่วนตัวมองว่าสิ่งนี้ยิ่งไปเพิ่มปัญหา มากกว่าการแก้ไขปัญหา)
ปัญหาทางด้านการศึกษา ปีการศึกษาใหม่ของเม็กซิโก (2555) เพิ่งจะเริ่มต้นได้เพียง 1 สัปดาห์ แต่โรงเรียนประถมศึกษาจำนวน140 แห่ง ในเมืองอะคาพุลโก้ ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ต่างปิดการเรียนการสอนในสัปดาห์นี้ เนื่องจากครูไม่ยอมไปสอน หลังถูกแก๊งค้ายาขู่กรรโชกและลักพาตัว
     ทั้งนี้ นายฮูลิโอ เบอร์นัล เจ้าหน้าที่ด้านการศึกษาของรัฐเกอร์เรโร เผยว่า ครูในอะคาพุลโก้ราว 600 คน ระบุว่า พวกเขาเสียขวัญจากการข่มขู่คุกคามและการลักพาตัว ที่เกิดขึ้นไม่นานมานี้ ทำให้โรงเรียน 140 แห่ง จากทั้งหมดราว 1,400 แห่ง ในย่านชุมชนแออัดแถบเชิงเขาของเมืองอะคาพุลโก้ ไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนในสัปดาห์นี้ได้ 
     มีครูสองคน ซึ่งไม่กล้าเปิดเผยนาม เนื่องจากวิตกด้านความปลอดภัย ระบุว่า มีเพื่อนครูอย่างน้อย 4 คน ถูกลักพาตัวในช่วง 8 วันที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ก็เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถผ่านโรงเรียนและมีอาวุธปืนไรเฟิลยื่นออกมาจากหน้าต่างรถด้วย พวกครูต่างได้รับคำขู่ว่า ถ้าไม่ยอมจ่ายเงินเดือนครึ่งหนึ่งให้ ก็จะถูกทำร้าย 
      ครูนับร้อยคน เรียกร้องไปยังรัฐบาล ได้ส่งกำลังตำรวจไปประจำการตามโรงเรียน แต่กลับได้รับการเพิกเฉย ด้านรามอน อัลมองเต้ ผู้บัญชาการตำรวจรัฐเกอร์เรโร่ ที่รับผิดชอบด้านการรักษาความปลอดภัยให้กับโรงเรียน ไม่ยอมให้ความเห็นใด ๆ แต่ก่อนหน้านี้ เขาเคยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวก่อนหน้านี้ว่า ไม่มีรายงานเรื่องครูถูกลักพาตัว ในช่วงไม่กี่วันมานี้ 
      โรงเรียนในอะคาพูลโก้ ต้องตกอยู่ท่ามกลางสงครามระหว่างแก๊งค้ายาเสพติดมานานแล้ว บรรดาครูและผู้บริหารโรงเรียนในเมือง ซิวแดด  ฮัวเรซ ที่อยู่ติดชายแดนรัฐเท็กซัส ของสหรัฐ ก็ต้องเรียนเรื่องถูกขู่กรรโชกเช่นกัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มมือปืนได้ทำร้ายพ่อแม่ที่ไปคอยรับลูกที่หน้าโรงเรียนประถมในเมืองฮัวเรซ ทำให้ผู้ชาย 1 คน และผู้หญิง 4 คน ได้รับบาดเจ็บ
1
ชาวบ้านพร้อมอาวุธ กับจุดตรวจที่ตั้งขึ้นมาเอง
สงครามกวาดล้างยาเสพติดของรัฐบาลเม็กซิโกที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2549 ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 70,000 ศพ ในจำนวนนี้มีทั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระดับสูง และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ที่แม้จะสมรู้ร่วมคิดในการค้ายาเสพติดกับแก๊งยักษ์ใหญ่ แต่กลับถูกลักพาตัวไปสังหารอย่างเหี้ยมโหด นับว่าขัดผลประโยชน์กันในเรื่องเงิน
ความสุญเสียของเจ้าหน้าที่รัฐ
ด้านตำรวจเมืองโตลูกา เมืองเอกของรัฐเม็กซิโก พบศพอีก 5 ศพในสภาพถูกมัดมือและเท้า พร้อมกับมีกระดาษกาวปิดปาก ในจำนวนนี้บางศพถูกหั่นอวัยวะบางส่วนออกไป  นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบศพอีก 2 ศพ อยู่ภายในรถยนต์คันหนึ่งที่มีผู้นำมาจอดทิ้งไว้บนถนนชานเมืองโตลูกา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีประชาชนจำนวนมากออกมาชุมนุมปิดทางหลวงสายมุ่งหน้าสู่รัฐเวรากรูซ เพื่อประท้วงกระบวนการทำงานที่ล่าช้าของเจ้าหน้าที่ และมีรายงานพบรถทหารคันหนึ่งถูกไฟเผาได้รับความเสียหาย บริเวณไร่อ้อยแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กันด้วย
การสังหารสมาชิกแกงค์ค้ายาฝ่ายตรงข้าม พร้อมคำขู่
ประชาชนที่เป็นสายให้ทางการ เร็วๆนี้กลุ่มค้ายาได้แขวนคอประจานสายตร. 3 คน ที่ทางหลวงแห่งหนึ่ง โดยที่มือถูกพันกับวิทยุ
หญิงสาวที่มีเรื่องขัดแย้งกับกลุ่มค้ายา ทั้งนี้มีรายงานที่กลุ่มค้ายาได้จ้างหญิงสาวสวยมาเป็นมือปืนจำนวนมาก
โดยมีการฝึกใช้อาวุธหนัก เบา แบบทหาร โดยให้เป็นมือสังหารเหยื่อ
"กระทรวงความมั่นคงเม็กซิโกเปิดเผยเทปการไต่สวนสมาชิกของแก๊งอาชญากรค้ายาเสพติด"ลา ไนเนีย"ระบุว่า ที่ผ่านมา แก๊งได้จ้างผู้หญิงสวยอายุตั้งแต่ 18-30 ปี เพื่อนำมาฝึกให้เป็นมือปืนสังหารเหยื่อ จุดประสงค์เพื่อสร้างความตายใจให้แก่เหยื่อ  โดยมือปืนสาวจะปฎิบัติการสังหารเหยื่อเหมือนมือปืนชายทุกประการ เช่น ใช้อาวุธเบาและอาวุธหนัก สังหารเหยื่อของกลุ่ม"
พวกหลบหนีเข้าเมือง ที่ถูกแกงค์ค้ายานำมาหลบซ่อนไว้ ก่อนสังหารหมู่
จบแล้วครับ มินิรีวิว ของกลุ่มแกงค์ค้ายาในเม็กซิโกและความโหดเหี้ยม
จนถึงวันนี้ ตัวเลขผู้เสียชีวิตทะลุ 70000 คน ไปแล้วครับ และยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ
ถ้าคิดว่ากลุ่มค้ายาในเม็กซิโกโหดแล้ว ยังมีโหดกว่านี้อีกครับ 
กลุ่มหัวรุนแรงโบโก ฮาราม ในไนจีเรีย  ติดตามคราวหน้านะครับ
โฆษณา