คนให้โอกาส และคนปิดโอกาส
กลับมาละค้าบบบ ลืมกันรึยังเนี่ย
ขอโทษคนตามอ่านด้วยนะครับ พอดีช่วงนี้เลี้ยงลูกกับภรรยาหนักเลย ไม่ค่อยมีเวลาเขียนอย่างเคย
ต่อเนื่องจากตอนที่แล้ว ที่ผมเริ่มอบรมให้กับโรงงานต่างๆ ไปต่อกันเลย โรงงานแรก โรงงานพี่โจ้ง
คืนก่อนที่จะไปอบรมให้โรงงานพี่โจ้ง ผมได้มีการซักซ้อมการพูดของแต่ละสไลด์มาเป็นอย่างดี แหม จะไม่ให้ซ้อมได้ยังไงล่ะ ในเมื่อผมคำนวณมาแล้วว่าแต่ละสไลด์ใช้เวลาประมาณ 1 นาที แล้วมันดันมีทั้งหมดเกือบ 200 สไลด์ !! ถ้าไม่ซ้อมมานี่ต้องมีจังหวะ dead air แน่ๆ เรียกว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยต้องบรรยายอะไรนานขนาดนี้มาก่อนเลยพับผ่าสิ เอาว่ายาวกว่าบรรยายวิทยานิพนธ์ที่เรียนจบมาซะอีก
โชคยังดีที่คนมาฟังการบรรยายเป็นทีมช่างที่ผมรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี ทำให้การบรรยายเป็นบรรยากาศแบบไม่เกร็งกันมาก แต่ก็มีช่วง dead air บ้างบางจังหวะ มีลืมมีตกหล่นกันบ้าง ซึ่งคาดหมายไว้อยู่แล้ว ให้ตายสินี่ขนาดคิดว่าซ้อมมาดีแล้วนะเนี่ย ผมคิดเลยว่านี่ถ้าโรงงานแรกดันไม่ใช่โรงงานพี่โจ้งผมคงจะรู้สึกแย่ไปเลย
หลังจบการบรรยายมีคำถามจากทีมช่างบ้างประปราย แม้จะไม่มากแต่ก็สามารถเช็คได้เลยว่าคนฟังเข้าใจมากน้อยแค่ไหน ซึ่งดูจากคำถามแล้วเหมือนจะไม่ค่อยเข้าหัวกันเท่าไหร่ (เยี่ยมไปเลยนะครับ)
จบงานมีคอมเม้นท์จากพี่โจ้งแบบตรงไปตรงมาสั้นๆง่ายๆว่า “พี่ว่ามันลึกไป แบบนี้ช่างจะไม่เกทหรอก”
ผมได้แต่รับคำและขอบคุณพี่โจ้งที่ให้โอกาส (อีกครั้ง)
หลังกลับจากโรงงานพี่โจ้งผมเร่งกลับไปปรับปรุงเนื้อหาแทบจะทุกสไลด์ ใส่ภาพไปเยอะๆ คำพูดให้น้อยที่สุด พยายามเสาะหาและซักซ้อมวิธีการพูดให้เข้าใจให้ง่ายขึ้นไปอีก พร้อมทั้งพยายามนัดหมายลูกค้าที่คิดว่าน่าจะสนใจเพิ่ม เพื่อเก็บเลเวลในการพูดของตัวเอง
จากนั้นพอเนื้อหาปรับปรุงใหม่เริ่มจะเป็นรูปเป็นร่าง ผมก็ออกไปบรรยายอีกครั้ง ครั้งที่สองเป็นโรงงานผลิตกันชนรถยนต์ชื่อดังย่านปทุมธานี หนนี้ลูกค้าขอแบบสั้นๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง ทำเอาเนื้อหาในสไลด์ใหญ่ยาวที่ซักซ้อมมาเป็นอย่างดีต้องเป็นหมันไปก่อน
พอไปมาซัก 2 โรงงานผมก็ไปบรรยายต่อให้กับลูกค้าของไอพี่แว่นและลูกค้าของพี่ใหญ่ คือ พอเริ่มมั่นใจ ผมก็เริ่มกระจายข่าวบอกพี่แว่น พี่ใหญ่ และเซลส์น้องเหน่อว่า บริษัทเรามีบริการเซอร์วิสให้กับลูกค้าในการจัดอบรมเทรนนิ่งการใช้น้ำมันและจาระบีให้ถูกวิธีนะ มีโรงงานไหนสนใจก็ติดต่อจองคิว (แหม เหมือนจะฮอต) ตัวผมได้เลย ขอแค่นัดวันเวลามาผมจะพร้อมไปอบรมให้ถึงโรงงานท่านเลยทีเดียว
ช่วงนั้นผมทำงานควบสองอย่าง ทั้งออกไปหาลูกค้า เยี่ยมลูกค้าตามปกติ และออกไปบรรยายอบรมตามที่ลูกค้าสนใจ ทำให้เก็บเลเวลการบรรยายส่วนตัวได้เป็นอย่างดี เพราะยิ่งพูดก็จะยิ่งชำนาญ เมื่อยิ่งชำนาญก็จะยิ่งมั่นใจ เมื่อมั่นใจก็พูดแบบเป็นธรรมชาติมากขึ้น แม้จะไม่ได้เงินอะไรซักกะบาทเดียว บางทีในระหว่างที่ออกไปบรรยายบ่อยๆ ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าไอการออกไปบรรยายเหนื่อยๆ พูดทีนึงคอแห้งไปสามวันมันจะช่วยยอดขายบริษัทมาซักเท่าไหร่ แต่ผมรู้แค่ว่าอยากจะทำมานาน และรู้ว่าทำแล้วดี แต่ถามว่าดียังไงก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
ถ้าถามว่ามีผลลัพธ์ในรูปธรรมแบบอื่นบ้างมั๊ย ก็พอตอบได้ว่าลูกค้าเก่าที่ไปบรรยายให้ส่วนใหญ่จะเหนียวแน่นกับเรามากขึ้น ทำให้เปอร์เซ็นต์ของการซื้อซ้ำและการที่ลูกค้าหดหายไปแบบไม่มีอิโหน่อิเหน่ซึ่งพบเห็นเป็นประจำลดน้อยถอยลงอย่างมีนัยยะสำคัญ
ผมเพิ่งจะเห็นภาพชัดเจนตอนนี้เองว่า ไอที่เค้าเรียกว่าขายเหมือนไม่ขาย มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ที่สำคัญที่สุดก็คือ จุดประสงค์ของการให้ลูกค้ามองภาพบริษัทเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการหล่อลื่นดูเหมือนจะเห็นภาพชัดขึ้น แต่ชัดขึ้นไม่ใช่ในรูปของบริษัท หากแต่ดันมาชัดกับตัวผมเองนี่แหละ ผมพบว่าตั้งแต่ไล่บรรยายมาประมาณสิบกว่าโรงงาน เริ่มมีลูกค้าที่เคยไปบรรยาย มีการนำเอาสเปคของจาระบีที่ใช้อยู่มาให้ผมเทียบสเปค เหตุผลก็ง่ายๆ ลูกค้าบอกว่า “ผมเชื่อใจคุณ คุณเทียบให้ผมหน่อย ตัวนี้แพงเหลือเกิน เจ้าของเครื่องเค้าแนะนำให้ใช้”
จากนั้นไม่นานผมก็เริ่มมีอาการที่เรียกว่า “มั่นใจ” ผลก็คือ ดันเข้าไปเหยียบตาปลาเข้าอย่างจัง.....
มีโรงงานขนาดใหญ่ยักษ์เป็นบริษัทข้ามชาติบริษัทนึงที่ผมขับผ่านอยู่บ่อยๆ แต่ไม่เค๊ยไม่เคยคิดจะเหยียบย่างหรือโทรศัพท์เข้าไปขายของ เพราะว่าผมอาจจะคิดว่าเราอาจจะตัวเล็กเกินไปกับบริษัททรงประมาณนี้ แต่ตอนนี้เรามีบริการเซอร์วิสอบรมฟรีนี่หว่า ถ้าเข้าไปขอเค้าอบรมแล้วแอบเนียนๆขายของก็น่าจะเวิร์ค ประจวบกับวันนั้นมีลูกค้าเบี้ยวนัด ทำให้ผมมีเวลาเหลือก็เลยลองมั่วไปถามยามด้านหน้าดู
“พี่ครับ ไม่ทราบว่าแผนกซ่อมบำรุงโรงงานนี้ชื่อคุณอะไรครับ” ผมถามยามแบบซื่อๆ แบบที่เคยทำ อิอิ
“ไม่ทราบนะคะน้อง นี่น้องนัดเอาไว้รึเปล่าคะ” ยามถาม ทำท่าทางขึงขัง
“อ่อ ไม่ได้นัดครับ แหะๆ คือผมถามชื่อไว้เฉยๆน่ะครับ วันหลังจะลองโทรมานัด” ผมตอบไปแบบซื่อๆ
“พี่ไม่ทราบค่ะ” ยามตอบแบบวางอำนาจ ขี้เต๊ะจุ๊ยชิพหาย
ผมขับรถออกมาจากโรงงานด้วยอารมณ์หมั่นไส้ยามโรงงานทรงประมาณนี้ เลยตัดสินใจโทรนัดหน้าโรงงานเอาซะเลย เผื่อว่าเกิดฟลุ๊คนัดได้ขึ้นมาจะได้โผล่ไปยื่นบัตรตอกยามให้หน้าหงาย 555
“ครับ เรียนสายแผนกซ่อมบำรุงครับ” ปลายสายเป็นโอเปอร์เรเตอร์ รีบโอนสายให้ทันที ทำราวกับทำงานสเตปนี้มาเป็นร้อยๆรอบ
“ครับ ผมประภาสรับสายครับ” ปลายสายรับโทรศัพท์ผม น้ำเสียงดูจริงจัง ไม่เหมือนแผนกช่างปกติ ท่าทางเหมือนวิศวกรใหญ่มากกว่า อืม วิศวกรใหญ่โรงงานระดับนี้นี่ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
“ครับ ผมโทรจากบริษัท....... เป็นบริษัทจำหน่ายน้ำมันจาระบีเกรดพิเศษ คือเรามีบริการเซอร์วิส อบรมเรื่องพื้นฐานทางการหล่อลื่นให้ฟรีครับ ไม่ทราบพี่ประภาสสนใจมั๊ยครับ ใช้เวลาไม่นาน ไม่เกินชั่วโมง พี่สามารถนัดวันได้เลยนะครับ” ผมเกริ่นเรื่องการอบรมไปก่อนเลย เพราะผมคิดว่าถ้าจะเข้ามาเสนอขายของแบบโต้งๆ พี่เค้าไม่น่าจะรับนัด
“เหรอ อืมก็น่าสนใจนะ เบอร์คุณเบอร์อะไร เดี๋ยวผมนัดทีมช่างแล้วจะแจ้งกลับ” ปลายสายสนใจขึ้นมาทันทีมีการขอเบอร์เราด้วยอ่า เขินจุง โป๊ะเช๊ะ แบบนี้เสร็จเราแน่