27 มี.ค. 2019 เวลา 14:34 • ธุรกิจ
Case study 06: ผมได้ลูกค้าเจ้านี้มาได้อย่างไร
 
โรงงานล้อแม็ค : ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก
 
เช้าวันทำงานธรรมดา ผมได้รับอีเมลล์ขอราคาสำหรับน้ำมันชนิดนึงที่ใช้ในแผนกพ่นสีชิ้นงานจากโรงงานล้อแม็คขนาดใหญ่ ที่ทำล้อส่งให้โรงงานรถยนต์
 
แว้บแรกที่อ่านอีเมลล์ รู้เลยว่าลูกค้ากำลังเจอปัญหาจากการใช้น้ำมันผิดประเภท ตอนนั้นผมมีประสบการณ์การขายน้ำมันกับแผนกพ่นสีชิ้นงานพอสมควรเลยมีความมั่นใจว่าเราต้องปิดลูกค้ารายนี้ได้แน่ๆ ปัญหามี เราไปแก้ ออเดอร์จะไปไหนเสีย
 
ผมรีบติดต่อนัดผู้จัดการโรงงานพร้อมขับรถไปพรีเซ้นท์สินค้าถึงโรงงานเลยทีเดียว
 
โรงงานนี้มีโรงงานย่อยสามโรง ตั้งอยู่ห่างกัน เข้าทางไหนออกทางไหน งงไปหมดอย่างกับเขาวงกตแหนะ สงสัยตอนตั้งโรงงานใหม่ๆ คงไม่คิดว่าจะขายดีมั้ง พอขายดีก็ซื้อที่ดินเพิ่มไปเรื่อยๆ จนครบสามโรงอย่างที่เห็น แต่รับรองได้ว่าใครที่ไม่เคยมาคงต้องมีงงมั่งแหละ
 
ผมมาพบพี่มั่น ซึ่งตอนนั้นเป็นผู้จัดการโรงงาน แกพาเดินดูไลน์ผลิต พร้อมชี้จุดที่เป็นปัญหาให้ดู ผมบอกพี่มั่นเลยว่า
 
“นี่ครับพี่ น้ำมันผม รับรองถ้าพี่เปลี่ยนมาใช้ ปัญหาที่พี่เคยเจอย่อมหมดไปอย่างแน่นอน ผมขายมาหลายโรงแล้วครับ” พูดพลางก็เปิดรูปถ่ายจากโรงงานอื่น พอให้พี่มั่นได้ดูอ้างอิง การันตีว่าของผมไม่หลอกแดก ใช้ได้แน่นอน
 
ขับรถออกจากโรงงานด้วยความมั่นใจ คิดกระหยิ่มว่าโรงงานใหญ่ขนาดนี้ แม่งคู่แข่งปล่อยมาถึงเราได้ไง ดีนะที่ขับรถมาถึงที่ ยังไงต่อให้มีคู่เทียบ ผมมั่นใจว่าพี่มั่นก็คงเลือกของผมอยู่ดี
 
ผมคาดการณ์ว่าไม่เกินเดือน “มึงเสร็จกูแน่ วะฮะฮ่า” แต่นี่ก็ผ่านไป หนึ่งเดือน สองเดือน สามเดือน ก็ยังไม่เห็นเสร็จอย่างที่คิดไว้เลย มันคงต้องมีอะไรตะแหน่วๆ
 
ผมจำได้ว่าเซฟเบอร์พี่มั่นไว้อยู่ แต่โทรไปเหมือนกับว่าเปลี่ยนเบอร์ไปเรียบร้อย “เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”
 
เห็นท่าไม่ดีละ ดูท่าทางต้องขับรถไปดูลาดเลาที่โรงงานหน่อย
 
เนื่องจากเป็นโรงงานที่ค่อนข้างอยู่ห่างไกล การจะไปหาทีนึงใช้เวลาเกือบหมดวัน แต่ออเดอร์ใหญ่อยู่ตรงหน้า จะไม่ให้ไปก็กระไรอยู่ ผมเลยตัดสินใจเอาวะ ไปก็ไปทั้งๆที่ไม่ได้นัดใครที่โรงงานไว้เลย กะว่าไปเข้าหลังโรงงานแล้วให้คนงานตามพี่มั่นให้แล้วกัน อิอิ อย่างว่านะ เคยไปมาแล้วก็เลยรู้ที่ทาง เหมือนคนใช้ที่กลับมาขโมยของบ้านเจ้านายน่ะแหละ กรงหมากรงไหนไม่ได้ล็อก รู้หมด
 
ผมไปดักพี่มั่นที่ป้อมยามด้านหลังโรงงาน ที่คนปกติไม่ค่อยไปกัน เดินถามคนงานที่เดินผ่านไปมา ว่าผมมาหาพี่มั่นครับ
“พี่มั่น ? โอ้ย พี่ไปอยู่ไหนมา แกลาออกไปได้เดือนกว่าแล้วครับพี่” คนงานบอกผม
“อ้าว แล้วตอนนี้ใครมาแทนล่ะครับ” ผมได้ฟังก็ถึงบางอ้อ ว่าทำไมออเดอร์ถึงไม่ออกมาซะกะที
“เอ รู้สึกว่าจะชื่อพี่นิตนะครับ”
 
ผมไหว้วานคนงานให้ตามหาตัวพี่นิตให้ที บอกว่าเคยเอาตัวอย่างน้ำมันมาให้ทดลอง จะมาตามผล หัวหน้าไล่จี้ผมใหญ่ พี่ช่วยผมหน่อยนะ
 
อันที่จริงผมไม่ได้ทิ้งตัวอย่างน้ำมันไว้หรอก ส่วนหัวหน้าผมก็คือพ่อผม ยังไม่รู้เรื่องเลยว่าผมมาที่โรงงานนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่งานนี้ต้องมีโกหกกันบ้างครับ ขับรถมาถึงนี่แล้วจะให้ขับกลับโดยไม่ได้อะไรเลยมันก็กระไรอยู่
 
ผมรอแล้วรอเล่า เฝ้าแต่รอ ก็ไม่มีวี่แววว่าคนงานจะตามตัวพี่นิตมาได้ อ่า สงสัยจะแห้วกินซะแล้ววันนี้
 
ผมบอกยามว่าไม่เป็นไรครับ แต่ในระหว่างนั้นผมก็เหลือบไปเห็นใบจดเบอร์มือถือของพนักงานแผนกต่างๆ ที่แปะไว้ข้างฝาป้อมยาม เหลือบมองหาเบอร์คนชื่อนิต และจดมาเรียบร้อย (สาบานนะว่าบังเอิญอิอิ) หวังว่าคราวหน้าคงต้องทำนัดมาให้เป็นเรื่องเป็นราวหน่อย อย่างน้อยวันนี้ก็ไม่สูญเปล่า
 
คล้อยหลังไปอาทิตย์เดียว ผมก็นัดพี่นิตได้สำเร็จ พร้อมทั้งเกริ่นนำเรื่องที่เคยคุยค้างกับพี่มั่นเอาไว้ ว่าปัญหาตอนนั้นเป็นยังไงๆ และบอกว่าผมจะไปหาพี่นิตพร้อมใบเสนอราคา นัดเอาไว้เป็นมั่นเหมาะ ไม่เกินบ่ายสองนะครับพี่
 
ขับรถไปด้วยใจระทึก เพราะแม่งโคตรไกลเลย นี่ถ้าไม่เห็นแก่ออเดอร์ในอนาคตผมคงไม่ลงทุนขนาดนี้ แต่อีกใจนึงก็เสียวพี่นิตจะเบี้ยวนัดอยู่เหมือนกัน เพราะน้ำเสียงแกในโทรศัพท์ ดูรับนัดไปส่งๆ อย่างนั้นเอง
 
“มาหาพี่นิตครับ” ผมแว้บไปหลังโรงงานอย่างเคย ยื่นบัตรให้ยาม หวังให้ยามตามตัวให้
“พี่ลองโทรเบอร์มือถือแกเลยครับ คนนี้ตามตัวยากมาก วันวันนึงมีคนมาหาแกเพียบ” พี่ยามยื่นเบอร์มือถือแกมาให้ผม หารู้ไม่ว่าผมมีอยู่แล้ว แหะๆ
 
ผมโทรมือถือหลายรอบพี่นิตก็ไม่รับ น่ากลัวลางไม่ดีละ ไอชิพหาย นี่ขนาดนัดมาอย่างดิบดีแล้วนะ ซักพักผมเห็นคนงานกลุ่มนึงกำลังเข็นเครื่องจักรบนล้อเลื่อนขนาดตัวโข่ง พร้อมทั้งเห็นชายคนนึงแต่งชุดซาฟารีไม่เหมือนคนงาน กำลังชี้นิ้วสั่ง
 
“โน่นไงครับ พี่นิต พี่เดินไปหาเลยครับ” พี่ยามบอกผม
 
ผมเดินไปหาพี่นิต กะจะยื่นนามบัตรพร้อมแนะนำตัว
 
พี่นิตทำหน้าบอกบุญไม่รับ แถมบอกผมอีกว่า
“อะไรกันคุณ เห็นมั๊ยว่าผมกำลังยุ่งอยู่ นี่มาจากไหนครับเนี่ย” พี่นิตเห็นหน้าผม ก็ออกน้ำเสียงไม่ดี ราวกับผมไปขโมยปลาทูที่แกตากทิ้งไว้เมื่อสองวันก่อน
 
“เอ่อ ผมเซลส์ขายน้ำมัน ที่โทรมานัดพี่ไว้เมื่อเช้านี้ครับ” ผมบอกพี่นิตไปตามความเป็นจริง ก็พี่รับนัดผมแล้วก็ต้องรับผิดชอบนะค้าบบบบ
 
“เหรอ ผมไม่ว่างอ่ะคุณ ไว้มาวันหลังนะ” พี่นิตบอกปัดแบบไม่แยแส แถมเดินตามคนงานเข็นเครื่องต่อไปโดยไม่สนใจผมซักนิด แม้แต่นามบัตรยังไม่รับไปเลย นี่ผมไม่ใช่คนขายลอตเตอรี่นะ พี่จะปฎิเสธผมง่ายๆขนาดนั้นเลยหรอ
 
ผมหงุดหงิดมากครับ เพราะหากรับนัดแล้วทำแบบนี้ ผมถือว่าโคตรเสียมารยาท ถ้าโรงงานพี่อยู่หลังบ้านผมก็พอว่า แต่นี่ล่อมาถึงเกือบนครปฐม ละพี่ทำแบบนี้ผม ผม ผม..... ว๊ากกกกกกก ผมนี่แทบบ้าไปเลยทีเดียวในวันนั้น
 
หนที่สาม ผมก็ทำนัดกับพี่นิตอีกรอบ คราวนี้ดูแกจะรับนัดอย่างจริงจังกว่าคราวแรก ผมทิ้งท้ายแซวแกอีกว่า “พี่ต้องไม่เบี้ยวผมแล้วน้าคราวนี้” เพราะหนนี้ผมเตรียมตัวอย่างน้ำมันมาสาธิตให้แกเห็นถึงประสิทธิภาพแบบเป็นมั่นเป็นเหมาะเลย จึงต้องมีการแบกอุปกรณ์การสาธิตไปด้วย หนักเป็นบ้า
 
ไปถึงโรงงานตามสเตปเดิม ให้ยามตามหาเพราะเบอร์มือถือก็ไม่รับเหมี๊ยนนนเดิมมมม ผมเริ่มท้องไส้ปั่นป่วนละ นี่พี่จะกล้าเบี้ยวนัดตรูสองรอบติดเลยเรอะ คนแบบนี้ก็มีด้วย
ผมรออยู่ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง ซักพักมีพนักงานหญิงคนนึงเดินมาหาผม มองปร๊าดเดียวก็รู้ว่าเป็นแอดมินประจำห้องช่าง..... เดี๋ยวๆๆๆๆ ไม่นะ พี่อย่าบอกนะว่า.........จะให้น้องแอดมินที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวมาดูผมสาธิตน้ำมันน่ะ....
 
ผลปรากฎว่าเป็นความจริงครับ ผมบอกเลยว่าเป็นเรื่องน่าเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ผมสาธิตน้ำมันให้น้องแอดมินดู แหม่ เหมือนจับผู้หญิงมาดูบอลน่ะครับ ตาน่ะมอง แต่ใจนี่ลอยไปไหนไม่รู้ น่ากลัวน้องเค้าคงกำลังคิดถึงตำปลาร้าที่กินค้างอยู่แน่ๆ พี่ขอโทษที่ทำให้น้องลำบาก
 
ผมขับรถกลับก็พลางคิดว่า หากพี่นิตยังอยู่นี่มีหวังต้องมาสมัครเป็นยามที่โรงงานล่ะมั้งถึงจะขายได้เนี่ย คิดไปพลางก็นึกว่า คนอารั๊ย ใจหมาได้ขนาดนี้ วินาทีนั้นผมตัดสินใจเลยว่า จะไม่เข้ามาขายของที่โรงงานนี้อีก งอนแล้วจริงๆ แต่ก็มีเงื่อนไขว่า ถ้าเปลี่ยนคนที่ไม่ใช่พี่นิตก็ค่อยว่ากันอีกที
 
หลังจากวันนั้นผมก็ตามอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ คอยโทรเช็คที่โรงงานตลอด โทรไปก็ขอสายพี่นิต ถ้าโอเปอร์เรเตอร์โอนสายให้ทันที ก็แสดงว่าพี่นิตยังอยู่ พอเค้าโอนผมก็วางเลย ไม่รอสาย ทำแบบนี้อยู่หลายเดือนเหมือนกัน จนได้ยินประโยคสวรรค์จากโอเปอร์เรเตอร์
 
“พี่คะ คุณนิต ลาออกแล้วค่ะ”
 
ก๊าซซซซซซ แล้ววันที่ผมรอคอยก็มาถึง ว่าแล้วว่าคนแบบนี้ไม่น่าจะอยู่ได้นาน ผมรีบถามเลยว่าใครมาแทน น้องโอเปอร์เรเตอร์เสียงน่ารักรีบบอกว่า ชื่อพี่ยักษ์ค่ะ
อืมมมมม ชื่อไม่ค่อยเป็นมงคลเท่าไหร่ แต่ผมก็รีบบอกให้โอนหาพี่ยักษ์แล้วทำการนัดหมายกับพี่ยักษ์ทันที
 
วินาทีที่เจอกับพี่ยักษ์และได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เหมือนฟ้าหลังฝน เหมือนคนที่รอเพื่อจะเจอกันมานานแสนนาน แต่เราก็หากันจนเจอ ผมกุมมือพี่ยักษ์แล้วบอกว่า แต่งงานกันเถอะนะพี่ เอ่อ ไม่ใช่ละ
 
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ผมเล่าให้พี่ยักษ์ฟังถึงเรื่องพี่นิต ว่าแกทำแสบกับผมขนาดไหน รวมถึงพี่มั่น ที่เคยเข้ามาพรีเซ้นท์ต่างๆ นานา แล้วก็ลาออกไป พี่ยักษ์บอกไม่เป็นไรนะน้อง เดี๋ยวพี่ดูให้เอง แถมพี่ยักษ์ยังทิ้งท้ายกับผมอีกว่า
 
“นิตมันไม่ได้ทำแบบนี้กับน้องคนเดียว ซัพพลายเออร์หลายรายก็เจอแบบนี้เหมือนกัน อันนี้พี่ฟังคนอื่นเค้าบ่นให้ฟังมาอีกที” นั่นประไร ผมไม่ใช่คนเดียวที่ซวยใช่มั๊ยพี่
 
“ออฟฟิศพี่การเมืองเยอะ เล่นพรรคเล่นพวกกันน่าดู คนถึงอยู่ไม่ค่อยทนกัน” พี่ยักษ์ทิ้งท้าย
 
อ่ะๆๆๆอ้าว แล้วพี่ยักษ์จะอยู่ทนมั๊ยล่ะครับนี่ ผมคิดในใจว่าเอาแว๊ววววตรู
 
โชคยังดีที่พี่ยักษ์เป็นคนทำงานจริงๆ แกบอกผมว่า ในช่วงที่พี่อยู่พี่จะเอาของเข้าสต็อกเบิกสินค้าให้ ต่อให้พี่ลาออก คนงานก็เบิกมาใช้ได้ ทำแบบนี้ยังไงออเดอร์ก็คงไม่หลุด ถ้าของน้องใช้แล้วแก้ปัญหาได้จริงก็ไม่ต้องห่วงอะไร เพราะตอนนี้พี่ก็วุ่นกับปัญหาที่น้องว่าอยู่พอดี ไอนิตมันทิ้งขี้ไว้ให้พี่เต็มเลย
 
ไม่นานจากนั้นผมก็ขายโรงงานนี้ได้จริงๆ จากการช่วยเหลือของพี่ยักษ์ นับรวมตั้งแต่วันที่มาหาพี่มั่นวันแรก ก็เกือบปีกว่าๆเลยทีเดียว
 
เกือบต้องมาสมัครเป็นยามที่โรงงานแล้วมั๊ยล่ะ
2
ขอฝากสำหรับทุกท่านที่รอเวอร์ชั่นรวมเล่มนะครับ
ที่ทุกท่านได้อ่านเป็น Case Study ที่ผมได้เขียนขึ้นสำหรับเวอร์ชั่นรวมเล่มโดยเฉพาะ และขณะนี้ได้เสร็จสมบูรณ์แล้วครับ แต่เสร็จสมบูรณ์เฉพาะเวอร์ชั่น e-book นะครับ โดยสามารถไปสั่งซื้อได้ที่เวปไซต์ e-book ยอดนิยม
Link สำหรับ MEB
Link สำหรับ ookbee
สำหรับ ookbee บางทีลิงค์ก็มีปัญหานะฮะ ยังไงลองเสิชชื่อ “เซลส์นอกตำรา” ได้เลย
ขอขอบคุณล่วงหน้านะครับผม
ส่วนเวอร์ชั่นหนังสือที่จัดพิมพ์ ตอนนี้กะลังชั่งใจอยู่ครับว่าจะพิมพ์ดีมั๊ย ถ้าพิมพ์ก็อาจจะเป็นจำนวนไม่มากแค่พอเป็นกระไส ถ้าพิมพ์แล้วจะมาแจ้งให้ทราบครับ
ส่วนในระหว่างนี้ก็จะทยอยลง case study ไปเรื่อยๆ
ยังไงฝากกดไลค์
Facebook Page: เซลส์นอกตำรา
ด้วยนะครับ
หากมีข่าวสารอะไร หรือมีข้อเขียนใหม่ๆ สนุกๆ ก็จะมาทยอยลงครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับกระผมมม
โฆษณา