Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Red Diary
•
ติดตาม
8 เม.ย. 2019 เวลา 10:30 • ประวัติศาสตร์
ฆาตกรนักสะสมเครื่องหนังมนุษย์ - Edward Theodore Gein #2 ตอนจบ
ทุกท่านสามารถย้อนอ่านตอนแรกได้ที่ลิ้งนี้เลยนะคะ
https://www.blockdit.com/articles/5caabcb63889ef0ff420cb14
สืบเนื่องจากตอนที่แล้ว มีการหายตัวของคนในเมืองมากขึ้น จะใช่ฝีมือของ เอ็ด กีน มั้ยน้าา ไปติดตามกันต่อได้เลยค่าา 🤗
Cr.dek-d
ในเพลนฟิลด์มีสถานที่หนึ่ง เรียกว่า "โรงเตี๊ยมของโฮแกน" เป็นบาร์เล็ก ๆ ในหมู่บ้านไพน์ โกรฟ เจ้าของร้าน คือ "มารี โฮแกน" วัย 55 ปี เธอเป็นหญิงหม้ายและเจ้าของร้านอาหารที่ เอ็ด กีน มักเข้าไปใช้บริการอยู่เสมอ
ในช่วงบ่ายของ วันที่ 8 ธันวาคม ปี ค.ศ. 1954 มีลูกค้าคนหนึ่งเข้าไปที่นั่น เขาไม่พบนางมารีสาวเจ้าของร้านเลย แต่เห็นเลือดกองใหญ่บนพื้นที่ประตูด้านหลังร้าน กับกระสุนปืนพกขนาด .32 ปลอกหนึ่ง และรอยเลือดปรากฏเป็นระยะ ๆ ไปจนถึงที่จอดรถและก็หายไป ทำให้เข้าใจว่านางมารีอาจถูกฆ่าและฆาตกรคงลากศพขึ้นรถไปจากตรงนั้น
จากการตรวจสอบสภาพร้านเพิ่มเติม พบว่า เหยื่อไม่มีการขัดขืนต่อสู้ แสดงว่าฆาตกรน่าจะเป็นคนรู้จักกับนางมารี และไม่ใช่ฆ่าเพื่อปล้นชิงทรัพย์ หรือขโมยของ เพราะเงินสดยังอยู่ครบ และไม่มีสิ่งของหรือของมีค่าใดหายไปเลยสักชิ้น ต่อมามีการตามหาศพของนางมารี แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครพบตัวเธอเลย
โรงเตี๊ยมของโฮแกน Cr.dek-d
คดีลึกลับของนางโฮแกน ได้แพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว มีแต่คนตั้งคำถามว่า "เกิดอะไรขึ้นกับนางมารี โฮแกน" บทสนทนานี้กลายเป็นเรื่องเล่าประจำวงโต๊ะของชาวบ้าน แต่อย่างไรก็ตาม มีข้อสันนิษฐานที่น่าสนใจและน่าเชื่อถือมากที่สุด
เอลโม เจ้าของโรงเลื่อยให้การกับตำรวจภายหลังว่า เขาเคยคุยกับเอ็ดเรื่องการหายตัวของนางโฮแกน เอ็ดตอบเขาว่าเธออยู่ที่ฟาร์มของเขานั่นแหละ ไม่ได้หายไปไหน ตอนนั้นเอลโมคิดว่าเอ็ดพูดเล่น จึงไม่ใส่ใจและถามอะไรเพิ่มเติม
นางโฮแกน เหยื่อรายแรกของ เอ็ด กีน
เช้าวันเสาร์ ที่ 16 พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 1957 ซึ่งเป็นฤดูล่ากวางของรัฐวิสคอนซิน คนส่วนใหญ่มักจะออกไปล่ากวางในเมืองเพลนฟิลด์กัน ทำให้ตัวเมืองในเวลานั้นเหมือนถูกทิ้งร้างไม่มีคน และร้านค้าส่วนใหญ่ปิด
หากแต่ นางเบอร์นิซ วอร์เดน หญิงหม้ายวัย 60 ปี เจ้าของร้านขายอุปกรณ์ในเมืองเพลนฟิลด์ ได้ตัดสินใจเปิดร้าน เอ็น กีน ถือว่าเป็นลูกค้าประจำของนางเบอร์นิซ หลายครั้งที่เขาเข้าร้าน มักจะสอบถามรายละเอียดเล็กน้อยกับนางเบอร์นิซโดยไม่ซื้ออะไร
นางเบอร์นิซ วอร์เดน Cr.dek-d
บางครั้งก็ซื้อของ แล้วจะยืนอยู่ที่นั่นสักครู่ก่อนที่จะออกไป บางครั้งเอ็ด กีน ก็ชวนนางเบอร์นิซ ไปเล่นสเก็ตน้ำแข็ง แต่เธอปฏิเสธ นางเบอร์นิซ มักบอกกับลูกชายตนเองเสมอ ว่า เอ็ด กีน เป็นคนประหลาด
และบอกว่า เคยเห็นเขาจอดรถกะบะที่หน้าร้านพร้อมกับส่งสายตาจ้องมองบริเวณนอกร้านอยู่นานสองนาน โดยหารู้ไม่ว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงกับเธอในอนาคต
ร้านขายของนางเบอร์นิซ
ในช่วงเย็นของวันนั้น แฟรงค์ ลูกชายของเบอร์นิซ กลับจากการล่าสัตว์ และแวะร้านขายอุปกรณ์ของแม่ เขาพบว่า ประตูร้านของแม่ล็อกเอาไว้ แต่มีไฟเปิดอยู่ด้านใน ซึ่งมันผิดปกติ เพราะน่าจะเป็นเวลาที่ร้านควรปิดได้แล้ว
เมื่อเปิดประตูเข้าไปข้างในก็พบเครื่องคิดเงินหายไป และไม่มีร่องรอยของการต่อสู้ แต่มีหยดเลือดกระจายอยู่บนพื้น แฟรงค์รีบแจ้งตำรวจทันที จากการสอบปากคำของคนในที่พื้นใกล้เคียง มีผู้พบเห็นรถส่งของของร้านแล่นผ่านไป เมื่อเวลาประมาณสามทุ่มครึ่ง
จากการสันนิษฐานคาดว่า ฆาตกรน่าจะเข้ามาในร้านตอนที่ไม่มีคนอยู่ และใช้ปืน (ทราบภายหลังว่าเป็นปืนไรเฟิล .22) ยิงเธอโดยไม่ทันรู้ตัว แล้วลากนำร่างของเธอใส่รถที่น่าจะเป็นรถบรรทุกออกนอกร้านเพื่อนำศพไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง
แฟรงค์และตำรวจ พบหลักฐานชิ้นสำคัญ คือ ใบเสร็จรับเงินที่ระบุได้ว่า เขาได้ขายของให้ใครบ้าง และสิ่งที่พบ คือ ชายที่เป็นลูกค้าประจำ ที่ชอบถามแฟรงค์ว่าพรุ่งนี้เช้าเขาอยู่หรือเปล่า
ซึ่งชายคนนั้นก็คือ เอ็ด กีน และก็มีพยานเห็นว่าวันที่เกิดเหตุนั้น เอ็ด กีน กำลังขนอะไรบางอย่างขึ้นหลังรถ
ในช่วงบ่ายเพื่อนบ้านคนหนึ่ง มาหาเอ็ด กีน ที่บ้าน และได้พบเห็นเขา มือเปื้อนเลือด หากแต่เขาตอบว่า เขาพึ่งแล่เนื้อกวางเสร็จ ซึ่งเพื่อนบ้านก็ไม่ได้สนใจอะไร ก่อนที่จะช่วย เอ็ด กีน ล้างรถ และรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน และนั่นเป็นมื้อสุดท้ายของ เอ็ด กีน กับเพื่อนบ้านก่อนที่เขาจะถูกจับกุมในเวลาต่อมา
ผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ทำการสำรวจบ้านฟาร์มของ เอ็ด กีน และพบว่าที่ประตูหลังไม่ได้ล็อก ทำให้เข้ามาได้อย่างง่ายดาย บรรยากาศในบ้านนั้นมืดมาก ทำให้ต้องใช้ไฟฉายเพื่อสะดวกในการเดินต่อไปข้างหน้า พวกเขาพบกับสภาพบ้านที่เต็มไปด้วยขยะ
สภาพภายในบ้านของ เอ็ด กีน
พวกเขาคิดว่ามันเหมือนกับในภาพยนตร์สยองขวัญสิ้นดี ก่อนที่สายตาของพวกเขาจะเห็นร่างกายของผู้หญิงหัวขาดคนหนึ่ง แขวนจากเพดานอย่างน่าสยดสยอง ซึ่งต่อมา ก็ระบุได้ว่าที่เห็น คือ นางเบอร์นิซ เจ้าของร้านขายของ นั่นเอง
เมื่อนายอำเภอเห็นภาพ ดังกล่าว ก็วิทยุขอความช่วยเหลือ และกำลังเสริมเพื่อสนับสนุนยกใหญ่ จากการตรวจสอบศพอย่างละเอียด พบว่า ร่างกายที่กลางตัวมีรอยผ่าชำแหละ อย่างชัดเจน ด้วยของมีคมบาดจากหน้าอกถึงอวัยวะเพศ
ร่างที่โดนผ่าและหัวของนางเบอร์นิซ
และนำเอาอวัยวะภายในออก ก่อนที่จะนำศพนั้นไปทำความสะอาด ก่อนที่จะถูกแขวนโดยมีลวดเบ็ดรัดข้อเท้าและข้อมือ แขวนกลับหัวราวกับลูกรอก
มันน่าเหลือเชื่อที่ว่ามนุษย์คนหนึ่ง จะสามารถอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ได้ เพราะภายในบ้านเต็มไปด้วยขยะและเศษซากจากเฟอร์นิเจอร์สกปรก เครื่องมือที่ทิ้งกระจุยกระจายที่ขึ้นสนิม อีกทั้งสิ่งปฎิกูลและอุจจาระ
นอกจากนี้ในชั้นหนังสือที่ห้องนอนของเขา พบนิตยสารนักสืบ การ์ตูนสยองขวัญ และหนังสือเกี่ยวกับการแพทย์ กายวิภาค และ เนื้อหาที่เกี่ยวกับการแปลงเพศ
ไม่นานหลังจากนั้นฟาร์มของ เอ็ด กีน ก็ถูกล้อมรอบด้วยรถตำรวจ มีการนำเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเข้ามาช่วยเหลือในการสำรวจบ้าน และเปิดแสงไฟสาดส่องภายในบ้าน ก็เปิดเผยสิ่งน่ากลัวที่ซุกซ่อนอยู่ในบ้าน
อาทิ เช่น กระโหลกศรีษะของมนุษย์หลายหัวกระจัดกระจายอยู่ห้องครัว บางอันถูกตัดครึ่ง และบางอันถูกนำมาใช้เป็นภาชนะใส่น้ำ บางอันถูกใช้เพื่อเป็นขาเตียงของเอ็ด กีน
กระโหลกที่เอ็ด กีน นำมาใส่น้ำ
และเมื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า เก้าอี้ในห้องครัวหลายตัวทำมาจากชิ้นส่วนของผิวหนังของมนุษย์ และชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์สะสมในกล่อง เป็นต้นว่า จมูก อวัยวะเพศมากมาย แต่ชิ้นส่วนเหล่านี้ไม่ปรากฏหลักฐานว่าเป็นของใคร หรือ มีที่มาที่ไปอย่างไร
แต่เชื่อว่า เอ็ด กีน น่าจะเป็นคนขุดศพเหล่านี้มาจากสุสานในป่าช้า เขามักติดตามข่าวการตายของคนในท้องถิ่น และเมื่อสบโอกาสเขาจะขโมยศพตอนกลางคืน
ที่น่าขนลุกสุด คือ รายการของสะสมสุดสยองของ เอ็ด กีน ซึ่งเขาเรียกว่า "อุปกรณ์แปลงร่าง" ที่ประกอบไปด้วยผิวหนังมนุษย์ที่ถูกถลกหนังศีรษะมาทำหน้ากาก นัยน์ตากลวงโบ๋ ถึงแม้จะถูกถลกออกมาแล้ว แต่มันดูสมบูรณ์ชนิดที่ญาติจำหน้าเจ้าของหนังหน้าแบบเดิมได้
หน้ากากมนุษย์ Cr.liekr
และหนึ่งในนั้น คือ นางแมรี่ โฮแกน เหยื่อแม่ม่ายสาวรายหนึ่งของ เอ็ด กีน กับคอลเลคชั่นเข็มขัดที่ประดับประดาไปด้วยหัวนมสตรีเพศที่ถูกตัดออกจากร่างแล้วนำมาเย็บตรึงกับเข็มขัด มันมีจำนวนถึง 17 ชิ้น (หัวนมด้วยกัน)
กล่าวกันว่า เมื่อพระจันทร์เต็มดวงเมื่อใด เอ็ด กีน จะสวมเสื้อผิวหนังมนุษย์ เข็มกลัดหัวนม ใส่หน้ากากหนังมนุษย์ และ เอาอวัยวะเพศหญิงที่ตัดแล้วใส่ในกางเกงใน จากนั้นก็เต้นรำต่อแสงจันทร์ ซึ่งเชื่อว่า เป็นการไว้อาลัยให้กับแม่ของเขา
1
เข็มกลัดหัวนมที่ เอ็ด กีน ประดิษฐิ์ขึ้นเอง
ที่ห้องครัวถือเป็นห้องที่น่ากลัวที่สุดในการเข้าตรวจค้น ภายในเต็มไปด้วยฝุ่นมหาศาล และ เต็มไปด้วยซากศพ ตำรวจได้พบอวัยวะชิ้นส่วนต่าง ๆ ในกล่องกระดาษและในถุง บางส่วนถูกชะโลมน้ำมันเพื่อให้ผิวศพยังคงนุ่มอยู่ ตำรวจเชื่อว่า ศพนั้นเป็น นางมารี โฮแกน เจ้าของบาร์ที่หายไปเมื่อ 3 ปีก่อน
Cr.liekr
และยังพบหัวใจถูกชำแหละใส่ถุงพลาสติกเก็บไว้ในครัวด้วย ห้องอื่น ๆ ยังพบศพแห้งของนางออกัสต้า แม่ของ เอ็ด กีน ด้วย
และที่น่าขนลุกสุด ๆ เมื่อทีมตรวจค้นเปิดปากถุงขยะก็พบ หัวของนางเบอร์นิซ วอร์เดน ที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรก เลือดจับตัวกันเป็นก้อนรอบๆจมูก ใบหน้าเธอดูสงบ
จากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า ที่หัวของเธอมีตะขอแขวนเข้าด้วยกันกับเชือก ซึ่งเอ็ด กีน พยายามที่จะแขวนหัวของเธอบนผนังเหมือนกับชิ้นส่วนอื่น ๆ ในห้องของเขา
เป็นงานหนักของผู้เชี่ยวชาญนิติเวชและนักสืบเป็นอย่างมาก บางคนถึงจะเป็นผู้เชียวชาญมาหลายปี ยังแทบเตรียมใจไม่ได้ในการตรวจสอบบ้านที่เต็มไปด้วยศพและซากมนุษย์ และ กลิ่นเหม็นที่สุดเหลือทน
สิ่งของที่ทำมาจากหนังมนุษย์
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ค้นหาและตรวจสอบ ยังคงทำหน้าที่อยู่ที่บ้านของเขา เอ็ด กีน ก็ยังคงรออยู่เงียบ ๆ ในเรือนจำ ท่ามกลางอารักขาของตำรวจ มีการสอบสวนเขา หลายต่อหลายครั้งยาวนานต่อเนื่องถึง 12 ชั่วโมง แต่เอ็ด กีน เงียบ และไม่ให้คำให้การใดๆ
จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น เอ็ด กีน ก็ได้รับสารภาพว่าเขาเป็นคนสังหาร นางเบอร์นิซ โดยเขาให้การว่า ได้ลากศพเธอหลังจากฆ่าที่ร้านขายของมาที่รถเขาและนำไปไว้ในป่าบริเวณใกล้เคียง ก่อนขับรถกลับมาเมืองอีกครั้งเพื่อมารับศพนำไปไว้ในฟาร์มและจัดการชำแหละร่างและแขวนศพ
รถที่ เอ็ด กีน ใช้เคลื่อนย้ายศพ Cr.dek-d
เอ็ด กีน ให้การเพิ่มว่า ตอนกลางคืนเขาจะเดินทางไปสุสานหลายแห่งเพื่อขุดศพที่ตายใหม่ ๆ เอากลับบ้าน เขาจำไม่ได้ว่าทั้งหมดกี่ศพ และยืนยันว่าไม่ได้ฆ่าเจ้าของชิ้นส่วนเหล่านั้น อีกทั้งไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ใด ๆ กับศพ และปฏิเสธว่าไม่ได้กินเนื้อศพ
ตำรวจควบคุมตัว เอ็ด กีน Cr.liekr
ในขณะที่ถูกสอบปากคำ เอ็ด กีน ไม่ได้แสดงอาการเศร้าโศกเสียใจ หรือ แสดงความรู้สึกใด ๆ เลย เขาให้การเกี่ยวกับการฆาตกรรมเหล่านั้นรวมถึงการลักลอบขุดศพด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น
1
ข่าวของ เอ็ด กีน แพร่กระจายไปทั่วชิคาโก สื่อหลายสำนักได้ตั้งฉายาเขาว่า "นักชำแหละแห่งเพลนเฟิลด์" ด้วยพฤติกรรมและการก่ออาชญากรรมของเขา ซึ่งชาวเมืองเพลนเฟิลด์ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมามีสัตว์ประหลาดน่ากลัวอาศัยอยู่ร่วมกับพวกเขา
เอ็ด กีน ถูกทดสอบทางจิตวิทยา โดยจิตแพทย์ ด้วยวิธีเดิม ๆ ครั้งแล้ว ครั้งเล่า เขาถูกจับเข้าเครื่องจับเท็จ และเขายืนยันว่า เขาฆ่าเพียงนางมารีและนางเบอร์นิซเท่านั้น โดยให้เหตุผลว่า "เธอทั้งสองไม่ใช่ผู้หญิงที่ดี" และชิ้นส่วนต่าง ๆ ในบ้านของเขา ก็ขโมยมาจากสุสานที่แอบลักลอบไปขุดศพมาเพื่อชำแหละ
แต่ที่น่าสนใจคือ การทดสอบไอคิว เขามีไอคิวสูงกว่าระดับค่าเฉลี่ย แม้เขาจะมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร เน้นการใช้คำง่าย ๆ แต่ได้ข้อสรุปที่ว่าเขามีสภาวะทางจิตที่บกพร่อง
จิตแพทย์ระบุว่าเขาเป็นโรคจิตเภท Schizophrenia คือ มีบุคลิกภาพที่แตกแยกและมีความวิปริตทางเพศ ทำให้บางครั้งมีพฤติกรรมที่ไร้เหตุผลและไม่รู้สึกสำนึกผิด
ต่อมาศาลได้ออกคำตัดสินให้ เอ็ด กีน ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลจิตเวท ชื่อ เซ็นทรัล สเตท หลังจากแพทย์วินิจฉัยแล้ว พบว่าเขาเป็นคนผิดปกติทางจิตอย่างรุนแรง ทำให้ประชาชนในเมืองไม่พอใจกันถ้วนหน้า เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรง และทำให้เมืองของพวกเขาเสื่อมเสียชื่อเสียง
ชีวิตของ เอ็ด กีน ในโรงพยาบาลบ้านั้น ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด เพราะเขาได้รับการปฏิบัติเหมือนผู้ป่วยทางจิตคนอื่นๆ ไม่ใช่นักโทษ เขายังคงมีสิทธิที่จะทำอะไรได้หลายอย่าง เช่น อ่านหนังสือ ทำงานฝีมือ ขัดหิน ถักพรม หรือติดตามข่าวสารทางวิทยุ นางพยาบาลที่รับผิดชอบดูแลเขา เอ่ยปากชมว่า เขาเป็นคนไข้ที่ดีเยี่ยม
เอ็ด กีน ขณะเขียนหนังสืออยู่ในโรงพยาบาล
และในวันที่ 26 กรกฏาคม ปี ค.ศ. 1984 เอ็ด กีน ได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคมะเร็ง เขาทุกข์ทรมานแสนสาหัสและตายอย่างช้า ๆ บนเตียงในโรงพยาบาลบ้า ศพของเขาถูกนำไปฝังอย่างเงียบ ๆ เคียงข้างศพของนางออกัสต้ามารดาผู้เป็นที่รักของเขา
ถึงแม้ เอ็ด กีน จะจากไปแล้วแต่ก็ยังไม่สงบนัก เพราะป้ายหลุมศพของเขาถูกบุกรุกอยู่เนื่องๆ เพราะถือว่าเป็นของมีค่าสำหรับนักสะสม ปัจจุบันหลุมฝังศพและสิ่งของสะสมเนื้อมนุษย์ต่าง ๆ ถูกนำไปตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์
และ เอ็ด กีน คนนี้เอง ที่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์ที่ดัดแปลงเรื่องราวชีวิตจริงของเอ็ด กีน หลากหลายมากมาย (แต่เรดชื่นชอบ The Texas Chain Saw Massacre 1974 เป็นพิเศษเลย) แล้วทุกท่านละคะ เคยดูเรื่องไหนมาบ้าง ชื่นชอบตัวละครเรื่องไหนเป็นพิเศษเอ่ย มาคอมเม้นพูดคุยกันได้นะคะ ขอบคุณค่าาา
RIP Edward Gein
Red Diary นำเครื่องประดับบางส่วนของ เอ็ด กีน มาให้ได้ชมกันด้วยค่า
ถุงมือที่ทำมาจากหนังมนุษย์ Cr.liekr
ลิ้นมนุษย์ ที่ เอ็ด กีน นำมาทำเป็นสร้อย Cr.liekr
คอลเลคชั่นของ เอ็ด กีน Cr.liekr
Cr.wtfintheworld
หากท่านใดชื่นชอบ กดไลค์ กดแชร์ และกด Follow ให้กับเราด้วยนะคะ เรายินดีจะนำบทความดี ๆ ที่น่าสนใจมานำเสนอแก่ทุกๆท่านค่า ขอบคุณค่ะ ❤ 😁
Cr. k.cammy , postjung , wikipedia , petmaya , dekd , liekr
Written by. Red Diary ❤
15 บันทึก
49
13
5
15
49
13
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย