20 พ.ค. 2019 เวลา 01:30 • สุขภาพ
ไขความลับ...เบาหวานทำลาย”ไต”ด้วยวิธีใด?
ไตเป็นหนึ่งในอวัยวะที่มีหน้าที่สำคัญมากๆในร่างกายของมนุษย์ ไตคอยกรองของเสียต่างๆ รวมถึงน้ำและเกลือแร่ส่วนเกินในเลือด และขับทิ้งออกไปทางปัสสาวะ ดังนั้นถ้าไตเกิดมีโรคและทำงานได้น้อยลง ก็จะทำให้เลือดของพวกเรามีของเสียสะสมคั่งค้าง
1
เมื่อพูดถึงตัวการที่ทำให้ไตเป็นโรคนั้น คงอาจไม่มีใครเชื่อว่าโรคใกล้ตัวที่ถูกมองข้ามอยู่บ่อยๆอย่างเบาหวานจะถือเป็นตัวการที่พบได้บ่อยที่สุด และทำให้ไตทำงานน้อยลงจนถึงขั้นไตวายระยะสุดท้าย ดังนั้นถ้าคุณพบเจอใครกำลังล้างไตอยู่ คุณก็อาจเดาได้เลยว่าพวกเขาน่าจะเป็นเบาหวานมาก่อนอย่างแน่นอน
ถ้าใครกำลังดูถูกโรคเบาหวานอยู่ ใครที่กำลังดูถูกขนมหวานที่กินทุกๆวันอยู่ ผมจะเล่าให้ฟังว่าโรคเบาหวานนั้นทำลายไตของมนุษย์ได้ด้วยวิธีใด
ไตของมนุษย์นั้นเปรียบเหมือนเครื่องกรองน้ำ โดยไตแต่ละข้างนั้นประกอบไปด้วยตัวกรองขนาดจิ๋วที่เรียกว่า”เนฟรอน”ในระดับแสนถึงล้านตัว เนฟรอนแต่ละตัวก็จะมีแผ่นกรองของเสียเป็นของตัวเองซึ่งก็ประกอบไปด้วยเซลล์จำนวนมากที่มาเรียงตัวกันเป็นร่างแห โดยแผ่นกรองของเสียเหล่านี้ก็จะกรองของเสียเฉพาะที่มีขนาดเล็กๆเท่านั้น ส่วนของเสียขนาดใหญ่ๆจะไม่สามารถผ่านไปได้ เช่น เม็ดเลือด โปรตีนต่างๆ ต้องรอแตกสลายเป็นโมเลกุลเล็กๆเสียก่อน ดังนั้นโดยปกติแล้วจะไม่มีของพวกนี้ผ่านการกรองไปเป็นปัสสาวะได้
เบาหวานถือเป็นภัยร้ายโดยตรงต่อแผ่นกรองของเสียเหล่านี้ด้วยวิธีต่างๆมากมาย น้ำตาลในเลือดที่ข้นหวานจะทำให้แผ่นกรองนี้เสื่อมสภาพลง ทำให้ไตไม่สามารถกรองของเสียบางอย่างไว้ได้ โดยเฉพาะ”โปรตีน” ซึ่งชนิดของโปรตีนที่นิยมตรวจก็คือโปรตีนที่เป็นชนิดเดียวกับ”ไข่ขาว” ดังนั้นหลายๆคนอาจเคยได้ยินคำว่า”ไข่ขาวรั่วในปัสสาวะ”
การมีไข่ขาวรั่วในไต เป็นจุดเด่นของภาวะ”เบาหวานลงไต” เป็นตัวการที่พบได้บ่อยมากๆที่ทำให้ไตเสื่อมเรื้อรัง ลองนึกภาพแหจับปลาที่มีตาข่ายขาดเพียงเล็กน้อย แต่มีปลาตัวใหญ่ตัวหนึ่งรั่วออกไปได้ดูนะครับ มันก็มีแนวโน้มที่ปลาตัวใหญ่ที่รั่วออกไปนั้นจะไปดึงรั้งทำให้แหจับปลายิ่งรั่วมากขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วก็ยิ่งทำให้มีปลาตัวใหญ่รั่วมากขึ้นอีก จนสุดท้ายแล้วแหจับปลาก็อาจขาดหลุดลุ่ยจนไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป สำหรับการมีไข่ขาวรั่วนั้นก็ไม่ต่างกันมากมายนัก แผ่นกรองของเสียก็มีแนวโน้มที่จะเสียหายไปเรื่อยๆเช่นกัน โดยปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้แผ่นกรองเหล่านี้ยิ่งเสื่อมเร็วมากขึ้นไปอีกก็คือ เลือดที่ข้นหวาน ร่างกายที่อ้วนพลี ความดันที่สูงปรี๊ด และการสูบบุหรี่ ใครมีครบทุกอย่างพวกมันก็จะรวมพลังช่วยกันฉีกไตคุณออกเป็นชิ้นๆ
การมีไข่ขาวรั่วแบบนี้ พวกคุณไม่ต้องหวังว่ามันจะมีอาการใดๆบอกคุณนะครับ เพราะส่วนใหญ่แล้วมันไม่มีอาการหรอก ยกเว้นรั่วมากๆจนปัสสาวะเป็นฟอง แต่การที่ปัสสาวะเป็นฟองก็อาจไม่ได้เกิดจากไข่ขาวรั่วได้เช่นกัน ดังนั้นการที่จะรู้ว่ามีไข่ขาวรั่วนั้นมีทางเดียวก็คือการตรวจปัสสาวะ แต่ใครที่ไม่อยากตรวจร่างกายเพราะไม่อยากรู้ว่ามีไตเสื่อมหรือไม่ พวกมันก็ไม่สนใจนะครับ พวกมันก็รั่วต่อไปเรื่อยๆ รั่วจนหลุดลุ่ยไม่รอใคร ดังนั้นการตรวจสุขภาพประจำปี จึงเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้คุณรู้ว่าเริ่มมีความผิดปกติที่จุดไหนและรีบหาทางแก้ไขมันตั้งแต่ยังเป็นน้อยๆ
นอกจากนี้ คนส่วนใหญ่ยังมักเข้าใจผิดว่าการมีปัสสาวะปริมาณมากอยู่นั้นแปลว่าไตยังทำงานดีอยู่ แต่พวกคุณต้องรู้ว่าปัสสาวะที่ออกมานั้น อาจมีแต่น้ำเปล่าทั้งหมด โดยที่ไม่มีของเสียออกมาเลยเพราะไตเสียจนกรองอะไรไม่ได้เเล้ว ปล่อยน้ำออกมาเเต่เก็บของเสียไว้ในร่างกายทั้งหมด บางคนไตทำงานเหลือ10%แล้วก็ยังมีปัสสาวะออกมาปกติได้อยู่เลย
ความจริงก็ยังมีวิธีอื่นๆอีกเหมือนกันที่เบาหวานทำลายไตของพวกเรา แต่คงยากเกินไปที่จะลงรายละเอียดทั้งหมด เอาเป็นว่ารู้เพียงคร่าวๆให้เห็นความสำคัญก็แล้วกันนะครับ
คนเป็นเบาหวานนั้นมักมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆตามมามากมาย เช่น หัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน เส้นเลือดในสมองตีบ สูญเสียการมองเห็น และภาวะไตวายที่ได้เล่าไปในบทความนี้ แม้สิ่งเหล่านี้อาจดูน่าสะพรึงกลัวและดูสิ้นหวัง แต่มันก็ยังมีด้านดีๆอยู่เหมือนกันครับ เพราะการป้องกันภาวะแทรกซ้อนหนึ่งๆ มักเป็นการป้องกันภาวะแทรกซ้อนทั้งหมดที่เหลือด้วยเช่นกัน การควบคุมอาหารเป็นหัวใจของการป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ถ้าใครอยากอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องอาหาร โหลดคู่มือนี้ได้เลย -> https://goo.gl/jqgjKc
นอกจากนี้การออกกำลังกาย การลดความอ้วน เลิกสูบบุหรี่ ก็สำคัญไม่แพ้กัน ใครทำได้ทั้งหมด ก็สมควรได้รับร่างกายที่แข็งแรงเป็นรางวัล ส่วนใครยังทำไม่ได้ ก็ไม่มีคำว่าสายเกินไปครับ หาแรงบันดารใจของตัวเองให้เจอ แล้วมาดูแลสุขภาพกันเถอะครับ
#Healthstory
อย่าลืมกดLike&Shareด้วยนะครับ^^
ติดตามเรื่องราวสุขภาพดีๆอีกได้ที่
Blockdit : Healthstory - เรื่องสุขภาพ ง่ายนิดเดียว
โฆษณา