9 มิ.ย. 2019 เวลา 04:12 • ธุรกิจ
จุดเริ่มต้นของ
"NESCAFÉ แก้วสีแดง" ที่เราคุ้นเคย
.
ปีค.ศ.1866 อองรี เนสท์เล่ (Henri Nestle) ชาวสวิตเซอร์แลนด์ได้ก่อตั้งบริษัท Farine Lactee Henri Nestle เพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมสำหรับเด็กที่คุณแม่ไม่สามารถให้นมได้
1
Henri Nestle
ต่อมา ปี 1867 ชาร์ลส์ เพจ (Charles Page) กงสุลสหรัฐในสวิตเซอร์แลนด์ และน้องชาย จอร์จ เพจ (George Page) 2 พี่น้องชาวอเมริกัน ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท Anglo-Swiss Milk ขึ้นที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อผลิตและจำหน่ายชีสและอาหารสูตรสำหรับเด็ก
จึงทำให้ทั้ง 2 บริษัทกลายเป็นคู่แข่งทางการค้าที่แข่งกันขยายตลาดไปทั่วยุโรปและอเมริกา
ต่อมาได้ยุติการแข่งขันลง โดย
ทั้ง 2 บริษัทได้ควบรวมกิจการกันในปี 1905 ภายใต้บริษัทชื่อ Nestle and Anglo-Swiss Condensed Milk เป็นบริษัทใหม่มีโรงงานอยู่ใน สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี และสเปน
และต่อมาเปลี่ยนมาใช้ชื่อ" Nestlé "
สัญญาลักษณ์ของบริษัท Nestlé เป็นรูปแม่นกและลูกนกในรัง นกที่ใช้เป็นสัญญาลักษณ์นั้นเป็นนกชื่อว่า Tuilittle net ได้มาจากตราประจำตระกูลของ อองรี เนสเลย์ คำว่า Nestléในภาษาเยอรมัน แปลว่า รังนกเล็กๆ ซึ่งสื่อถึงความรัก ความอบอุ่น ความปลอดภัย
Nestlé เริ่มต้นธุรกิจด้วยการผลิตอาหารประเภทนมและอาหารเสริมสำหรับเด็ก และต่อมาได้ขยายกิจการไปยังธุรกิจผลิตอาหารอื่นๆ อีกกว่า 15,000 ชนิด
ในปี 1929 เกิดความท้าทายที่ Nestlé จะต้องช่วยเก็บรักษาเมล็ดกาแฟส่วนเกินในประเทศบราซิล ซึ่งเป็นผลมาจากเหตุการณ์หุ้นตกอย่างหนักที่ตลาดหลักทรัพย์วอลล์สตรีท และ Nestlé ได้ยอมรับความท้าทายนั้น
Max Morgenthaler
ปี 1930 Nestléได้ขยายไลน์การผลิตสินค้ามาเป็นกาแฟ โดย
คุณ Max Morgenthaler ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟได้เริ่มภารกิจในการคิดค้นกาแฟรสชาติดีซึ่งชงด้วยการเติมน้ำเท่านั้น Max และทีมของเขามุ่งมั่นทำงานอย่างหนักเพื่อค้นหาวิธีการใหม่ในการผลิตกาแฟสำเร็จรูปซึ่งสามารถรักษารสชาติของกาแฟตามธรรมชาติเอาไว้ได้
ในปี 1938 พวกเขาก็ได้ค้นพบสูตรซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดของ NESCAFÉ ชื่อนี้มาจากตัวอักษรสามตัวแรกใน Nestlé และเติมท้ายด้วย ‘café’ หลังจากนั้น NESCAFÉ จึงกลายเป็นชื่อใหม่ในอุตสาหกรรมกาแฟ
NESCAFÉ เปิดตัวเป็นครั้งแรกใน
สวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 1 เมษายน 1938 และในปี 1939 ในช่วงสงครามนั้น NESCAFÉ เป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในชุดอาหารหลักของกองทัพสหรัฐฯ และเหล่าทหารต่างชื่นชอบกาแฟยี่ห้อนี้ เพราะเป็นกาแฟที่ชงได้รวดเร็ว สะดวกและรสชาติดี ทำให้ NESCAFÉ โด่งดังมาก
ก่อนปี 1960 NESCAFÉ มีจำหน่ายเฉพาะแบบกระป๋องเท่านั้น
ต่อมาในปี 1961 เปิดตัวผลิตภัณฑ์ในขวดแก้วรุ่นแรกในประเทศญี่ปุ่นและ ในปี 1962 ได้เปิดตัวขวดแก้วในยุโรปเช่นเดียวกัน
ในปี 1969 NESCAFÉ ได้เดินทางไปกับลูกเรืออะพอลโล 11 Neil Armstrong, Buzz Aldrin และ Michael Collins ในภารกิจบุกเบิกของพวกเขา เป็นกาแฟยี่ห้อแรกที่ลงจอดบนดวงจันทร์
สำหรับเนสท์เล่ในประเทศไทย ได้เริ่มขึ้นมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2436 ดังปรากฏหลักฐานเป็นภาพโฆษณา ชิ้นแรกของนมข้นหวานตรา “แหม่มทูนหัว” ลงในหนังสือพิมพ์บางกอกไทมส์ ฉบับประจำวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2436
จากนั้นธุรกิจประสบความสำเร็จด้วยดีโดยการนำผลิตภัณฑ์หลายชนิดเข้ามา จาก ต่างประเทศ และในปี พ.ศ. 2490 ได้มีการจัดตั้งบริษัท “โปรเนสยาม อินค์” จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ เนสท์เล่
ต่อมาในปี พ.ศ. 2511 ผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง จึงได้สร้างโรงงานผลิตขึ้นและได้เปิดบริษัทต่างๆขึ้นอีกมากมาย
ปัจจุบัน กลุ่มเนสท์เล่ ประเทศไทย มีโรงงานผลิตหลายแห่ง จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มประเภทต่างๆ ทั่วประเทศภายใต้เครื่องหมายการค้าเช่น
เนสท์เล่ตราหมี,เนสกาแฟ,เนสท์เล่คอฟฟีเมต,เนสท์เล่ไมโล,เนสท์เล่เพียวไลฟ์,เนสวิต้า, เนสท์เล่ไอศกรีม ,เนสท์เล่เพียวริน่าและอื่นๆ
1
คุณประยุทธ มหากิจศิริและคุณกึ้งลูกชาย
กลุ่มเนสท์เล่ที่ผลิตกาแฟแบรนด์
"เนสกาแฟ"ในประเทศไทยนั้นมี
คุณประยุทธ มหากิจศิริ ถือหุ้นอยู่
ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวไทย ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท พีเอ็มส์ กรุ๊ปส์ เจ้าของบริษัทไทยน็อคซ์ สเตนเลส และไทย คอปเปอร์ และเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟเลควูด
หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ 'เจ้าพ่อ
เนสกาแฟ' (คุณประยุทธ มหากิจศิริ)
ที่คนทั่วไปเข้าใจว่า เขาเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ และ บริษัท เนสท์เล่(ไทย)จำกัด
แต่ความจริงเขาเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทควอลิตี้คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัดเป็นโรงงานผลิตเนสกาแฟ โดยถือหุ้นอยู่ 50% และไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์เนสกาแฟหรือบริษัทเนสท์เล่(ไทย)จำกัด โดยตรงแต่อย่างใด
บริษัทควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส จำกัด ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2535 ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท คือ กาแฟผงสำเร็จรูป ภายใต้เครื่องหมายการค้า “เนสกาแฟ” โดยมีกำลังการผลิตในปัจจุบัน 40,000 ตัน/ ปี
รายได้บริษัทควอลิตี้ คอฟฟี่ โปร
ดักท์ส จำกัด(บริษัทผลิตเนสกาแฟ)
ปี 2558
รายได้ 16,450 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 2,653 ล้านบาท
ปี 2559
รายได้ 14,822 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 2,932 ล้านบาท
ปี 2560
รายได้ 15,478 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 2,780 ล้านบาท
โฆษณา