11 มิ.ย. 2019 เวลา 03:49 • ท่องเที่ยว
ไปโรมาเนียแต่คิดถึงกรุงแคนเบอร์ร่า : โรมาเนีย – บัลกาเรีย (๑)
การเดินทางท่องเที่ยวกับทัวร์ในแต่ละครั้ง​อาจพบกับคนที่รู้ใจไม่มากก็น้อย​ หลังจากนั้น​ ก็อาจติดต่อและส่งข่าวซึ่งกันและกัน
ตอนที่เดินทางไปประเทศแถบทะเลบอลติ​ค​ ได้พบเพื่อนที่​ถูกอัธยาศัย​ ​๒​ คู่​ อยู่ใน​ กทม.​๑​ คู่​ และอยู่ที่เชียงใหม่อีก​ ๑​ คู่​ ซึ่งก็ได้ติดต่อกันเรื่อยมา
คู่ที่เชียงใหม่นั้น​มีลูกอาศัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกา​ จึงไปเยี่ยมลูกและหลานบ่อยครั้งๆ​ ละนานๆ​ จึงยังไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวด้วยกันอีก
สำหรับคู่ใน​ กทม.​นั้น​ ก็ส่งข่าวคราวการท่องเที่ยวซึ่งกันและกัน​ ตอนที่ไปจอร์เจีย​ ก็พยายามจะไปพร้อมกัน​ แต่ทัวร์เต็ม​ จึงตามไปในรายการต่อมา
คราวนี้นัดหมายกันล่วงหน้านานมากสำหรับการไปท่องเที่ยวที่ประเทศโรมาเนียและประเทศบัลกาเรีย ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ผู้เขียนยังไม่เคยไปเยือนมาก่อน
แล้ว​ผู้เขียนและคุณสายพิณ​ ภรรยา ​ก็ได้พบกับ​คุณกิตติและคุณ​อรทัย​ ถาวรอยู่​ (คุณหมูและคุณมด)​ ด้วยความดีใจ​
ก่อนที่ท่านผู้อ่านจะได้อ่านต่อไป​ ขอเรียนย้ำตรงนี้อีกครั้งหนึ่งว่าการเดินทางไปเที่ยวที่ไหนๆ​ กับทัวร์ใดๆ นั้น​ กลับมาเขียนก็ใช้โปรแกรมของทัวร์เป็นหลัก​แล้วนำความรู้ที่ได้รับเพิ่มเติมจากไกด์​ ทั้งไกด์คนไทยและไกด์ท้องถิ่นมาประกอบการเขียนด้วย
ข้อมูลที่ได้รับอาจคลาดเคลื่อนไปบ้างโดยเฉพาะที่ได้รับจากไกด์ท้องถิ่น​ เพราะสำเนียงและความเข้าใจที่ได้รับอาจไม่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์​ ขออย่าจริงจังอะไรให้มากนัก อ่านเพลินๆ สนุกสนานกันดีกว่านะครับ หากต้องการข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด ก็อาจหาได้ไม่ยากนักจากกูเกิ้ล​
นอกจากนี้ การเขียนของผู้เขียนก็ไม่ได้เขียนแบบนำเที่ยว​ เพราะได้สอดแทรกความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ​ ให้ผู้อ่านได้ทราบด้วย
มีสิ่งหนึ่งที่อยากเรียนให้ผู้อ่านได้ทราบไว้ก่อนว่า แม้ว่าซิมโทรศัพท์ (Sim) ที่ใช้ในต่างประเทศ อาจซื้อได้ที่เมืองไทยซึ่งมีทั้ง ๓ ค่าย ในราคา ๘๙๙ บาท ก็ตาม แต่ได้เพียง ๑ กิ๊ก เท่านั้น
ในขณะที่น้องคนหนึ่งที่เดินทางไปด้วยกันแจ้งว่า ซื้อซิมที่ใช้ในยุโรป ๒๐ กิ๊ก ในราคาเพียง ๑๐๙๗ บาท เท่านั้น ของผู้เขียนโหลดรูปขึ้นเฟสบุ๊คได้ไม่นานก็ต้องเติมเงินอีก ๘๐๐ บาท เพราะเน๊ตหมด
ดังนั้น ก่อนไปประเทศในแถบยุโรปก็ลองค้นหาในกูเกิ้ลดูก่อนนะครับ ผู้เขียนไม่อยากโฆษณาชื่อซิมให้ หากอยากทราบก็ถามผู้เขียนได้โดยตรงได้ครับ
ครับ...​ก็ขอต่อนะครับ แม้ว่าได้เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิก่อนเวลานัดหมายมาก แต่เจ้าหน้าที่ของทัวร์ได้มารอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว​ (แฮะๆๆ เป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ทัวร์ไปถึงก่อนเวลานัดหมาย)
ดังนั้น คราวนี้จึงได้เข้าไปภายในสนามบินเร็วหน่อย​ มีเวลาเยอะมาก​ก่อนขึ้นเครื่อง ต้องแวะหาเลานจ์นั่งพัก​ โดยที่เพื่อนเป็นสมาชิกกันคนละเลานจ์​ จึงต้องแยกกันเดินแล้วรวมกันตีที่​ Gate ที่เครื่องออก
ตามโปรแกรมเครื่องบินออกจากกรุงเทพฯ เวลา ๒๓.๔๕ น. ​เพื่อบินสู่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย​ โดยสายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ เป็นเครื่องใหญ่ครับ​ จัดที่นั่ง​ ๓-๔-๓ แต่เนื่องจากคืนนั้นพายุกระหน่ำสุวรรณภูมิ​ กว่าเครื่องออกได้ก็เป็นเวลา​ ๐.๒๕ น. ​ช้ากว่าที่กำหนดไว้ ๔๐ นาที
ใช้เวลาบิน​ประมาณ​ ๑๐​ ชม.​ครึ่ง​ มีอาหารเย็นบริการด้วยครับ​ แต่ดึกเกินไป ผู้เขียนจึงขอไวน์แดงเพียงแก้วเดียว​ ส่วนอาหารเย็นนั้นขอให้แอร์เก็บไว้กินในตอนเช้า ได้หลับไม่นานหรอกครับ​ ประมาณ​ ๕​ ชั่วโมง แต่ก็เพียงพอสำหรับการท่องเที่ยวในวันใหม่
ประมาณ ๒​ ชั่วโมง ก่อนเครื่องลง ซึ่งเวลาในเมืองไทยก็ประมาณเก้าโมงเช้า​ ขึงขออาหารเย็นที่ให้แอร์เก็บไว้​ กินเสร็จรออีกครึ่งชั่วโมง​ ก็เสริฟอาหารเช้า​ ทำแบบนี้ก็ดีนะครับ​ ท้องไม่โหยจนเกินไป
ถึงกรุงเวียนนา​ ​เวลา​ ๐๖.๑๐ น. ​ช้ากว่าที่กำหนดไว้เดิม​ ๓๕ นาที​ แต่ก็ทันเวลาที่จะขึ้นเครื่องลำใหม่ที่เดินทางต่อไปกรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย โดยสายการบินเดิม ซึ่งออกเวลา​ ๐๗.๑๐​ น.​
ที่สนามบินเวียนนาก็แค่เดินผ่านเพื่อเข้าไปตรวจเช็คอีกครั้งหนึ่ง​ ที่นี้ตรวจเข้มครับ เพราะคราวที่แล้วพบมีดเล็กๆ ในกระเป๋าที่หิ้วขึ้นครื่อง ทั้งๆ ที่ผ่านการตรวจที่สุวรรณภูมิแล้ว
คราวนี้เจ้าหน้าที่ตรวจพบหลอดยาสีฟันที่โตไปนิดหนึ่ง​ (ที่สนามบินสุวรรณภูมิผ่านได้สบายครับ) แต่เจ้าหน้าที่ก็ให้ผ่านได้​ เพื่อไม่ให้มีปัญหาอีก ขากลับจึงใส่กระเป๋าใบใหญ่​ คราวหน้าคราวหลังต้องใช้ยาสีฟันหลอดเล็กๆ​ แล้วละครับ
ที่สนามบินเวียนนาฝนตกครับ​ โชคดีที่เครื่องที่ผู้เขียนได้ใช้บริการนั้นใช้งวงครับ​ เลยไม่ต้องเปียกเหมือนอีกหลายเครื่องที่จอดอยู่กลางลาน
เที่ยวบินเที่ยวนี้ใช้เครื่องบินลำเล็กกว่าครับ​ จัดที่นั่งแบบ​ ๒-๒​ จากกรุงเวียนนาใช้เวลาบินประมาณ​ ๑ ชม.​ ๒๐ นาที​ ถึงสนามบินโอโธเพนนี ประเทศโรมาเนีย เวลา​ ๙.๔๕ น.
ก่อนจะเที่ยวโรมาเนียและบัลกาเรีย อนากให้ท่านผู้อ่านได้เห็นแผนการเดินทางของผู้เขียนก่อนนะครับว่าการเดินทางครั้งนี้ไปเมืองไหนบ้าง จะได้เห็นแผนที่ทั้งสองประเทศไปด้วย
ที่สนามบินโอโธเพนนี​ ระหว่างคอยกระเป๋า ก็เหลือบตาดูสินค้าปลอดภาษา แต่เนื่องจากเป็นสนามบินที่ไม่ใหญ่โตนัก จึงมีสินค้าให้ซื้อได้ไม่มาก แต่ผู้เขียนก็ไม่ได้ให้ซื้ออะไรหรอกครับ​
หลังจากออกจากสนามบินโอโธเพนนี ก่อนการเดินทางไปยังเมืองโคเซีย (Cozia) ระยะทางประมาณ ๒๐๕ กม. นั้น ได้แวะกินอาหารกลางวันกันก่อน
สิ่งแรกที่ชอบมากๆ ตั้งแต่ตอนนั่งรถบัสแล้วก็คือต้นไม้และสวนสาธารณะครับ เพราะผู้เขียนเป็นคนชอบต้นไม้ ตอนที่อยู่ที่แคนเบอร์ร่า ออสเตรเลีย หลายต่อหลายคนไม่ค่อยชอบเพราะเป็นเมืองที่เงียบสงบ พูดเล่นกันว่า หลัง ๖ โมงเย็นแล้ว มดสักตัวก็ไม่มี แต่ผู้เขียนชอบมาก เพราะมีต้นไม้เยอะมาก
ได้กินอาหารกลางวันซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองโรมาเนียมื้อแรกครับ​ อาหารจานหลัก (Main​ course)​ คือหมูปิ้งกับข้าวคลุกเนย (ให้ดูภาพหน่อยเพราะทำรูปร่างแปลกดีครับ) เริ่มต้นด้วยซุปและสลัดก่อน รสชาติของอาหารหรือครับ ก็งั้นๆ​ แหละ​ครับ
แต่ที่ชอบมากในร้านอาหารนี้ก็คือภาพวาดสีน้ำมันครับ​ สวยครับ...สวย
จากร้านอาหารกลางวันเดินทางต่อ จุดหมายปลายทาง​ คือ​ วิหารโคเซีย (Cozia Monastery) ถ่ายภาพมาให้ดูสภาพทั่วๆ ไปก่อนครับ​ ออกนอกเมืองก็เป็นโรงงานอุตสาหกรรมและไร่ข้าวโพด มีรถใช้แล้ว (Used car) ขายเยอะมากครับ
ได้เห็นหมู่บ้านในชนบทของโรมาเนีย ทราบว่าหากเป็นบ้านชั้นเดียวซึ่งมีเป็นส่วนใหญ่เป็นคนยากจนครับ​ มี​ ๒​ ชั้น​ บ้างประปรายนั้น คือบ้านของคนที่มีอันจะกิน
ชาวชนบทส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม​ ปลูกเอบเปิ้ล​ แพร์​ เชอร์รี่​ แต่ทราบว่าส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรจากประเทศอื่นที่มีความรู้สมัยใหม่มาเช่าที่ปลูกผักอินทรีย์​ ผักที่นี่อร่อยเพราะดินดีครับ
สัตว์เลี้ยงที่นั่น​ ​เช่น​ แกะ​ นั้นเลี้ยงโดยวิธีธรรมชาติ​ ใช้สุนัขไล่ต้อนขึ้นไปบนภูเขา​ หน้าหนาวก็ต้อนลงมาในพื้นราบ​ ทำให้สัตว์เหล่านี้ได้ออกกำลังกาย​ เนื้อที่ได้จึงเป็นเนื้อสัตว์ชั้นดี
แม่น้ำที่เห็นในภาพคือแม่น้ำอาเจ็ค ซึ่งไหลไปรวมกับแม่น้ำดานูปที่มีชื่อเสียงของประเทศออสเตรีย ซึ่งผู้เขียนเคยไปนั่งกินอาหาร ดื่มไวน์และฟังเพลงริมแม่น้ำนี้มาแล้ว
แวะเข้าห้องน้ำที่ปั้มน้ำมัน ที่โรมาเนีย เกือบทุกปั้มมีห้องน้ำบริการครับ ฟรีครับ ไม่เหมือนห้องน้ำในประเทศยุโรปอื่นซึ่งเก็บค่าเข้าห้องน้ำ ๑ – ๒ ยูโร
ใช้ห้องน้ำเขาแล้วก็อุดหนุนเขาหน่อยครับ น้ำลิปตันแพงกว่าเบียร์นะครับ เบียร์ขวดละ​ ๓.๕๐ เล​ (Lei)​ แต่น้ำลิปตัน​ขวดละ​ ๔.๓๐ เล (1USD = 3.62 Lei)
ออกมาจากปั้มก็เห็นรถขนแกะเข้าโรงเชือด สังเกตไหมครับว่าเขามีพัดลมระบายอากาศให้ด้วย เรียกว่าให้ความสุขแก่แกะก่อนตายว่างั้นเถอะ
ไม่อยากให้แต่ละตอนยาวเกินไป ก็ขอจบตอนที่ ๑ แค่นี้ก่อนนะครับ ตอนต่อไปค่อยไปชมวิหารโคเซีย (Cozia Monastery) นะครับ
พุธทรัพย์ มณีศรี
โฆษณา