ชมสถานที่ที่งดงามที่สุดของยุโรป : โรมาเนีย – บัลกาเรีย (๒)
จุดแรกที่ชมคือวิหารโคเซีย (Cozia Monastery) วิหารนี้ตั้งริมแม่น้ำโอล์ตในแคว้นวัลลาเชีย สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. ๑๓๘๗ เป็นหนึ่งในวิหารที่สวยงามมากครับ สร้างโดยปู่ของเจ้าชายวลาด เทเปส หรือ แดร็กคูล่า เป็นสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์ รอบๆ วิหารโคเซียเป็นที่พักของพระ
มีเสียงเล่าลือว่าที่โรมาเนียมีสถานสุขภาพที่ช่วยให้คนมีหน้าตาสดใส ดูอ่อนกว่าวัย ผู้เขียนไปถึงที่แล้วครับ นี่ไงครับ น้ำแร่ที่นำไปอาบ แม้ไม่มีโอกาสได้อาบหรือแช่ ก็นำมาล้างหน้าก็ยังดี กลับไปเมืองไทยหน้าตาหนุ่มขึ้น อิอิอิ
เข้าไปดูภายในวิหารโคเซียกันครับ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซูและนักบุญในคริสต์ศาสนา ถือเป็นศิลปกรรมชิ้นเอกครับ
ทราบว่าที่วิหารนี้ ยังเป็นที่เก็บสะสมงานศิลป์และวัตถุโบราณล้ำค่า และในปัจจุบันวิหารนี้ยังใช้ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์และศาสนกิจของผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์
จากนั้นจึงเดินทางต่อไปยังเมืองซีบิว (Sibiu) ระยะทาง ๕๕ กม. สองข้างทางมีทิวทัศน์ที่สวยงามครบเครื่องครับ เพราะมีทั้งภูเขา ต้นไม้ ลำธารและหิมะ โดยเฉพาะต้นไม้สีแตกต่างกัน สวยงามจริงๆ ครับ
ถ่ายภาพแทบไม่ทันเพราะไกด์ท้องถิ่นบอกช้าไปหน่อย ก็หอคอยเก่ากั้นเขตแดนแคว้นวาลาเซีย ซึ่งกรุงบูคาฃาเรสตั้งอยู่ และแคว้นซานซิวาเนีย ซึ่งเมืองซีบิวตั้งอยู่
ถึงเมืองซีบิวแล้ว ไกด์ท้องถิ่นอธิบายว่าเมืองซีบิวเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดแห่งแคว้นทรานซิลวาเนีย อยู่ระหว่างเทือกเขาทรานซิลวาเนียไปและโอล์ต แวเลย์
เป็นเมืองซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้เมื่อ ปี ๒๐๐๔ และในปี ค.ศ. ๒๐๐๗ ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรป ติดอันดับสถานที่ที่งดงามที่สุดของยุโรป รวมทั้งเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดของโรมาเนียด้วย
บ้านเรือนมีความโดดเด่นสวยงามตามแบบสถาปัตยกรรมเยอรมันที่มีสีสันสวยงามดั่งเมืองตุ๊กตา เชื่อไม่เชื่อก็ดูจากภาพเหล่านี้และภาพต่อๆ ไปได้ครับ
Main Square และโบสถ์ซีบิว (Sibiu’s Evangelical Cathedral) ซึ่งเป็นโบสถ์เก่าแก่กลางเมืองที่สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. ๑๓๒๐ จนแล้วเสร็จในปี ค.ศ. ๑๕๒๐
เป็นสถาปัตยกรรมโกธิคตามแบบของเยอรมัน ผสมผสานกับศิลปะดั้งเดิมของโรมาเนีย ตัวโบสถ์มียอดแหลม ๕ ยอด ยอดที่สูงสุดวัดได้ คือ ๗๔ เมตร ในอดีตเคยเป็นที่กักขังและฝังศพบุตรชายของเจ้าชายวลาด เทเปส (ท่านแดร็กคูล่า)
นี่คือสะพานโกหก เดิมสะพานนี้ไม่มีชื่อหรอกครับ แต่โดยที่สะพานแห่งนี้เป็นที่ล่ำลาของทหารหาญและแฟนสาวที่ให้สัญญาว่าจะกลับมาหาอีก แต่ก็ไม่ได้กลับมาตามสัญญา อาจตายไปในสงครามหรือไปหาสาวใหม่คนอื่นก็ไม่มีใครทราบได้ สะพานนี้จึงได้ชื่อว่าสะพานโกหก
ร้านอาหารเย็นวันนั้น เป็นอาคารไม้ ทั้งภายนอกและภายในใช้ไม้แกะสลัก ดูแปลกตาดีครับ ได้ร่วมกันถ่ายภาพหมู่ของทัวร์คณะนี้กันเป็นครั้งแรกหน้าร้านนี้ด้วย
ออกมารอรถมารับ ได้เห็นกำแพงเมือง ที่ประเทศโรมาเนียนั้น เมืองส่วนใหญ่จะสร้างกำแพงไว้ป้องกันตัวเองครับ เมืองซีบิวมีกำแพงทั้งหมด ๓ ชั้น ชั้นที่เห็นนี้อยู่นี้เป็นชั้นนอกสุดครับ
ที่ซึ่งรอรถบัสนั้น มีที่ขายตั๋วรถเมล์ด้วยครับ ตั้งอยู่ติดกับป้ายรถเมล์ ใบละ 2 เล ก็แปลกดีครับ เพราะไม่เคยเห็นที่ขายตั๋วรถเมล์มาก่อน
คืนนั้นพักที่ Hilton Sibiu ครับ ห้องพักสะอาดสะอ้าน กว้างขวาง อาหารเช้าก็ดีครับ ผู้เขียนซึ่งไม่ชอบอาหารฝรั่งกินได้ก็แล้วกันครับ บรรยากาศในห้องอาหาร ห้องล๊อบบี้และหน้าโรงแรมก็สวยงามครับ
หลังจากได้พูดคุยกับคนขับรถแล้ว เช้านี้ได้ที่นั่งพิเศษครับหน้ารถ ทำให้ถ่ายภาพได้ชัดเจน แล้วก็ได้นั่งเช่นนี้ตลอดการเดินทางครับ
เส้นทางระหว่างเมืองซีบิวและเมืองซีกิสวารา (Sighisoara) ระยะทาง ๘๕ กม. นั้น เห็นสภาพการทำมาหากินของชาวบ้านเป็นอย่างดี อาชีพเลี้ยงสัตว์ ปลูกผัก ที่สำคัญมีต้นไม้เขียวชอุ่ม ร่มรื่น ดูสบายตาเป็นที่สุด
ผ่านเมืองมีเดียส์ (Medias) เมืองนี้เป็นเมืองที่ผลิตก๊าซบีเทนที่ใหญ่ที่สุดในโรมาเนีย ต่อท่อไปขายถึงรัสเซีย
ที่นี่มีโบสถ์ 2 นิกาย ออธอร์ด๊อกและแคธอลิค ของออธอร์ด๊อกมียอดแหลม ๕5 ยอด ส่วนของแคธอลิคมีกำแพง เวลามีศึกสงครามชาวเมืองก็เข้าไปอาศัยอยู่ในวัดนี้แหละครับ
อยากให้ชมบ้านยิบซีครับ นี่เป็นลักษณะหนึ่ง ที่กรุงบูคาเรสต์ก็เป็นอีกแบบหนึ่งนะครับ เสียดายที่ถ่ายชาวยิบซีไม่ทัน มัวแต่ดื่มเบียร์เพลิน
แล้วก็เดินทางถึงเมืองซีกิสวารา (SIGHISOARA) แต่โดยที่เมืองนี้มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง ไว้คอยอ่านในตอนต่อไปนะครับ
พุธทรัพย์ มณีศรี
ติดตามอ่านตอนที่แล้วมาได้ที่
ตอนที่ ๑ ไปโรมาเนียแต่คิดถึงกรุงแคนเบอร์ร่า
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
