เมื่อสุนัขอาจมีความสามารถในการตรวจพบก้อนมะเร็ง!
ถ้าคุณกำลังดูถูกความสามารถในการดมกลิ่นของสุนัขแล้วล่ะก็ ผมคิดว่าคุณอาจต้องกลับไปนั่งคิดใหม่แล้วล่ะครับ
ด้วยจำนวนเซลล์รับกลิ่นในจมูกของสุนัขที่มีหลายร้อยล้านเซลล์ (มนุษย์มีเพียง 5 ล้านเซลล์) พวกมันสามารถรับรู้กลิ่นที่ระดับความหนาแน่นน้อยกว่าระดับการรู้ของจมูกพวกเราได้ถึง 100 ล้านเท่า ถ้าคุณสามารถได้กลิ่นน้ำหอมในห้องเล็กๆของคุณแล้วล่ะก็ สุนัขก็สามารถรับรู้กลิ่นนั้นๆในสนามกีฬาขนาดใหญ่ และยังสามารถแยกแยะส่วนประกอบได้เลยด้วยซ้ำ
ลองนึกเล่นๆดูนะครับ ขนาดประเทศอเมริกาที่ขึ้นชื่อเรื่องเทคโนโลยีสงครามเนี่ย ก็ยังใช้สุนัขในการค้นหาระเบิดกันจนถึงทุกวันนี้เลย ถ้าจมูกของสุนัขไม่ดีอย่างที่ว่าจริง เขาคงไม่ไว้วางใจให้พวกมันทำงานที่สำคัญมากๆแบบนี้แน่นอน แล้วทำไมพวกมันจะไม่สามารถแยกกลิ่นเชื้อโรคต่างๆและรวมถึงก้อนมะเร็งได้ล่ะ
จากงานวิจัยที่ผ่านมา นักวิจัยพบว่าสุนัขสามารถตรวจพบกลิ่นของก้อนมะเร็งได้หลายๆชนิด โดยการฝึกให้มันดมกลิ่นจากแหล่งต่างๆ เช่น ผิวหนัง ลมหายใจ ปัสสาวะ อุจจาระ เหงื่อ เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่น พวกมันสามารถตรวจพบมะเร็งลำไส้ใหญ่จากอุจจาระได้ แม้ว่าจะเป็นมะเร็งระยะแรกๆก็ตาม หรือว่าสามารถตรวจพบมะเร็งปอดได้จากลมหายใจ เป็นต้น
ล่าสุดศาสตราจารย์โทมัส ควินน์ จาก Lake Erie College of Osteopathic Medicine ในเพนซิลเวเนีย ประเทศอเมริกา ได้ลองเลี้ยงและฝึกสุนัขพันธ์ุบีเกิ้ล 3 ตัวให้ฝึกดมกลิ่นเลือดจากผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดกับเลือดของคนปกติ โดยฝึกให้มันนั่งลงเมื่อเจอกลิ่นของเลือดจากผู้ป่วยมะเร็งปอด
หลังจากฝึกได้ 8 สัปดาห์ พวกมันสามารถตรวจพบกลิ่นของมะเร็งปอดได้โดยมีความไว(sensitivity) ถึง 96.7% และความจำเพาะ(specitivity) ถึง 97.5% แถมวิธีการตรวจยังปลอดภัยไม่มีความเสี่ยงใดๆเลย (ยกเว้นอาจโดนสุนัขกัดถ้ามันตรวจเจอมะเร็งนะครับ555)
ถ้าถามว่าเรื่องนี้มีประโยชน์แค่ไหน ผมก็ต้องบอกว่าถ้าเรื่องนี้สามารถทำได้จริงแล้วล่ะก็ ประเทศกำลังพัฒนาอย่างเรานี่แหละจะได้รับประโยชน์อย่างมากเลยล่ะครับ เพราะจนถึงตอนนี้ประเทศไทยก็ยังไม่มีวิธีการคัดกรองมะเร็งปอดแต่อย่างใด เพราะว่าต้องใช้เครื่องมือที่มีราคาแพงมากๆอย่างเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ซึ่งราคาอยู่ในระดับเริ่มต้นที่หลักสิบล้านขึ้นไป ทำให้คนไทยจำนวนมากมักตรวจเจอโรคมะเร็งปอดก็ต่อเมื่อพวกเขาเริ่มมีอาการแล้ว หรือก็คือก้อนมะเร็งลุกลามใหญ่โตเเล้วนั่นเอง
แม้ว่าการศึกษาเรื่องนี้จะยังอยู่ในช่วงขึ้นต้น และยังต้องมีการศึกษาอีกมากมายเพื่อให้ใช้ได้จริงนะครับ แต่ไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้ก็จะมีประโยชน์ต่อพวกเรามากมายอย่างแน่นอน อย่างเช่นในอนาคตเราอาจไม่ได้จำเป็นต้องใช้จมูกสุนัข แต่สร้างจมูกหุ่นยนต์ขึ้นมาเสียเลย เป็นต้น ซึ่งก็ต้องเฝ้าดูกันต่อไปว่าองค์ความรู้และเทคโนโลยีในเรื่องนี้จะสามารถพัฒนาไปได้อีกไกลแค่ไหนนะครับ
#Healthstory
อย่าลืมกดLike&Shareด้วยนะครับ^^
ติดตามเรื่องราวสุขภาพดีๆจากปากหมออีกได้ที่
Blockdit : Healthstory - เรื่องสุขภาพ ง่ายนิดเดียว
Facebook : www.facebook.com/HealthstoryThailand
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
