5 ส.ค. 2019 เวลา 11:05 • ปรัชญา
แม่จ๋า...หนูขอโทษ👩🏻🙏
“…มีสตางค์นี่นะช่างดีเหลือเกิน
มีสตางค์จะทำอะไรก็เพลินจะตาย
ไม่ต้องดิ้นต้องรน จะนกจะไม้
จะเอาอะไรก็ชี้ มีสตางค์ก็คงจะดีนะเออ
เพียงแต่คนอย่างเรานะมันไม่ค่อยจะมี
พยายามประคับประคอง สุดท้ายก็ได้เท่านี้…”🎤
.
.
หลับตาฟังเพลงนี้ซ้ำไปซ้ำมานานนับสิบชั่วโมง
ตั้งแต่รถโดยสารเคลื่อนตัวออกจากกรุงเทพฯ
จวบจนใกล้จะถึงจุดหมายปลายทาง...
.
อำเภอเชียงคาน~~ แต่เราก็ยังคงฟังเพลงเดิมอย่างไม่รู้สึกเบื่อหน่าย เพราะเนื้อหาของเพลงช่างตรงกับความทุกข์ภายในใจของฉันเสียเหลือเกิน
.
.
ย้อนไปช่วงเย็นของเมื่อวาน ขณะกำลังช่วยแม่
ปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเหมือนเช่นทุกวัน ผู้ชายคุ้นหน้าคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้านแล้วพูดกับแม่ว่า ...
.
“ป้าแต๋วครับ ลูกชายผมกำลังจะเข้าอนุบาล
เดือนหน้าแล้วครับ แต่ผมยังไม่มีเงินเลย หายืมที่ไหนก็ไม่มีใครให้ ผมขอยืมเงินป้าแต๋วสักสามพันได้ไหมครับ ต้นเดือนหน้าผมจะคืนให้…ช่วยผมสักครั้งเถอะนะครับ ผมจะไม่ลืมพระคุณเลย”
.
พูดจบเขาก็ยกมือไหว้แม่ แม่ตอบด้วยน้ำเสียง
เห็นใจว่า “ได้สิกอล์ฟ เดี๋ยวป้าไปหยิบให้นะ
มีเงินเมื่อไหร่ค่อยเอามาใช้ป้าก็ได้จ้ะ”
.
เราเห็นเหตุการณ์โดยตลอด และจำได้ดีว่า
ผู้ชายคนนี้ เคยยืมเงินแม่มาแล้วครั้งหนึ่ง
แต่ก็ยังคืนเงินไม่ครบ เราโกรธแม่มากพลางคิด
ในใจว่า ทำไมแม่ถึงได้ใจดีแบบนี้น๊ะ 😡😡
.
หลังจากที่ผู้ชายคนนั้นกลับไป เราถามแม่ด้วย
น้ำเสียงกระด้างว่า “ ทำไมแม่ต้องให้คนอื่น
ยืมเงินตลอดเลย ทั้งที่เราช่วยกันทำงานอย่าง
หนัก เราจะช่วยกันเก็บเงินไว้ปลูกบ้านไม่ใช่เหรอ
บางวันหนูต้องอดมื้อกินมื้อ แต่แม่เอาแต่สงสาร
คนอื่น ไม่เคยสงสารหนูบ้างเลยรึไง ”
.
สิ้นเสียงของเรา. แม่ร้องไห้ด้วยความเสียใจ
วินาทีนั้น. เรารู้สึกโมโหมาก ฉวยกระเป๋าเงินได้
ก็วิ่งไปโบกรถแท็กซี่ให้ไปส่งที่ขนส่งหมอชิต
ในทันที ในใจคิดว่าคอยดูนะ เราจะไม่อยู่กับ
แม่อีกแล้ว จะหนีออกจากบ้าน.!!!😡😡
Photo by Ashley Gerlach on Unsplash
.
เมื่อมาถึงอำเภอเชียงคาน เราเดินหาที่พักที่หรูหราที่สุด เพราะอยากประชดแม่ด้วยการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย...
.
หลังจากได้ที่พักราคาหลายพันบาทต่อคืนแล้ว
ก็เดินไปตลาด เพราะไม่มีอะไรติดตัวมาเลย ...
ระหว่างนั้น..ก็ยังคิดน้อยใจแม่ไปตลอดทาง
.
เดินผ่านร้านค้ามากมาย แต่ไม่มีกะจิตกะใจ
จะซื้ออะไรสักชิ้น จนกระทั่งสายตาหันไปเห็น
ยาหม่องขวดใหญ่ เลยนึกขึ้นได้ว่าแม่เคยบ่น
ปวดคอ จึงหยิบยาหม่องขึ้นมาอ่านสรรพคุณดู
.
สักครู่แม่ค้าก็บอกว่า “ใช้ดีนะราคาไม่แพงด้วย หลวงพ่อฝากมาขายค่ะ เงินทุกบาททุกสตางค์ทำบุญเข้าวัดภูช้างน้อยทั้งหมดเลย…”
.
“ถ้าวันนี้คุณว่างก็ลองไปกราบหลวงพ่อที่วัดได้
นะคะ ท่านใจดีมาก” ไหนๆวันนี้ก็ไม่มีอะไรจะทำ
อยู่แล้วจึงไปกราบหลวงพ่อให้สบายใจดีกว่า
.
เราขี่จักรยานที่เช่ามาแล้วถามทางชาวบ้านไปเรื่อย ๆ จนถึงวัดภูช้างน้อย หลังชมบรรยากาศรอบวัดได้ครู่หนึ่ง ก็เดินเข้าไปกราบท่าน
เจ้าอาวาสที่ศาลาการเปรียญ ท่านยิ้มอย่าง
ใจดีพร้อมกับบอกว่า...
.
“โยมเดินทางมาจากไหนล่ะ มาเหนื่อย ๆ
ลองทานชามะก่องข้าวดูก่อนนะ อร่อยดี
ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ด้วยนะ”
.
เราเกรงใจ..พยายามบ่ายเบี่ยง แต่ท่านก็ส่ง
น้ำชาแก้วโตมาให้ เรายกชาขึ้นจิบ ก่อนจะ
ตอบท่านว่า ...
.
“หนูมาจากกรุงเทพฯค่ะ มาซื้อยาหม่องของ
หลวงพ่อ ก็เลยแวะขึ้นมากราบด้วยเลยเจ้าค่ะ” .
.
หลวงพ่อยิ้มอย่างใจดีแล้วพูดว่า “มาไกลเลยนะ วันนี้พอมีเวลามั้ยล่ะ อาตมาจะสอนวิธีทำสมุนไพรมะก่องข้าวให้เอามั้ย จะได้ช่วยกันเอาไปเผยแพร่ สมุนไพรดี ๆ ทั้งนั้นเลย”
เราสนใจศึกษาเรื่องสมุนไพรอยู่แล้ว จึงรีบเดินตามหลวงพ่อไปที่อีกด้านของศาลาการเปรียญ เห็นคุณป้าสามคนนุ่งขาวห่มขาวช่วยกันห่อ
ใบไม้สีเขียวแห้ง ๆ (ต่อมาทราบว่าคือใบมะก่องข้าวตากแห้ง) ด้วยผ้าขาวบางอย่างขะมักเขม้น คุณป้าหันมายิ้มหวานให้
.
หลังจากหลวงพ่อแนะนำให้เรารู้จักกันแล้ว
เราก็อาสาช่วยงาน พร้อมช่วยหลวงพ่อต้มยาหม่องใบหมี่ด้วย กว่างานจะเสร็จ ล่วงมาจนเย็น
กราบลาหลวงพ่อ ท่านรีบหยิบชามะก่องข้าว
ยาสระผมใบหมี่ ครีมนวดผมใบหมี่ และยาหม่องใบหมี่ใส่ถุงใบใหญ่ให้..หลวงพ่อบอกกับเราว่า....
.
“โยมเอาไปฝากคนที่โยมรักนะ ฝากพ่อแม่ ฝากเพื่อนก็ได้ ช่วยกันบอกต่อสมุนไพรดี ๆ ยิ่งถ้า
ใครอยากได้ต้นไปปลูกด้วยก็ยิ่งดีใหญ่เลย
หลวงพ่อมีให้เยอะเชียว” พูดจบท่านก็ยิ้มกว้างอย่างใจดีอีกครั้ง เรารับของฝากจากท่านพร้อม
กับตั้งใจจะช่วยเผยแพร่ตามเจตนารมณ์ของท่านให้ดีที่สุด
ขากลับปั่นจักรยานจากวัด กลับที่พัก..
อย่างทุลักทุเล เพราะจักรยานคันเล็กบรรทุก
ของฝากเต็มไปหมด ระหว่างทาง..รู้สึกปลื้มปีติ
ในความใจดีของหลวงพ่อ แต่ยิ่งซาบซึ้งใจมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งโกรธและเสียใจกับการกระทำ
ของตัวเองมากเท่านั้น😥😓
.
🥺 เราหนีแม่มาที่นี่ และรู้สึกมีความสุขเมื่อ
คนอื่นหยิบยื่นไมตรีจิตมาให้ แต่เรากลับโกรธ
และขัดขวางแม่..ไม่ให้มอบไมตรีจิตให้คนอื่น
.
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกละอายเหลือเกิน เพราะทำให้
แม่ต้องร้องไห้ เพราะความตระหนี่ถี่เหนียวและ
เห็นแก่ตัวของเราเอง
พอถึงโรงแรม ตัดสินใจเก็บข้าวของทั้งหมดซึ่งมีเพียงของฝากจากหลวงพ่อและกระเป๋าเงินอีกหนึ่งใบ แล้วเดินทางขึ้นรถโดยสารกลับกรุงเทพฯทันที
.
ตลอดเวลาที่อยู่บนรถ เรานั่งคิดคำขอโทษแม่มากมายหลายร้อยคำ แต่พอถึงหน้าร้าน..กลับ
นึกคำขอโทษที่สวยหรูไม่ออก ได้แต่วิ่งเข้าไปหาแม่แล้วพูดกับแม่ว่า...
.
“แม่จ๋า หนูขอโทษ” แม่กอดเราแน่นแล้วตอบว่า .
.
“แม่ก็ขอโทษหนูเหมือนกันลูก แม่ผิดเองที่ไม่ปรึกษาหนูก่อน” เราสองคนกอดกันร้องไห้โฮ
โดยไม่อายสายตาคนอื่นเลย…
ตกเย็นช่วยแม่เก็บร้าน พร้อมกับเล่าเรื่องราว
ดี ๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่เชียงคานให้แม่ฟัง และ
บอกแม่ว่า “ต่อไปหนูจะไม่ทำให้แม่เสียใจอีกแล้ว ถ้าแม่เห็นสมควรว่าจะให้ใครยืมเงิน หรือจะทำบุญแบบไหน หนูก็จะไม่ขัดขวางอีกแล้วค่ะ” สิ้นเสียงของเรา. แม่ก็ยิ้มหวานอย่างมีความสุข
🎈ปริมาณของความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับ
ปริมาณของเงินทองในกระเป๋า 💼💵💰
แต่ขึ้นอยู่กับ..ความสุขใจที่ได้เป็นผู้ให้..
โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ ต่างหาก
🌱ชีวิตคนเรามันสั้นนัก..ลืมให้ไว อภัยให้เร็ว ..
ยิ้มให้เหมือนไม่เคยโกรธ ..
หัวเราะเหมือนไม่เคยร้องไห้ ..
รักเหมือนไม่เคยอกหัก ..
ตักตวงแต่ความสุข
🌎"เพราะโลกมันกว้าง คนข้างๆจึงสำคัญ"
เรื่อง: Secret
#ปีนป่ายตะกายฝัน
#ปันปัน
โฆษณา